KHR AuS.Fic HBD.Yama [8059] --- Heart of DEMON : หัวใจราชันย์ ---


KHR Au S.Fic HBD.Yama [8059] --- Heart of DEMON : หัวใจราชันย์ ---



เขา....ผู้ซึ่งยืนอยู่เหนือซากศพและกาลเวลา กลับปราชัยให้แก่ความงดงามอันบริสุทธิ์

เธอ....ผู้ถูกเรียกว่าศรัทธา กลับหลั่งน้ำตาให้แก่ราชันย์แห่งรัตติกาล

.
.
.
.
.

สิ่งที่ไม่อาจเป็นไปได้ แต่หัวใจกลับเพรียกหา....

.
.
.
.

เพียงเพราะว่า....


จอมราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่....กลับสูญเสียหัวใจให้แก่....ดอกไม้ที่อ่อนแอ


.
.
.
.
.
.
.
.
  

---  Heart of DEMON : หัวใจราชันย์ ---
  
: KHR Fanfiction Au
: 8059
: Period Romance Dark Fantasy Angst  
: NC-17 ++


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ








ยะ.....อย่าเข้ามานะ!!!! ช่วยด้วย!!! ใครก็ได้ช่วยด้วย!!!”


เสียงหวีดร้องอย่างหวาดกลัวสุดชีวิตนั้นไพเราะยิ่งกว่าบทเพลงใดๆ เสียงฝีเท้าที่วิ่งไกลออกไปยิ่งทำให้รอยยิ้มของผู้ไล่ล่านั้นเผยออกมาที่มุมปากอย่างถูกใจ



แฮ่ก....แฮ่ก.....



เสียงหอบหายใจสอดประสานกับชีพจรที่กำลังเต้นระรัวด้วยความกลัวยิ่งทำให้เลือดในกายของผู้ล่าเต้นระริกด้วยความสนุกสนาน




มนุษย์ไม่ได้มีค่าอันใด นอกเหนือไปจากเหยื่ออันโอชะ....




ใบหน้าคมยิ้มเย็นขณะก้าวขาเข้าหาเหยื่อที่นั่งตัวสั่นหมดทางไปด้วยกำแพงสูงใหญ่ ณ สุดปลายทางตัน ทั้งใบหน้าบิดเบี้ยวทั้งเสียงร้องขอชีวิต ทุกอย่างตรงหน้ามันช่างน่าหฤหรรษ์จนอดใจแทบไม่อยู่ มือใหญ่ยกขึ้นมาตรงหน้าก่อนที่จะตวัดไปด้านข้างพร้อมกับร่างทั้งร่างของผู้ตกเป็นเหยื่อลอยละลิ่วตามไปก่อนจะกระแทกกำแพงร่วงลงสู่พื้นอีกครั้ง


กลิ่นคาวเลือดที่ลอยออกมานั้นช่างหอมหวานจนอดที่จะสูดดมอย่างเคลิบเคลิ้มมิได้ มือใหญ่เตรียมยกขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนเหยื่อคราวนี้จะอ่อนแอกว่าที่คิด เพราะมันนอนนิ่งไม่ขยับอยู่กับพื้นไปแล้ว



น่าเบื่อ.....



ใบหน้าคมกลับไปนิ่งสนิทอย่างรู้สึกหงุดหงิด ก่อนที่จะหันหลังเดินจากไปอย่างไม่ใยดี ....น่าเบื่อ....กับความอ่อนแอของมนุษย์....ที่แม้แต่จะใช้เป็นของเล่นฆ่าเวลาอันยาวนานที่ผ่านไปแต่ละวันๆก็ยังไม่ได้....


และแค่หันหลังกลับ เงาร่างสีดำทะมึนที่ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตใดต่างก็กรูกันเข้าไปหาเหยื่อที่กองอยู่กับพื้น นัยน์ตาสีเปลือกไม้เพียงแค่ปลายตากลับไปมอง เงาดำที่กำลังจะขยับกลับชะงักค้างทันที บรรยากาศนั้นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าทั้งหมดนั้นต่างกลัวเกรงกับสายตาของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาของพวกตน


ปีกสีดำคู่ใหญ่งอกออกมาจากแผ่นหลังก่อนที่ใบหน้าคมจะหันกลับไปแล้วโผบินขึ้นสู่ฟากฟ้ายามราตรีโดยไม่สนใจเหยื่อที่ตนจับมาได้อีกเลย....และนั่นคือสัญญาณว่า....ได้เวลาอาหารของเหล่าปีศาจร้ายปลายแถวแล้วเช่นกัน
















เสียงระฆังก้องกังวานสอดประสานไปกับแสงแดดยามเช้าที่ปลุกทุกผู้คนให้ตื่นจากการหลับใหล  แสงอรุณสาดส่องกระทบยอดหอคอยของโบสถ์เพียงหนึ่งเดียวของหมู่บ้านให้รู้สึกราวกับมีรัศมีที่อบอุ่นแผ่ซ่านออกมา สมกับเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจของใครต่อใคร


ซิสเตอร์!!”


เสียงเรียกของเหล่าเด็กๆทำให้ร่างบอบบางที่นั่งสวดภาวนาอยู่หน้าแท่นพิธีหันกลับไปมอง ใบหน้าสวยอมยิ้มอ่อนโยนให้กับเด็กๆที่แอบเข้ามาเล่นซุกซนอยู่ภายในโบสถ์ และในขณะที่ตั้งใจจะหันกลับไปสวดภาวนาต่อ มือเล็กๆของเด็กสองสามคนก็ฉุดให้ร่างบอบบางที่อยู่ในชุดคลุมสีดำของบาทหลวงจำต้องลุกขึ้นตามแรงลากออกไป


ซิสเตอร์ไปเล่นกัน


นี่พวกเจ้า...


ใบหน้าสวยยิ้มอย่างอ่อนใจ พรางมองไปยังเด็กๆที่เรียกตนว่า ซิสเตอร์ อย่างจนใจ   ก็เพราะว่ามีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นนักบวชชายที่ควรจะต้องถูกเรียกว่า บราเดอร์ แต่คนส่วนใหญ่ของที่นี่กลับเรียกเขาว่า ซิสเตอร์ เสียอย่างนั้น...แต่ในเมื่อมันแสดงถึงความสนิทสนมและความไว้วางใจที่ชาวบ้านมีต่อเขาแล้ว ถึงจะเรียกแบบนั้นก็ไม่เป็นไร


ทั้งนัยน์ตาสีเขียวมรกต ทั้งเส้นผมสีเงิน มันคือสิ่งที่บ่งบอกถึงความแตกต่างจากผู้คนในแถบนี้ได้เป็นอย่างดี.....เขาเป็นใครมาจากที่ไหนไม่มีใครรู้แน่ชัด เพราะเมื่อวันที่มีหิมะตกของเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว เขาถูกทิ้งเอาไว้ที่หน้าโบสถ์ทั้งที่ยังแบเบาะ และคุณพ่อซึ่งเป็นบาทหลวงของที่นี่ก็เก็บเขามาเลี้ยงเอาไว้....ในฐานะข้ารับใช้อันบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า


เขาเติบโตอยู่ในโบสถ์แห่งนี้และอุทิศตนให้แก่พระผู้เป็นเจ้าตั้งแต่จำความได้ จึงเป็นเพียงคนเดียวที่มีทั้งกายและใจที่บริสุทธิ์ กลายเป็นสมบัติล้ำค่าที่จะถูกนำมาใช้ในงานพิธีต่างๆไปโดยปริยาย  เขาถูกห้ามออกไปนอกอาณาบริเวณของโบสถ์เพื่อคงไว้ซึ่งความผุดผ่องอยู่เสมอ


ถึงจะถูกรักษาราวกับสมบัติอันมีค่า แต่ทว่าก็เป็นที่รักและเอ็นดูของคนในหมู่บ้าน ที่ต่างก็ทักทายเขาราวกับคนสนิทมิใช่เทิดทูลเอาไว้โดยไม่กล้าแตะต้อง  คนที่นี่ให้ความเป็นกันเองและมีน้ำใจให้ ถึงแม้จะไม่ได้ออกไปไหน แต่เขาก็รู้ถึงความเป็นไปของคนในหมู่บ้านดีเพราะพวกเขาต่างก็ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าและมักแวะเวียนมาเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟังอยู่เสมอ


พ่อแม่ของพวกเจ้าล่ะ?       ก้มหน้าลงไปถามเด็กๆที่ยังคงจับมือทั้งสองข้างของเขาเอาไว้พร้อมออกแรงดึงไปยังลานกว้างข้างๆโบสถ์ที่เต็มไปด้วยผืนหญ้าสีเขียวขจี


อยู่ที่เขตสุสานนู้น...        เด็กชายที่จับมือซ้ายเอาไว้ตอบกลับมาอย่างไร้เดียงสา เขามองไปยังเสื้อผ้าที่เด็กๆใส่แล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่าพ่อแม่ของเด็กๆพวกนี้คงจะมาทำพิธีฝังศพของใครสักคนในหมู่บ้านเป็นแน่ เพราะเด็กๆที่ควรจะอยู่ในชุดสีสันสดใสกลับอยู่ในชุดสีดำสนิท



.....มีคนตายอีกแล้วอย่างนั้นหรือ......



