KHR Au.Fic [8059] IF ; I LOVE [09]
: KHR Fanfiction Au
: 8059 186927 XS
: Romantic
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ยามะเนียนใสกิ๊ง....(ฉันว่าไม่ใช่เด็ดๆ)... ส่วนหนูฮายาโตะนิสัยจะไม่ตรงกับคาร์แรคเตอร์หลักนะตัวเอง...^ ^...ก็เค้าอยากเห็นหนูฮายาโตะเวอร์ชั่นน่ารักๆเอ๋อๆมั่งอ่ะ
: อยากเปลี่ยนพระเอกจริงๆเลยค่ะ ตอนนี้....>.<…(เฮ้ย!!!)
.
.
.
.
.
.
.
ห้องพิเศษของที่โรงพยาบาลนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม....เงียบและไร้ผู้คน....ห้องๆนี้อยู่ลึกมากกว่าห้องพิเศษทั่วไป เนื่องจากห้องนี้จะอยู่ใกล้ห้องพักของแพทย์มากที่สุด พี่ชายของเขามักจะอยู่ที่ห้องนี้เป็นประจำตามคำสั่งของชามาล....วันนี้ก็เช่นกัน....ร่างบอบบางของพี่ชายนอนหลับอย่างสงบนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ หลังจากที่เจ้าหมอชีกอนั่นฉีดยาให้พี่ชายเขา....
อากาศภายนอกคงจะหนาวอย่างไม่ต้องสงสัย เขานั่งเหม่อมองปุยหิมะสีขาวที่โปรยปรายลงมาช้าๆ...ใกล้จะสิ้นปีแล้วสินะ....หันกลับมามองคนที่เคยหลับสนิทอยู่ข้างๆตัวเขา จึงได้รับรู้ว่า นัยน์ตาสีเขียวมรกตนั่นกำลังจ้องมองเขาอยู่...นายกำลังสงสัยอะไรในตัวฉันอยู่หรือเปล่า...ฮายาโตะ
“ เป็นไงบ้าง “ เขาถามออกไปพร้อมกับยกมือเกลี่ยปอยผมที่ปลกใบหน้าใสๆนั่น
“ เจ็บ “ เสียงบ่นงึมงำออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อของพี่ชาย
“ อยากกินอะไรหรือเปล่า “ เปลือกตาของร่างบางหลับลงอีกครั้ง...ยาคงยังไม่หมดฤทธิ์สินะ
“ อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่อาหารของโรงพยาบา.... “ เสียงของพี่ชายขาดหายไป เพราะสติที่หายไปอีกครั้ง...เขาเอื้อมมือไปดึงผ้าห่มมาคลุมร่างบางของพี่ชายจนถึงลำคอระหง....ถ้าเป็นที่นี่คงไม่เป็นไร....เจ้าชามาลคงไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาได้ง่ายๆ....
.
.
.
.
.
ตอนนี้เขาค่อยๆเดินฝ่าความหนาวเย็นของหิมะ...เพื่อออกไปหาอะไรอุ่นๆมาไว้รอให้ร่างบางของพี่ชายทานหลังจากที่ตื่นขึ้นมา.....ร้านรวงต่างๆประดับไฟเพื่อแข่งกับความขาวสะอาดของหิมะโดยรอบ....ความขาวโพลนที่แสนบริสุทธิ์...ขาวสะอาดจนล่อลวงใครหลายคนให้ตายใจ...ถ้าเขามองมันให้ทะลุอีกนิด...ก็คงจะเห็นแล้วว่ามีใครบางคนกำลังเดินตามเขามา.....เพราะรังสีที่แผ่ออกมาจากตัวหมอนั่น...ช่างตัดกับสีที่แสนบริสุทธิ์ของหิมะราวกับสีคู่ตรงข้าม...
ร้านที่เขาเลือกเข้ามาซื้อนั้นคนค่อนข้างเยอะทีเดียว...อากาศแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงต้องการอะไรที่อุ่นๆ....แต่ถึงแม้ว่าจะหนาวขนาดนี้...แต่ผู้คนที่ออกมาเดินซื้อของก็ไม่ได้ดูบางตาเลย....คงเป็นเพราะใกล้จะสิ้นปี...พวกเขาเหล่านั้นคงกำลังเดินมองหาของขวัญวันคริสมาสต์หรือวันปีใหม่ให้กับคนสำคัญ....เขาเอง....ก็อยากจะหาอะไรให้คนสำคัญของเขาบ้าง...ของขวัญ...จากคนที่รักนาย....ของขวัญ....ที่ไม่สามารถจะเป็นรูปหัวใจหรืออะไรก็ตามที่มันจะบ่งบอกว่า......ฉันรักนาย....
คำว่า “พี่ชาย” ยังคงตามมาหลอกหลอนเขาได้ไม่เว้นแม้แต่วินาทีเดียว........ทำไมกัน.....ฉันก็แค่...รัก.....