เสียงเพลงพื้นบ้านดังขึ้นมาด้วยเสียงเล็กๆของเด็กๆ  สองมือเล็กของเด็กสองคนจับกันเอาไว้เหนือหัวทำเป็นอุโมงค์ให้คนอื่นๆรอด ร่างบอบบางเองก็ถูกดันเข้าไปอยู่ในแถวด้วย และเมื่อก้าวเดินเข้าไปในอุโมงค์ แขนเล็กทั้งสองคู่ก็ลดระดับลงจับเขาเอาไว้ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน


ซิสเตอร์โดนจับได้ต้องโดนลงโทษนะ        ใบหน้าสวยได้แต่ยิ้มอย่างไม่รู้จะทำยังไง ในเมื่อเดินผ่านทุกครั้งก็โดนจับตัวเอาไว้ทุกครั้ง...นี่ถ้าไม่เป็นที่รักมากก็คงกำลังโดนแกล้งอยู่แน่ๆ


นี่เด็กๆ เดี๋ยวเถอะ....ไปแกล้งซิสเตอร์แบบนั้นได้ยังไง        เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นราวกับระฆังช่วยชีวิต และเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นกลุ่มคนทยอยเดินกันออกมาจากด้านหลังของโบสถ์....สงสัยว่าพิธีคงจะเสร็จสิ้นแล้ว


ขอโทษด้วยนะคะซิสเตอร์ เจ้าเด็กพวกนี้พอได้มาเจอกันก็จับกลุ่มเล่นซนจนต้องพามาไว้ที่หน้าโบสถ์ ไม่งั้นคงส่งเสียงดังจนทำพิธีต่อไม่ได้แน่ๆ       แม่ของเด็กต่างมาจูงมือลูกของตัวเองไป ใบหน้าสวยเพียงแค่ส่ายหน้าว่าไม่เป็นไร


นี่...ซิสเตอร์เองก็ต้องระวังตัวนะคะ ตอนกลางคืนอย่าออกไปไหนมาไหนคนเดียวเชียว....คนที่ตายวันนี้น่ะเป็นถึงคนตัดไม้ที่มีแรงขนาดยกภูเขาได้ทั้งลูกเชียวนะ ยังสู้มันไม่ได้เลย ดูจากลักษณะการตายแล้วน่าจะเป็นฝีมือของพวกปีศาจแน่ๆเลยละ      


นั่นสิคะ...หมู่นี้มีคนตายบ่อยเสียเหลือเกิน....อย่างกับว่าพวกมันเริ่ม ออกล่ามนุษย์เลยละ น่ากลัวเสียจนตอนนี้คนในหมู่บ้านไม่มีใครกล้าออกไปไหนตอนกลางคืนกันเลยละ


แต่ได้ข่าวมาว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะรวบรวมคนหนุ่มออกไปจัดการกับมันนะ


จะได้เรื่องหรือเปล่าน้า....เพราะคนที่โดนเล่นงานก็ตายไปเสียหมด....ยังไม่มีใครรู้ว่าปีศาจที่ทำร้ายพวกเราเป็นยังไงกันแน่และจะเอาอะไรไปสู้กับมัน


ร่างบอบบางได้แต่ยืนฟังสองคุณแม่พูดคุยกันด้วยใบหน้าวิตก....เป็นความจริงที่หมู่นี้มีคนตายในหมู่บ้านเพิ่มมากขึ้นซึ่งสภาพศพนั้นดูน่าสะอิดสะเอียนจนไม่คิดว่าจะมีมนุษย์คนไหนทำกันได้แบบนี้ อีกทั้งพวกเขายังอยู่ในยุคแห่งศรัทธาที่มีความเชื่อมั่นอันแรงกล้าต่อพระผู้เป็นเจ้า แต่นอกจากนั้น ในศตวรรษที่ 12 เช่นนี้ยังถูกเรียกว่า ยุคมืด ที่ความเชื่อเรื่องภูตผีปีศาจนั้นแรงกล้าไม่แพ้ความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าเลย


สิ้นเสียงพูดคุยของผู้คนที่ต่างรีบเดินทางกลับก่อนที่จะพลบค่ำ ร่างบอบบางจึงยืนอยู่ในสวนกว้างเพียงลำพัง นัยน์ตาสีมรกตเหม่อมองไปยังยอดหอคอยของโบสถ์ที่สร้างจนสูงเสียดฟ้าตามรูปแบบสถาปัตยกรรมโกธิค เพราะเชื่อมั่นว่าจะได้ใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า


เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาตามระเบียงทางเดินที่ทำเชื่อมต่อออกมาจากด้านหลังของโบสถ์ เพื่อใช้เป็นทางเดินไปยังที่พักของพวกนักบวช.....คุณพ่อซึ่งเป็นบาทหลวงที่เก็บเขามาเลี้ยงกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ


เจ้าคงได้ยินมาบ้างแล้วสินะ....เรื่องที่หัวหน้าหมู่บ้านจะจัดกลุ่มคนไปตามล่าปีศาจพวกนั้น      


...............          เขาเพียงแค่พยักหน้าน้อยๆ


พ่อก็ถูกขอให้ไปด้วย


เอ๋...?!”


ไม่เป็นไรหรอก....เพราะถึงแม้ชาวบ้านจะไม่ขอร้องมา แต่ทางวาติกันที่รู้เรื่องนี้แล้วก็คงสั่งให้เราออกจัดการกับพวกมันไม่วันใดก็วันหนึ่ง         ใบหน้าของคุณพ่อยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยน


งั้น...ให้ฉันไปด้วย....        และใบหน้าอ่อนโยนนั้นก็ส่ายปฏิเสธในทันที


เจ้าอยู่ที่นี่แหละ....คอยสวดให้พ่อปลอดภัยก็พอ











และคืนแห่งการตามล่าก็มาถึงไวกว่าที่คิด



....เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่....คิดหรือว่าจะทำอะไรข้าได้....



นัยน์ตาสีเปลือกไม้มืดมิดแลมองผู้คนที่เดินถือไฟฉายพร้อมตะโกนโหวกเหวกไปมาเพื่อตามล่าสิ่งที่พวกมันเรียกว่า ปีศาจ  จากบนหลังคาของตึกแถวโกธิคที่สร้างติดๆกัน ปีกสีดำคู่ใหญ่พับเก็บก่อนจะหายไปพร้อมกับใบหน้าคมแสยะยิ้มร้าย ก่อนที่ร่างสูงสมส่วนที่อยู่ในชุดสีดำสนิทจะทิ้งตัวลงไปจากยอดแหลมของจั่วหลังคา



.....แบบนี้ก็ดี....พวกเจ้าจะได้รู้ว่าไม่ได้ต่อสู้อยู่กับปีศาจธรรมดาๆ.....แต่ข้าคือ.............
















ซาตาน....        คุณพ่อเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยในขณะที่ปล่อยให้มือบางพันผ้าพันแผลให้ที่ต้นแขน


ท่านหมายถึง...ราชาของพวกปีศาจน่ะหรือ?       คุณพ่อพยักหน้ารับด้วยใบหน้าตึงเครียดเล็กๆ


พ่อต้องแจ้งไปทางวาติกัน....เพราะถ้าเป็นซาตานละก็....คงต้องเป็นเอ็กโซซิสระดับสูงเท่านั้นถึงจะสามารถต่อกรกับมันได้      


ถ้าเช่นนั้น จะปล่อยให้พวกชาวบ้านออกมาตามล่าต่อไปแบบนี้จะดีหรือ       ใบหน้าสวยเงยมองบาทหลวงด้วยความกังวล...ขนาดคุณพ่อที่พอจะใช้บทบริกรรมคาถาต่อต้านมันได้บ้างยังบาดเจ็บกลับมา แล้วชาวบ้านที่มีแต่อาวุธอย่างจอบเสียมธรรมดาจะไปสู้มันได้ยังไง


น่าแปลกนะ...ที่ยิ่งรู้ว่าคู่ต่อสู้ยิ่งร้ายกาจเท่าไหร่ ผู้คนต่างกระหายที่จะกำจัดมันให้ได้เท่านั้น ราวกับว่ากำลังบ้าคลั่งไปแล้ว       ใบหน้าอ่อนโยนของคุณพ่อถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปที่โต๊ะเขียนหนังสือเพื่อร่างจดหมายโดยมีร่างบอบบางอยู่มองอยู่ห่างๆด้วยสายตาเป็นห่วง


....นี่เขา....พอจะช่วยอะไรได้บ้างไหมนะ.......













เหยื่อล่อ ?


ใช่...เราจะใช้เหยื่อล่อ ให้ซาตานมันพุ่งไปสนใจที่เหยื่อในขณะที่พวกเราจะแอบซุ่มแล้วรุมโจมตีมันพร้อมๆกัน        เสียงของหัวหน้าหมู่บ้านอธิบายแผนการล่าซาตานในครั้งนี้ให้แก่คนในหมู่บ้านฟัง


แต่พ่อไม่เห็นด้วยนะ เราควรจะให้ความสำคัญกับชีวิตที่จะต้องตกเป็นเหยื่อด้วยสิ       บาทหลวงยกมือคัดค้านขึ้นมาทันที และดูเหมือนผู้คนจะยังกังขากับแผนการนี้อยู่ ด้วยต่างก็กลัวว่าตนหรือคนในครอบครัวจะต้องถูกเลือกให้กลายเป็นเหยื่อล่อที่ว่านั่น....ซึ่งมันเห็นได้ชัดว่ามีเพียงหนทางเพียงอย่างเดียวที่รออยู่......ความตาย


ไม่ต้องห่วงไปหรอก เราจะใช้หญิงประเวณีที่ถูกจับติดคุกครั้งแล้วครั้งเล่าพวกนั้น....ชีวิตที่ไม่มีค่าอะไรของพวกมัน ไม่จำเป็นต้องเสียดายหรอกคุณพ่อ        บาทหลวงชะงักไปด้วยไม่คิดว่ามนุษย์เหมือนกันจะเป็นได้เช่นนี้ แต่ดูเหมือนว่าคนรอบกายชักจะคล้อยตามมากขึ้นทุกทีๆ เมื่อคนที่ต้องตกเป็นเหยื่อนั้นไม่ใช่ตนเอง


แต่ว่า.....         คุณพ่อทำท่าจะคัดค้าน แต่ก็ไม่มีใครสนใจอีก เสียงฮึกเหิมของผู้คนหันกลับไปสนใจแผนการนั้นต่อ ราวกับว่าเห็นมันเป็นเพียงเกมส์ล่าที่น่าสนุก















......ถึงได้บอกว่าเจ้าพวกมนุษย์นั้นมันโง่......



นัยน์ตาสีเปลือกไม้ของราชันย์แห่งรัตติกาลจับจ้องอยู่ที่หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีแดงสด ที่กำลังวิ่งด้วยท่าทางหวาดกลัวไปตามทางเดินสลัวๆของตึกรามบ้านช่องที่ปิดสนิท จิตใจที่หวาดกลัวกับร่างกายที่โสมมนั้นคืออาหารชั้นดีของปีศาจ แต่ทว่าความต่ำช้าของมนุษย์ด้วยกันที่ทำเช่นนี้ได้นั้นเขายิ่งอยากกัดกินมันมากเสียยิ่งกว่า


ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะพุ่งตัวลงไปหาเหยื่อที่มนุษย์หน้าโง่พวกนั้นจัดเตรียมเอาไว้ให้....เสียงหวีดร้องดังขึ้นมาทันทีที่มือใหญ่รวบต้นคอระหงแล้วยกร่างอวบอัดเอาไว้กลางอากาศ


ไง....ดีใจไหมที่จะได้ตายด้วยมือของข้า        ใบหน้าคมยิ้มเย็นชาก่อนจะพูดออกมาด้วยท่าทางสบายๆ


ดะ...ได้โปรด....ปล่อยฉันไปเถอะ ปล่อยฉันไป....        ใบหน้าที่แต่งแต้มเอาไว้จัดจ้าน บัดนี้กลับเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความหวาดกลัว ร่างกายของหญิงสาวสั่นระริกอย่างที่เหยื่อทุกรายที่เขาเคยเจอเป็นกัน


เจ้าไม่อยากตาย?      ร่างสูงถามออกไปราวกับว่ามันเป็นเรื่องน่าแปลกใจ


ขะ...ขอร้องละ...จะให้ทำอะไรข้าก็ยอม....        มือใหญ่ลดระดับลงก่อนจะโยนหญิงสาวไปกองไว้ที่พื้น....เขาไม่ได้เห็นใจกับเสียงอ้อนวอนหรือคราบน้ำตาของผู้หญิงคนนี้...แต่มันน่าเบื่อ.....ร้องไห้จนตัวสั่นแล้วก็อ้อนวอนขอชีวิต.....กี่รายๆก็เป็นแบบนี้....มันน่าเบื่อ


ไปซะ.....ข้ายังมีเกมส์ล่าที่น่าสนุกกว่าเจ้า       ใบหน้าคมเผยยิ้มร้ายเมื่อรู้สึกได้ถึงลูกธนูและสารพัดอาวุธที่กำลังเล็งมาที่ตน   หญิงสาวมีใบหน้าตื่นตะลึงก่อนจะรีบวิ่งหนีไป


.....เอาละ.....เริ่มจากตรงไหนก่อนดีนะ?       และเมื่อสัญญาณถูกส่งไปรอบๆ บรรดาอาวุธทั้งหลายต่างก็พุ่งออกมาจากเงามืด.....เฮ้ๆ...นี่ลืมกันไปแล้วหรือไงว่าข้าคือราชันย์แห่งรัตติกาล.....แล้วถ้ามองไม่เห็นในความมืดจะยังมีหน้าได้ชื่อแบบนั้นมาได้ยังไง


ร่างสูงหลบหลีกอาวุธราวกับเป็นเรื่องสนุก มือใหญ่คว้าขวานที่ลอยอยู่ในอากาศก่อนจะปากลับเข้าไปยังที่ที่มันพุ่งออกมา เสียงร้องโหยหวนทำให้กลุ่มคนที่ซ่อนตัวอยู่เริ่มจะขวัญผวา และเมื่อลูกธนูอีกลูกถูกส่งกลับไปปักที่หัวใจของคนที่ส่งมันมาให้ก็ทำให้เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่แตกตื่น


เสียงร้องโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อผู้คนต่างก็แตกกระเจิงและวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เมื่อรู้ตัวแล้วว่าไม่อาจต่อกรกับซาตานได้จริงๆ ทั้งพละกำลังทั้งความเฉียบคมมันต่างก็ห่างชั้นกันอย่างเห็นได้ชัด


อ๊ากกกกกกก        เสียงร้องอย่างหวาดผวาดังมาจากชายผู้หนึ่งซึ่งโดนร่างสูงจับเอาไว้ได้ มือบีบที่ลำคอแล้วยกร่างทั้งร่างขึ้นหมายจะให้คนอื่นๆได้เห็น


ดูเหมือนเพื่อนของเจ้าจะไม่สนใจเจ้ากันเลยนะ....หึหึ....       จริงดังว่าเมื่อต่างคนต่างวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน และไม่มีใครสนใจจะเข้ามาช่วยชายคนนี้เลย


หะ....หัวหน้าหมู่บ้าน        แขนสั่นระริกพยายามเอื้อมคว้าไปหาชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนปลุกระดมพวกเขามา ใบหน้าหวาดกลัวส่ายไปมาก่อนจะวิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา ชายที่อยู่ในกำมือร้องลั่นก่อนจะก้มหน้าก้มตาร้องขอชีวิต.....น่าเบื่อ.....


พระผู้เป็นเจ้า...โปรดช่วยลูกด้วย....พระผู้เป็นเจ้า.....       แต่ก่อนที่จะตาย เขาก็ได้ยินเสียงพึมพำออกมา


พระผู้เป็นเจ้าอย่างงั้นหรอ?!”        เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเหยียดๆ เมื่ออีกคนพูดถึงความศรัทธาที่เขาเกลียด


ถะ...ถ้าหากว่าเราถวายเด็กนั่นให้พระผู้เป็นเจ้าละก็...ท่านจะต้องมาช่วยเรา และเจ้าก็จะโดนลงโทษ เจ้าปีศาจ!!”       


ฉั้วะ!!


สิ้นเสียงด่าทอ คมมีดที่มองไม่เห็นก็ตัดผ่านร่างกายของเหยื่อในมือจนสิ้นใจ  เขาโยนมันลงไปที่ข้างทางพรางนึกถึงคำพูดสุดท้ายของมัน....แน่นอนว่าปีศาจอย่างเขาไม่ได้สนใจอยู่แล้วละว่าพระผู้เป็นเจ้านั่นจะมีจริง มันก็เป็นเพียงความศรัทธาอันโง่งมของมนุษย์.....แต่ที่เขาสนใจน่ะ.....


ฉึกๆๆ!


ในขณะที่กำลังครุ่นคิด โลหิตสีดำสนิทก็ไหลออกมาจากภายใต้เสื้อเชิ้ตสีดำ ใบหน้าคมก้มลงไปมองบาดแผลที่เกิดจากลูกธนูสองดอกแล้วหันไปมองกลุ่มคนที่เขาคิดว่ามันหนีกันไปหมดแล้ว.....อ้อ......หรือว่าจะใช้เจ้าผู้ชายนี่เป็นเหยื่อล่อแทนหญิงประเวณีคนนั้นสินะ.....เหมือนจะฉลาดขึ้นมาหน่อย


ใบหน้าคมยิ้มที่มุมปาก แต่เขาไม่ได้เลือกที่จะเล่นงานพวกมันต่อ เพราะตอนนี้ดันมีสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าการได้ทำร้ายหรือฉีกกระชากร่างกายของพวกมัน.....นั่นคือการทำลายความหวัง.....


ปีกสีดำคู่ใหญ่สยายออกมาให้ขนนกสีดำปลิวว่อนไปทั่ว ร่างของซาตานลอยขึ้นเหนือฟากฟ้าก่อนจะโผบินออกไปให้กลุ่มคนพวกนั้นต่างได้ใจด้วยเข้าใจผิดไปว่า พวกตนได้ทำให้ซาตานบาดเจ็บและหนีไป


มันกำลังบาดเจ็บ! อย่าปล่อยให้หนีรอดไปได้! ตามไปเร็ว!!”         เสียงตะโกนโหวกเหวกฮึกเหิมราวกับเป็นผู้ชนะ แสงคบเพลิงส่องไปทั่วเพื่อควานหาตัวของซาตาน


มันบินไปทางโบสถ์  ตามไป!!!”













เพล้ง!!


เสียงกระจกสีรูปพระแม่มารีที่อยู่ด้านหลังแท่นทำพิธีถูกชนจนแตกละเอียด เรียกให้ใบหน้าสวยที่กำลังคุกเข่าสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้คุณพ่อที่จำต้องออกไปล่าซาตานในคืนนี้ปลอดภัย เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตกใจ เงาร่างสีดำของใครคนหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากบนหน้าต่างกระจกสูง


ท่าน....เป็นอะไรหรือเปล่า       ร่างบอบบางขยับเข้าไปใกล้ด้วยความเป็นห่วง ร่างที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตและกางเกงสีดำมีท่าทางว่ากำลังบาดเจ็บ ร่างกายที่ดูยังไงก็เป็นมนุษย์ทรุดนั่งพิงผนังหอบหายใจรวยริน ตามเนื้อตัวมีแต่บาดแผลและที่น่าจะสาหัสที่สุดน่าจะเป็นแผลที่หน้าท้องที่ยังคงมีลูกธนูฝังอยู่


ข้าจะช่วยทำแผลให้ ทำใจดีๆเอาไว้นะ     ใบหน้าสวยมีแววตื่นตระหนกเมื่อเห็นว่าเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด....และเพราะว่ามันมืดจึงทำให้มองไม่เห็นว่าเลือดนั้นเป็นสีดำ


กล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลถูกยกเอามาวางไว้ตรงหน้า นัยน์ตาสีเปลือกไม้ได้แต่จับจ้องใบหน้าสวยที่กำลังทำแผลให้อย่างขะมักเขม้น.....ร่างกายบอบบางนี้มีกลิ่นที่บริสุทธิ์มากจนแทบจะอดใจไม่ไหวร่างกายจึงสั่นอย่างควบคุมไม่ได้


เจ็บหรอ? ขอโทษนะ        ไม่ใช่แค่ร่างกาย แต่ดูเหมือนจิตใจของเด็กคนนี้ก็จะบริสุทธิ์มากๆเสียด้วย ขนาดคนน่าสงสัยอย่างเขา เจ้าตัวยังทำแผลให้โดยไม่ถามที่มาที่ไปเลยสักคำ


ใบหน้าคมลอบยิ้ม....กำลังสงสัยว่าเขาจะได้เจอของเล่นที่น่าสนุกเข้าให้แล้ว....


เจ้าไม่กลัวข้าหรอ        เสียงทุ้มถามออกไปให้ใบหน้าหวานหยุดชะงักด้วยความสงสัย


ทำไมต้องกลัวด้วยล่ะ? ท่านบาดเจ็บมา ฉันก็ต้องช่วย มันเป็นสิ่งที่เพื่อนมนุษย์พึงกระทำตามคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าอยู่แล้ว  อ๊ะ!”       พระผู้เป็นเจ้าอีกแล้วหรอ....ทำไมถึงได้ศรัทธาเจ้าสิ่งที่น่าหงุดหงิดแบบนั้นกัน!


ทะ....ท่าน?!”        ใบหน้าสวยมีแววตกใจเมื่อจู่ๆชายที่ดูเหมือนบาดเจ็บก็ส่งมือใหญ่มาจับเอาไว้ที่สองไหล่บางของตน


พระผู้เป็นเจ้า?        หางเสียงนั้นขึ้นสูงอย่างดูหมิ่น สองมือใหญ่ไล่ไปตามแขนบางก่อนจะรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว แล้วลุกขึ้นพาร่างบอบบางออกไปยังใต้แสงเทียนสลัวๆภายในตัวโบสถ์


ท่านยังบาดเจ็บอยู่นะ  อย่าขยับสิ!”       


ก่อนจะห่วงข้า....เจ้าควรจะห่วงตัวเองเสียก่อน         ใบหน้าคมยกยิ้มให้ใบหน้าสวย มือใหญ่ข้างที่ไม่ได้จับข้อมือบางเอาไว้กระชากผ้าพันแผลที่เพิ่งจะพันไปเมื่อครู่ออกจากกัน


ทำอะไรน่ะ? เดี๋ยวแผลก็......        ร่างบอบบางที่พยายามร้องห้ามกลับต้องเป็นฝ่ายเบิกตากว้างเสียเอง เมื่อปากแผลที่เคยเปิดออกกำลังค่อยๆสมานตัวเข้าด้วยกันอย่างช้าๆจนในที่สุดมันก็หายไปราวกับไม่เคยมีบาดแผลเกิดขึ้น.....แล้วเลือดพวกนั้นก็ยังมีสีดำสนิท....


หึหึ....พอจะรู้แล้วใช่ไหม....ว่าข้าเป็นใคร?       นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องลงไปในดวงตาสีมรกตที่มีแววหวาดหวั่นเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายที่เขาจับเอาไว้ได้กลับไม่ได้สั่นระริกเหมือนคนอื่นๆ แขนแข็งแรงโอบกระชับเอวบางให้เข้ามาแนบชิดลำตัว กลิ่นหอมอันบริสุทธิ์นี้มันช่างเย้ายวนจนอยากจะขยี้ให้แหลกคามือ


.........ซาตาน...?         เสียงนุ่มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ราวกับว่าจิตใจนั้นกำลังลอยไปอยู่ที่อื่น


หึหึ......         เสียงหัวเราะในลำคอของร่างสูงนั้นแทนทุกคำตอบ


ท่าน....เลิกทำร้ายผู้คนไม่ได้หรือ....ข้าจะสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าให้อภัยแก่ท่าน เพราะฉะนั้น....อ๊ะ!”      แผ่นหลังบางถูกกระแทกให้ติดกับกำแพงโบสถ์ทันที ใบหน้าคมเย็นชาขยับเข้ามาใกล้ มีแต่กลิ่นไอมืดมนและอันตรายลอยคลุ้งอยู่เต็มไปหมด


พระผู้เป็นเจ้า?.....พระผู้เป็นเจ้าอย่างงั้นหรอ?.....มันจะทำอะไรได้....หึหึ.....เจ้าสวดมนต์ต่อหน้ามันมากี่ปี....แล้วไหนดูซิว่ามันจะออกมาช่วยเจ้าจากเงื้อมมือของข้าไหม?!”     ทุกถ้อยคำจงใจเน้นย้ำให้ร่างบอบบางรู้สึกเจ็บปวด แต่ทว่านัยน์ตาสีมรกตมุ่งมั่นนั่นก็ยังคงไม่ลดละ


ฉันเชื่อในพระองค์ และจะไม่มีวันเลิกศรัทธา       ร่างบอบบางคงจะไม่รู้ตัวว่าได้ไปก่อกองไฟขึ้นในใจของคนตรงหน้า


งั้นก็ลองดู....        มือใหญ่สะบัดไปยังแท่นทำพิธี ลมสีดำทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างบนนั้นถูกกวาดลงข้างล่างจนหมด ร่างกายสูงใหญ่ขยับไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับโยนร่างบอบบางลงบนแท่น....ตอนแรกเขาก็แค่จะฆ่าให้ตายเหมือนกับเหยื่อคนอื่นๆแล้วปล่อยให้ไอ้พวกมนุษย์หน้าโง่ที่หวังจะใช้เด็กนี่เพื่อถวายแด่พระเจ้าอะไรของมันได้ฝันสลาย....


แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว....เขาจะทำให้ร่างกายนี้แปดเปื้อนเหมือนๆกับจิตวิญญาณที่จะต้องแหลกสลายไป พร้อมกับความศรัทธาที่ไร้สาระพวกนั้น!


หยุดเถอะ...ท่านทำแบบนี้ไปก็จะยิ่งมีแต่เพิ่มบาปให้กับตัวเอง         แบบนี้น่ะ แบบไหน?  นี่คงยังไม่รู้สินะว่าเขากำลังจะทำอะไร?  ร่างสูงได้แต่ยิ้มร้ายให้กับความบริสุทธิ์ตรงหน้าก่อนจะฉีกกระชากเสื้อคลุมของนักบวชออกจากร่างกายบอบบาง ใบหน้าสวยเริ่มจะมีแววหวาดวิตกแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ร้องขอชีวิต ไม่สั่นระริกและไม่ร้องไห้



.....น่าสนุก.....มันช่างน่าสนุกเสียจริงๆ.....

.....ว่าต้องทำยังไง เจ้าถึงจะร้องไห้......



อึก....ทะ...ท่าน?!”        สองมือเล็กพยายามจะสะบัดให้หลุดพ้นจากการจับกุม ใบหน้าคมจึงพึมพำเบาๆก่อนที่เชือกเถาวัลย์จะมาพันธนาการข้อมือนั้นแทน ผิวที่ขาวนวลของร่างบนแท่นบูชานั้นช่างน่าหลงใหล มันคือความงดงามที่แม้แต่ปีศาจเช่นเขายังรับรู้ได้....และถ้ามันมีบาดแผลคงจะงดงามยิ่งกว่านี้หลายเท่า


อ๊ะ!”       เสียงร้องเบาๆดังขึ้นเมื่อถูกขบเม้มที่ซอกคอจนขึ้นสีแดงระเรื่อ


ยะ...หยุดนะ...นี่ท่านคิดจะทำอะไร... อึก อ๊า!!”        เสียงอุทานด้วยความจุกแน่นดังขึ้นพร้อมกับที่ช่องทางเบื้องล่างถูกสอดใส่เข้าไปด้วยความเป็นชายของร่างสูงโดยที่ไม่มีการเล้าโลมแม้แต่น้อย ร่างบอบบางกระตุกเกร็งพร้อมๆกับกลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้ง ริมฝีปากแดงระเรื่ออ้าออกหอบหายใจอย่างสั่นระริก น้ำตาที่ไม่เคยมีวี่แววว่าจะหลั่งลงมาไหลอาบแก้มโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะร่างกายมันเจ็บจนทนไม่ไหวมันจึงไหลออกมาเอง


อย่า....อื้อ!!”       ริมฝีปากสีระเรื่อถูกบดเบียดยัดเยียดจูบที่เร่าร้อนจนแดงช้ำ ร่างกายท่อนล่างก็ถูกถาโถมกระหน่ำเข้าไปด้วยความรุนแรง ร่างสูงมองภาพความบริสุทธิ์ที่ถูกตนย่ำยีด้วยใบหน้ายิ้มร้าย มือบางที่ถูกมัดเอาไว้ด้วยกันยังคงต่อต้าน เขาขยับร่างกายเข้าใส่โดยไร้ซึ่งความปราณีราวกับปีศาจผู้หิวโหย


นานแล้วที่ไม่ได้ร่วมรักและก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายบอบบางนี้ทำให้ตนรู้สึกดีมากทีเดียว


อึก....       ร่างบอบบางกระตุกอีกรอบเมื่อเขากระแทกเข้าไปอย่างหนักหน่วงก่อนที่น้ำอุ่นๆจะถูกฉีดเข้าไปจนไหลเลอะออกมาตามเรียวขา ผสมผสานไปกับเลือดสีแดงสด นัยน์ตาสีมรกตหรี่ปรือมองมาทั้งรอยน้ำตา...เขาไม่ได้มีความรู้สึกสงสารหรือว่าเห็นใจ....เพราะมันยังมีเรื่องที่น่าสนุกกว่านี้รออยู่อีก


เสียงโหวกเหวกของผู้คนดังใกล้เข้ามา และนั่นยิ่งทำให้ใบหน้าคมเผยยิ้มร้ายกว่าเดิม ร่างกายท่อนล่างยังคงฝังอยู่กับช่องทางที่บอบช้ำของร่างบาง มือบางพยายามผลักไสเขา ใบหน้าสวยส่ายหน้าไปมาพรางมองไปที่ประตูโบสถ์ราวกับกำลังหวาดกลัวในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น....กลัวว่าใครจะรับรู้เรื่องนี้....ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ



แอ้ดดดด....



ประตูโบสถ์ถูกเปิดออกพร้อมกับแสงจากคบเพลิงที่ส่องเข้ามา ทุกสายตารวมอยู่ที่แท่นบูชาโดยที่ไม่ได้นัดหมาย และนั่นก็ทำให้ร่างบอบบางที่ถูกกระทำถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาทันที  ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบงัน เมื่อความหวังของทุกคนกำลังพังทลายด้วยน้ำมือของปีศาจร้ายตนนี้


ใบหน้าคมก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากแดงช้ำราวกับจะเยาะเย้ย สายตาปรายมองไปที่ผู้คนที่ยืนนิ่งราวกับเป็นหิน ก่อนที่จะถอนร่างกายออกไป มือใหญ่กระชับเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นแล้วก้มลงไปที่ใบหู


แล้วข้าจะคอยดู....ว่าพระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้า       เสียงกระซิบทุ้มต่ำทำให้หัวใจดวงน้อยเจ็บแปลบราวกับกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ....ถึงมันจะเป็นความผิดมหันต์แต่ตอนนี้เขากลับอยากหายไปจากโลกใบนี้ อยากจะตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด


นัยน์ตาสีมรกตแลมองใบหน้าคมอย่างเลื่อนลอยและเลือนรางไปด้วยหยาดน้ำตา.....ร่างกายที่ถูกทำร้ายยังไม่เท่าจิตใจที่ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ตราบาปที่ชายผู้นี้ฝังมันไว้ที่เขา ทั้งชีวิตคงไม่อาจล้างมันออกไปได้...ทำไม....ไม่เข้าใจเลยแม้แต่นิดเดียวว่าทำไมต้องทำแบบนี้...ทั้งๆที่เขาไม่เคยทำอะไรให้ ไม่เคยมีความแค้นต่อกัน


หรือเพราะเป็นปีศาจ....จึงคิดว่ามีสิทธิ์ทำร้ายผู้อื่นได้....


ปีกสีดำคู่ใหญ่แผ่สยายออกมา ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะหายไป ทิ้งเอาไว้เพียงร่างกายที่บอบช้ำและหัวใจที่แตกละเอียด...















เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล...ไม่ว่าอย่างไรพ่อก็จะไม่ทิ้งเจ้า....เจ้าจงอาศัยอยู่ที่นี่กับพ่อต่อไปเถิด...เจ้าเป็นฝ่ายโดนทำร้ายและชาวบ้านก็เข้าใจ


ถึงคุณพ่อจะพูดเอาไว้แบบนั้น แต่ในใจกลับไม่ได้สบายขึ้นมาเลย...


ร่างบอบบางนั่งกอดเข่าอยู่ที่ใต้เงาไม้ข้างๆสวนกว้าง ทุกๆสิ่งรอบกายถูกเปลี่ยนไปชั่วข้ามคืน....หากร่างกายไม่บริสุทธิ์แล้วจะยังคงเป็นนักบวชต่อไปได้ยังไง ถึงแม้ความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้าจะไม่เปลี่ยนไป แต่เขาไม่มีหน้าที่จะอยู่ที่นี่ได้อีก


รู้สึกรังเกียจชิงชังร่างกายที่สกปรกนี้แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแต่ต้องกอดมันเอาไว้ ไม่ให้มันพังทลายลงไป


คุณพ่อเค้าว่ายังไงล่ะ....ยังจะให้อยู่ที่นี่ต่ออีกน่ะหรอ.....        เสียงกระซิบกระซาบดังมาจากหญิงสองคนที่คงจะมาที่โบสถ์ และคงจะไม่เห็นว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้


ใครจะว่ายังไงคุณพ่อท่านก็คัดค้านหัวชนฝาเลยละ...แบบนี้ก็แย่นะ....จะให้คนที่เกี่ยวข้องกับซาตานอยู่ในที่ที่เป็นศูนย์รวมใจ เป็นที่ที่ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้ต่อไป แล้วใครเค้าจะมาศรัทธา         นัยน์ตาสีมรกตได้แต่รับฟังเสียงซุบซิบนินทาด้วยแววตาเลื่อนลอย หัวใจมันคงแหลกสลายไปแล้วมันจึงไม่รู้สึกเจ็บ


แต่แล้วมือใหญ่ที่อบอุ่นของใครบางคนก็วางมาที่บนหัว ใบหน้ายิ้มอ่อนโยนของคุณพ่อปรากฏแก่สายตาเมื่อหันไปมอง


พ่ออยากให้เจ้าอดทน...จนกว่าความดีที่เจ้าทำจะค่อยๆลบล้างข้อกล่าวหานั่นทั้งหมด      เขาได้แต่พยักหน้ารับและสัญญากับคุณพ่อว่าจะอดทน.....


มาสิ...พ่ออยากให้เจ้าช่วยดูแลเอ็กโซซิสที่ถูกส่งมาจากวาติกันให้พ่อหน่อย











แผ่นหลังของร่างสูงสมส่วนยืนอยู่หน้าแท่นบูชาซึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ เส้นผมสีดำสนิททำให้นึกถึงราตรีกาลที่มืดมิด และเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมา นัยน์ตาคู่คมกริบสีดำก็ทำให้นึกถึงความน่ากลัว ใบหน้าหล่อเหลาได้รูปนั้นไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ที่เข็มขัดมีปืนประบอกใหญ่สองกระบอกและปลอกกระสุนอีกนับไม่ถ้วน แค่เข้าใกล้ก็ได้กลิ่นของความอันตรายได้อย่างชัดเจน....คนคนนี้....คงจะเป็นนักบุญที่มือเต็มไปด้วยเลือด....และคงจะไม่คิดว่าปีศาจจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างแน่นอน


ชะ  เชิญทางนี้       นัยน์ตาสีมรกตช้อนตาขึ้นมองอีกฝ่ายอย่างหวาดๆ นัยน์ตาสีดำคมกริบคู่นั้นมองมาเล็กน้อยก่อนจะเดินตามมาด้วยความเงียบงัน


เชิญท่านใช้ห้องนี้ได้ตามสบาย ข้าจะไปเตรียมอาหารให้       ร่างแข็งแกร่งดูจะไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูดมากนัก นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับกำลังคิดอะไรอยู่


อาจจะเป็นเพราะต้องมาคอยดูแลคนแบบนี้ก็ได้ ทำให้เขารู้สึกว่าอย่างน้อยตนก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง....











ทุกๆคืนยังคงผ่านไปด้วยการออกตามล่าปีศาจของชาวบ้าน.....


แน่นอนว่าคุณพ่อต้องออกไปช่วยด้วยทุกคืน แต่ทว่า เอ็กโซซิสผู้ที่ดูน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจนั่นกลับไม่ยอมออกไปไหน แสงไฟในห้องของคนคนนั้นยังคงสว่างอยู่ในขณะที่เขาเดินถือตะเกียงไปตามทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องของตัวเอง....ถึงจะแปลกใจว่าไม่ออกไปทำหน้าที่หรืออย่างไร แต่คนที่ไม่เคยออกไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอย่างเขาคงไม่มีสิทธิ์ถาม


หรือจะเป็นเพราะว่าลักษณะการก่อกวนของปีศาจพักหลังๆมานี้มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป....ถึงมันจะยังคงลอบทำร้ายคนและทำลายข้าวของเสียหาย แต่พอจับตัวมาได้ก็ปรากฏว่ามันไม่ใช่ซาตาน.....เป็นเพียงแค่ปีศาจชั้นปลายแถวที่ฝีมือไม่เอาไหน....ราวกับว่าเป็นคำสั่งของใครบางคนให้มันออกมาป่วนเมืองเล่นแบบนั้นแหละ


แล้วถ้าเช่นนั้น.....ซาตานหายไปไหนกัน?












นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองใบหน้าสวยที่ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องไป...แสงไฟทำให้มองเห็นว่าเงาร่างบอบบางกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าและนั่นทำให้ใบหน้าคมลอบยิ้มออกมา  รออีกไม่นานแสงไฟในห้องก็ดับลง ใบหูแหลมกระดิกเล็กน้อยเพื่อฟังเสียงลมหายใจของคนที่ล้มตัวลงนอนว่ามันเริ่มจะเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ


ร่างสูงจึงกระโดดลงมากิ่งไม้อย่างแผ่วเบา.....เจ้าพวกมนุษย์หน้าโง่ยังคงออกตามล่าเขาโดยที่ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม การออกแรงสู้กับพวกมันนั้นเขาเบื่อเต็มที เสียงร้องโหยหวน กลิ่นคาวเลือด ชีพจรที่เต้นระริกด้วยความหวาดกลัว....ของพวกนั้นเขาเห็นมันมาจนชาชิน


แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี่ต่างหากที่มันกำลังทำให้ความต้องการของเขาเปลี่ยนไป....


ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมาเขาต้องมานั่งอยู่บนกิ่งไม้นั่นเพื่อแอบดูเด็กคนนั้นด้วย...


ขายาวกระโดดขึ้นไปทางหน้าต่างห้อง ร่างบอบบางหลับสนิทอยู่บนเตียงสีขาวบริสุทธิ์ ร่างสูงเดินไปนั่งลงบนเตียงก่อนจะหันหน้ามามองใบหน้าสวยที่ยังคงหลับพริ้ม  มือเผลอลูบไล้ไปบนแก้มเนียนใส ไปจนถึงเปลือกตาที่ปกปิดนัยน์ตาสีมรกตที่น่าหลงใหล ไล่ไปจนถึงริมฝีปากสีแดงสดนุ่มนิ่ม


กลิ่นกายหอมบริสุทธิ์โชยออกมา....ไม่ว่าจะทำลายไปกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมันก็ไม่มีวันหมดไปเสียที


และกลิ่นนี้มันกำลังจะทำให้เขาคลั่ง...


แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร เสียงปลดล็อคเบาๆก็ทำให้เขาขยับกายหนี



ปังๆๆ!



เสียงปืนหนักๆยิงรัวทำให้ร่างกายพลิ้วหลบโดยอัตโนมัติ กระสุนนัดหนึ่งเฉียดที่แขนไปให้เลือดไหลซิบ....เฮ้ๆ....นี่ชักจะไม่ธรรมดาแล้วนะ เพราะว่าแผลที่ควรจะสมานกันทันทีกลับทำไม่ได้.....ปืนนั่นไม่ธรรมดา....


ร่างบอบบางตื่นขึ้นมาด้วยท่าทางตกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากแทบจะไม่ทันเมื่อมองเห็นว่าชายสองคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นใคร......เอ็กโซซิสกับ....ซาตาน......


ทำไม....เกิดอะไรขึ้น....


มีแต่คำถามลอยวนอยู่ในสมอง ใบหน้าสวยมองทั้งสองคนสลับไปสลับมา ปืนทั้งสองกระบอกหันไปที่ร่างกายสูงใหญ่ของซาตานที่บัดนี้มีลมสีดำลอยอยู่รอบๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองสบไปที่นัยน์ตาสีดำ จิตสังหารแผ่ออกมาจากร่างกายของคนทั้งคู่จนรู้สึกขนลุก


คิดไม่ผิดว่าแกต้องมาโผล่หัวอยู่ที่นี่....         แทบจะเป็นคำแรกที่เอ็กโซซิสผมดำพูดออกมา....นี่แปลว่าที่ไม่ยอมออกไปไหนเพราะคาดเอาไว้แล้วอย่างนั้นหรือว่าซาตานจะกลับมาที่นี่อีก


หึหึ....ก็แหงละ....เพราะของของข้าอยู่ที่นี่        ซาตานเอ่ยเสียงเย็นอย่างไม่ได้รู้สึกกลัวกระสุนในกระบอกปืนทั้งคู่เลยสักนิด ชั่วแว่บหนึ่งที่นัยน์ตาสีเปลือกไม้มองมาที่เขา...ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งของชิ้นนั้นมันจะหมายถึงอะไร


ได้ยินเสียงผู้คนโหวกเหวกเข้ามาใกล้ ใบหน้าคมเพียงยิ้มร้ายก่อนที่หายไปในกลุ่มควันสีดำ  ร่างทั้งร่างที่แข็งเกร็งรู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย


..........         นัยน์ตาสีดำคมกริบตวัดมามองที่เขาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร มือโยนขวดน้ำมนต์ขวดเล็กมาให้


ถ้าหากมันมาอีก หาโอกาสราดใส่มันซะ นั่นไม่ใช่น้ำมนต์ธรรมดาแต่ทำมาจากวัตถุดิบชนิดเดียวกับกระสุนพวกนี้      เขาก้มลงมองขวดน้ำมนต์ในมือ....จะบอกว่าให้เขาฆ่าซาตานอย่างนั้นหรือ


แต่หากแกทำไม่ได้ ก็จงเป็นเหยื่อล่อมันให้ฉันซะ....นั่นหมายความว่าจากนี้ต่อไป ห้ามอยู่ห่างจากฉัน เจ้าสัตว์กินพืช        นัยน์ตาสีมรกตเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองแผ่นหลังที่ค่อยๆเดินหายไป  ถึงมันจะเป็นเพียงหน้าที่ แต่มันกลับอบอุ่นที่หัวใจดวงนี้อย่างน่าประหลาด












ความชิงชังที่มีต่อปีศาจนั้นยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อทุกๆคืนผ่านไปด้วยความเสียหายและบาดเจ็บล้มตายของผู้คนโดยไม่อาจจัดการกับซาตานได้ และจากคืนนั้นเป็นต้นมา ร่างสูงก็ไม่ได้โผล่มาหาเขาอีกเลย


สองมือประคองขวดน้ำมนต์เอาไว้ในมือก่อนจะก้มลงมองมันด้วยสายตาเหม่อลอย



เขาทำไม่ได้....



ถึงจะโดนทำร้ายมากแค่ไหน ถึงอีกฝ่ายจะเป็นปีศาจ แต่ว่าเขาก็ไม่อาจเอาชีวิตใครได้ เขาอาจจะอ่อนแอและเคร่งครัดกับหลักคำสอนมากเกินไป....แต่หากนึกถึงใบหน้าร้ายกาจนั่นแล้ว....นอกจากความหวาดกลัว ยังมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาไม่อาจฆ่าร่างสูงตนนั้นได้.....แต่...มันคืออะไรกัน....


ไม่เข้าใจเลยว่าคุณพ่อจะปกป้องเด็กคนนั้นเอาไว้ทำไม...ในเมื่อมันก็เห็นชัดๆแล้วว่าเด็กนั่นรู้เห็นกับซาตานแน่ๆ       ถ้อยคำแสลงหูดังมาให้ได้ยิน....เมื่อก่อนอาจเป็นเพียงแค่การกระซิบกระซาบ แต่เดี๋ยวนี้ดูเหมือนคนพวกนั้นจะจงใจให้เขาได้ยิน หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบไปกับความจงเกลียดจงชังที่เพิ่มมากขึ้น สายตาที่มองมาก็ไม่มีแล้วซึ่งความรักและความเอ็นดู


บางครั้งก็อยากจะตะโกนถาม....ว่าเขาทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือ


แต่ก็ทำไม่ได้จึงต้องฝืนกล้ำกลืนทุกความเจ็บปวดลงไป เขาลุกขึ้นยืนแล้วก้มหน้าเดินผ่านหญิงสองคนนั้นไป ความรู้สึกในตอนนี้ราวกับว่าต้องอยู่ท่ามกลางป่ามืดทึบเพียงลำพัง มันหนาวเหน็บและเงียบเหงาจับใจ.....เขาจะอดทนได้อีกสักแค่ไหนกัน จนกว่าความดีที่ไม่มีใครเห็นจะลบข้อกล่าวหาได้หมด











เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้เขาสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับชุดนอนสีขาวแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวพ้นออกจากประตู แขนก็ถูกมือของใครบางคนจับกุมเอาไว้แล้วบีบเต็มแรง


ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก....ให้ซาตานมันเห็นว่าแกตายไปต่อหน้าต่อตา!”        เป็นมือของหัวหน้าหมู่บ้านที่มีท่าทางคุ้มคลั่ง จับใจความได้ว่าลูกชายของเขาโดนฆ่าตายเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วด้วยฝีมือของปีศาจ ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองไปที่ผู้คนโดยรอบ สายตาที่มองมาล้วนแล้วแต่น่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจ เมื่อมันต่างต้องการให้เขาตายๆไปซะ


อย่า!!”      คุณพ่อถูกจับตัวเอาไว้แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพยายามห้ามทุกๆคน เอ็กโซซิสถูกเรียกตัวกลับไปที่วาติกันด้วยจดหมายฉบับหนึ่ง จึงทำให้ตอนนี้ไม่มีใครช่วยเขาได้เลย ร่างทั้งร่างถูกเหวี่ยงเข้ามาในห้องก่อนจะได้ยินเสียงล็อคประตูจากข้างนอก หน้าต่างทุกบานถูกปิดลงทันที ความเคียดแค้นชิงชังที่มีต่อซาตานถูกตะโกนออกมาจนทำให้รู้สึกหวาดผวา


เขามองไปรอบๆห้องที่ถูกปิดตาย กลิ่นควันและความร้อนทำให้รู้ว่าเขากำลังจะถูกเผาทั้งเป็น!


.............         ไม่มีเสียงใดหลุดออกไปจากปาก เพราะไม่รู้ว่าจะร้องว่าอะไร มีแต่มือที่พยายามทุบประตูเท่านั้น


แต่ดูเหมือนความหวังจะไม่มีให้คนอย่างเขาอีกแล้ว.....ประตูนั้นร้อนจนไม่อาจถูกได้อีก เขาจึงย้ายร่างกายมานั่งอยู่ที่กลางห้อง รอยยิ้มน้อยๆค่อยๆเผยออกมา....ก็ดีเหมือนกันที่เขาจะได้หลุดพ้นจากมันไปเสียที....ตอนนี้....อยากจะขอสวดภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย…..


ควันไฟเริ่มจะหนาทึบจนแม้แต่หายใจก็ยังทำได้ลำบาก ไอร้อนที่แผดเผาไปรอบร่างกายทำให้เหงื่อไหลเต็มหน้าผาก ร่างทั้งร่างซวนเซจนล้มลงที่พื้นห้อง....ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงของเปลวเพลิง


ขอบคุณ...คุณพ่อ....       เสียงกระซิบแผ่วเบาเอ่ยออกมาจากริมฝีปากที่แห้งผาก นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆปิดลงช้าๆด้วยความสิ้นหวัง












ผู้คนที่ยืนมองอยู่รอบๆนั้นมีสายตาราวกับว่าไม่ใช่มนุษย์ บ้างไชโยโฮ่ร้องให้กับกองไฟที่กำลังมอดไหม้ บ้างเอ่ยสมน้ำหน้าจนบาทหลวงรู้สึกหมดศรัทธากับสิ่งที่เรียกว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ


แต่แล้วท่ามกลางเสียงปะทุของกองไฟ กลุ่มลมสีดำขนาดใหญ่ก็พัดปัดทุกสิ่งทุกอย่างให้กระจัดกระจาย เศษเปลวไฟลามไปติดอยู่ที่ส่วนอื่นๆของโบสถ์จนเสียงที่เคยร้องดีใจอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นตกอกตกใจ เศษไม้ร้อนๆถูกพัดไปกระแทกคนที่ยืนอยู่รอบๆจนบางคนถึงกับล้มลง ความโกลาหลเกิดขึ้นในชั่วพริบตา


เช่นเดียวกับร่างสูงที่ปรากฏกายอยู่ท่ามกลางลมสีดำนั้น ในอ้อมแขนโอบอุ้มร่างบอบบางที่กำลังจะหมดสติ


ไง....ข้าบอกแล้วไหมล่ะ ว่าพระผู้เป็นเจ้าน่ะช่วยเจ้าไม่ได้หรอก...มนุษย์หน้าไหนก็ไม่มีใครเชื่อในตัวเจ้า.......คนที่ช่วยเจ้าคือปีศาจอย่างข้าต่างหาก        รอยยิ้มร้ายบนใบหน้าคมนั้นมองเห็นเพียงลางๆ มือบางตกลงที่ข้างลำตัวก่อนจะปล่อยขวดน้ำมนต์ให้กลิ้งตกลงไปในกองไฟพร้อมกับสติที่ค่อยๆเลือนหาย



หากลืมตาขึ้นมาอีกที....เขายังจะเชื่อในมนุษย์อยู่อีกไหมนะ.....





.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


To be continue...







จนได้.....ฮ่าๆๆๆ

ขออนุญาติถมดำทั้งตอน เพราะเนื้อหาค่อนข้างรุนแรงและเกี่ยวกับศาสนา ก็...หาวิธีอ่านกันเอาเองละกันเด้อ (โดนโบก)

แต่อย่าเพิ่งเกลียดยามะกันซะก่อนล่ะ TT[ ]TT เรื่องนี้แต่งให้ตอนวันเกิดยามะนะ (แน่ใจ?) ถึงในเรื่องมันจะเป็นพระเอกที่หล่อเลวไปหน่อย แต่จุดจบน่ะ...คิดว่าคงจะรักยามะขึ้นมาหน่อยนึงละน่า หันซ้ายหันขวาหาข้อแก้ตัว >_<

ส่วน "ลิปสติก"  เอิ่ม....ระ รอสักครู่ ขอลง หัใจราชันย์ให้จบก่อน สองตอนเองค่ะ แหะแหะ (อยากจบโปรเจครวมเล่มแล้น...)

ฟังเพลงแรงบันดาลใจของ Heart of DEMON ได้ที่.....


อยากให้ไปฟังกันนะ *w*



7 ความคิดเห็น:

  1. ทำไมรู้สึกว่าเกลียดยามะน้อยกว่าคนในหมู่บ้านนะ
    มนุษย์นี่ช่างร้ายกาจเสียจริง
    สงสารหนูกีก เกลียดคนในหมู่บ้าน
    ก็เพราะพวกแกนั่นแหละ ก๊กคุงเลยตกเป็นเหยื่อเลย
    หนูก๊กฟื้นมาอีกทีแล้วกลายร่างเป็นปีศาจแล้วไปถล่มทั้งหมู่บ้านเลยนะ สู้ๆ ฮ่าๆๆ

    ตอบลบ
  2. ปาดดดดดดดดดดดด ยาวแน่ เรื่องนี้ยาวแน่ๆ แป๊บนะคะ ขอไปซื้อกับข้าวก่อน ฮาๆ
    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ได้ยาวแน่ๆ

    อร๊ากกกก เม้นท์จะจบอยู่แล้ว ทำไมมันเด้งแล้วหายหมดเลยอ่ะ แง เม้นท์ใหม่ ตอบข้างล่าง จะหนีไปไหนพี่ หม้อถังกะละมังไห มีที่ไหน (แต่ถ้าไหน่ะ อยู่ในบลอคเค้าอะ T_T หลายไหเลย) ที่ว่ายาวน่ะ ได้สครีมยาวต่างหากค่ะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบเรื่องนี้ เค้าชอบเรื่องเน้!!!! ถูกสเปคอีกเรื่องแล้วค่าพี่กวาง อร๊ายยยยยยยย

    อย่างแรกเลยที่โฮกคือ อิเนียน! อ่านไปรู้สึกว่าเรื่องนี้มัน หล่อมาก! ฮ่าๆๆ หล่อจริงๆค่ะ ไม่ได้แกล้งพูด มันเท่อ่ะ จะเดิน จะเหิน จะบิน เยื้องยุรยาตรจรลี ดูมีสง่าราศีและทรงพลังดี ชอบแบบนี้ มันดูดำสนิทดีค่ะ แล้วมันเจ้าเล่ห์ มันชั่ว มันเลว อ่ะ (เห้ย) จริงๆนะ เพราะซาตานเท่าที่อ่าน ที่รู้ มันก็ดูหมิ่นพระผู้เป็นเจ้าแบบนี้แหล่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง อา...ช่างคือสีที่ตัดกันได้อย่างลงตัว ขาวกับดำ เพราะส่วนตัว โต้ชอบแนวนี้ล่ะค่ะ พี่กวาง แนวพระเอกดำๆ โฉด เลวและหล่อ ฝ่ายนางก็ต้องสวยสง่า ขาวบริสุทธิ์


    อ๊ากกกกกก และหนูก๊กก็เป็นแบบนั้น ก๊กเรื่องนี้บริสุทธิ์มาก เป็นซิสเตอร์? สินะคะ ตอนที่ทำแผลให้โดยไม่ไถ่ถามน่ะ จิตใจบริสุทธิ์มาก เป็นหมอนี่ จรรยาบรรณเต็มเปี่ยมเลยหนูเอ๊ย คนดีมากกๆๆๆ ชอบค่ะ >.<

    แต่ก็โดนอิเนียนจับกดจนได้ เว่ยเห้ย ซาตาน ครั้งเดียวไม่พอ ขออีก (เซ็นเซอร์ข้อความเมื่อกี้ด่วน)

    แหะๆ ย้ำอีกที หนูก๊กเรื่องนี้ขาวบริสุทธิ์มากๆค่ะ

    แล้วก็โผล่มาอีกหนึ่ง เอ็กซโซซิส ที่จะมาทำสงครามหัวใจกับพ่อซาตานหล่อเลว (?) ฮ่ะๆๆ ใช่มั้ยก๊ะ ชอบตอนที่บอกว่า ก็ของๆข้าอยู่นี่ ทั้งอยากกรี๊ดอยากชาร์จมัน ให้ตายสิ พูดอะไรชวนใจเต้น

    รอต่อไปค่ะพี่กวาง อยากรู้ว่าหัวใจของราชันย์ปิศาจจะหลุดออกจากอ้อมอกหรือไม่ (เพราะมีเอ็กซโซซิสพาหนี ไรงี้) ฮ่ะๆๆๆ



    ชอบตอนโปรยต้นด้วยค่ะ คำงามมาก! ^^

    ตอบลบ
  3. ^
    ^
    ข้างบนนี่น่ากลัวแหะ...ยะ...ยาวอะไร....>_<""...

    ข้วางหม้อไหใบยาว? รึข้วางเรือหางยาว? อ๊ากกกกก หนีดีกว่าาาา

    ตอบลบ
  4. ยามะไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหนเลย เนี่ยละ บุคคลิกพระเอกชัดๆ คนดีสุดๆ เลยอ่ะ ชีวิตที่ยืนยาว อยู่ไปวันๆ เบื่อน่าดู อะไรที่ทำให้ ยามะเบื่อโลกและเกลียดพระเจ้าได้ขนาดเน้

    คนตาดำถือปืนนั่นหน่ะ เปลี่ยนจากทอนฟามาใช้ปืนแทนละหรอ ครึครึ // โดนโบก ตามสโตรกแม้แต่ตอนนอน =[]=

    ก๊กสะอาดบริสุทธิ์มากอ่ะ คนดีที่หนึ่งเลยจริงๆ ช่วยโดยไม่แบ่งแยกว่าจะคนหรือปีศาจ เพราะต่างก็มีชีวิตเหมือนกัน จะไปจัดสินได้ไงว่าใครสมควรตายไม่ตาย เน้ออๆ

    สงสารก๊กอ่ะ ไม่ได้สงสารที่โดนยามะมันทำอะไรไม่ดีๆนะ แต่สงสารที่โดนคนรอบข้างแอนตี้อ่ะ T^T

    ก๊กเป็นผู้ใดมาจากไหน ยามะมีปมอดีตยังไง แล้วหลังจากนี้จะยังไงกันต่อไปละเนี่ย โฮกกก ค้างคาอีกแล้วววครับท่านนนน เขย่าจอให้ตอนใหม่มันร่วงลงมา =[]=

    อยากอ่านตอนต่อไป งื้ออ ลองเดาความน่าจะเป็นไว้ในใจ ครึครึ
    ฟิควันเกิดยามะ คงจบแฮปปี้ม้างงง เน๊อะๆ >////< รออลุ้นต่อไปค่า

    ตอบลบ
  5. อ่านไปอ่านมา รู้สึกบรรยากาศคล้ายเรื่อง พ่อบ้านปีศาจนะเนี่ ที่คนธรรมดากลายเป็นคนเลวแต่ปีศาจเป็นคนดี ซะงั้น = { } ="


    ชอบอิเนียนรอบนี้มาก คือ มันเท่มากกว่าครั้งที่ผ่านๆมาซะอีก

    ปล. รอบหน้าขอเป็นยามะแบบดาร์กถึงขั้นยิ่งร้ายยิ่งรักแบบลักพาตัวก๊กคุงไปอยู่รังรักด้วยกันอะไรแบบนี้ได้ไหมเอ๋ย =.,=

    ตอบลบ
  6. เค้านั่งคิดอยู่ตั้งนาน ว่าจะอ่านฟิคเรื่องนี้เลยหรือว่าจะรออ่านในรวมเล่มดี(แต่ดูเหมือนว่างานอีเวนมันจะเลื่อนไปเรื่อยๆ)
    ......จนตอนนี้ เขาอดใจไม่ไหวแล้ววววววววววววว!!!

    มาพูดถึงเรื่องฟิคดีกว่า..............
    โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!
    ก๊กดูบริสุทธิ์ผุดผ่องน่ากด(?) ส่วนยามะก็ดาร์ก หื่น ตรงตามคอนเซ็ป!!!
    ตอนแรกเปิดมาตกใจมากค่ะ คิดในใจว่า เฮ้ย! นี่มันจะกดกันทั้งเรื่องเลยเรอะ เห็นพี่กวางถมดำทั้งเรื่องเลย แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่(แอบเสียดาย)

    ยามะเรื่องนี้แบบว่า ดาร์ก เจ้าเล่ห์ หื่น ชอบมากๆเลยค่ะ
    อารมณ์ที่กดกับแบบไม่มีความอ่อนโยนเนี้ยมันสุดยอดดดดดดดดดดดดด!!! = v =b
    แต่ก็หงุดหงิดนิดหน่อย ทำไมถึงทำกับก๊กไม่ใยดีแบบนี้
    สงสารก๊กมากๆเลยค่ะเรื่องนี้อ่ะ ก๊กไม่ได้ทำผิดซักหน่อย
    แบบนี้ก๊กเสียหายนะเออ พวกชาวบ้านควรจะต้องเห็นใจนะ!
    ว๊ากกกกกกกกกก อยากจะขว้างคอมทิ้งตอนนี้เลย อ่านไปอ่านมาตอนแรกเราหมั่นไส้ยามะ แต่ไปๆมาๆกลับรู้สึกเกลียดพวกชาวบ้านแทน!!!

    พอมาจิ้นภาพก๊กใส่ชุดซิสเตอร์แล้วสุดยอดมากค่า ทั้งโมเอะ ใสซื่อ น่ารักที่สุดเลย!!!
    ฟิคเรื่องนี้ยาวได้ใจจริงๆค่ะ แถมเนื้อหาก็สุดยอดเลย~
    น่าติดตามมากค่า!!! แต่ที่เค้ากลัวมากที่สุดก็กลัวว่ามันจะจบแบบดราม่าเศร้าๆนี่สิ

    เอาเป็นว่ารีบกระโดดไปอ่านตอนต่อไปโดยด่วน

    ตอบลบ
  7. อะไรๆ ไหนๆค่ะ .หาวิธีอ่านกันเอาเอง...เอิ่มใช่วิธีนี้ป่าวว่ะ(กร้ากก โดนโบก)

    ตอบลบ