“ ขอโทษที่ให้รอนะครับ” พนักงานของร้านถือกล่องอาหารที่เขาสั่งไว้มาให้ที่โต๊ะที่เขานั่งรออยู่
“ เอ...ไม่ทราบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นมาด้วยกันกับคุณหรือเปล่าครับ” พนักงานเอ่ยถามขึ้น ขณะที่เขากำลังจะลุกออกจากเก้าอี้ จากนั้นจึงหันไปมองที่บานประตูว่างเปล่าของร้าน...
“ อ้าว...ไม่อยู่แล้วหรอเนี่ย...สงสัยจะไม่ใช่แฮะ...เห็นเค้ายืนมองคุณอยู่ ก็เลยนึกว่ามาด้วยกัน” พนักงานหันกลับมายิ้มให้เขา ก่อนที่จะขอตัวเดินจากไป.....มีคน...มองเขาอยู่งั้นหรอ.....เป็นไปได้ไหมว่าเขาโดนสะกดรอยตาม....หรือว่าจะเป็นหมอนั่น....
ขายาวของเขารีบก้าวเดินอย่างเร่งรีบ....หิมะตกแบบนี้ก็เดินลำบากพอดูอยู่แล้ว...แล้วยังต้องเดินหลบหลีกผู้คนมากมายเหล่านี้อีก.....เป็นไปได้ไหมนะ...ว่าคนที่ตามเขายู่คือ ฮิบาริ เคียวยะ...และป่านนี้...เจ้านั่นอาจจะรู้แล้วว่า....พี่ชายของเขาอยู่ที่โรงพยาบาลเพียงลำพัง...แค่คิดความกังวลก็แล่นเข้ามาจู่โจมเขาไม่ยั้ง....
ในที่สุดเขาก็เข้าเขตของโรงพยาบาลมาจนได้....ที่ตึกผู้ป่วยนอกด้านหน้าเต็มไปด้วยความวุ่นวาย...เด็กนักเรียนตีกันบาดเจ็บจนต้องหามเข้าโรงพยาบาล....เขาแลเห็นหมอหลายคนวิ่งวุ่นอยู่ที่บริเวณนั้น.....และเขาจะไม่ร้อนใจขนาดนี้เลยถ้าไม่เห็นชามาลก็เดินทำหน้าตาเบื่อหน่ายอยู่แถวนั้นด้วย....ชามาลไม่ได้อยู่กับฮายาโตะ....แล้วใครกันที่จะอยู่กับนาย....ขาก้าวออกวิ่งโดยอัตโนมัติ....วิ่งฝ่าความวุ่นวายและเสียงร้องโอดครวญโดยรอบเข้าสู่เขตห้องพิเศษ...ที่ไร้ผู้คนและเงียบสงบ....
แฮก...แฮก....แฮก....ได้ยินเสียงหอบหายใจของตัวเองดังลั่น...แต่เขาก็ไม่มีเวลามาสนใจมันอีกแล้ว...ขายังคงก้าวต่อไป...จนในที่สุดก็มาหยุดยืนอยู่หน้าห้องที่มีร่างบอบบางของพี่ชายนอนอยู่ข้างใน...แต่ก่อนที่เขาจะกระชากประตูเปิดออก....เสียงๆหนึ่งก็ทำให้เขาหยุดชะงัก.....
“ ขอโทษนะ”
“ ฉันขอโทษ...ขอโทษ....”
“ขอโทษที่ทำให้แกบาดเจ็บ....ขอโทษที่ทำร้ายแก...”
“เจ็บมากไหม.......ฮายาโตะ....”
“ขอโทษ.....”
ถ้อยคำสุดท้ายแสนสั่นเครือ...เบาบาง....ของหมอนั่น....ฮิบาริ เคียวยะ...กลืนหายไปกับอากาศ.....มือของเขาที่กำลังจะกระชากประตูให้เปิดออกทำได้แค่ตกลงข้างลำตัวของเขาอย่างหมดแรง...หลังของเขาพิงกำแพงที่อยู่ข้างๆประตูนั่น.....หมอนั่นคงกำลังพูดกับพี่ชายของเขาที่กำลังหลับใหลอยู่ในโลกแห่งความฝันอันไร้ความเจ็บปวด
อย่างงั้นเองหรอ.....แกกับฉันมันช่างคล้ายกันจริงๆ ฮิบาริ เคียวยะ.....”รัก” คนคนเดียวกัน.....แกที่ “รัก” โดยที่ไม่รู้ว่าจะแสดงมันออกมายังไง....แต่ฉัน “รัก” แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้....สุดท้ายแล้ว...แกกับฉันก็ได้แต่ “รัก”
…………………………………………………………
.
………………………………….
.
………………………
.
…………..
.
.
วันและคืนเคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้า...ราวกับว่ากำลังค่อยๆรักษาบาดแผลให้กับผู้คนนับล้าน.......บาดแผลบนร่างกายของพี่ชายค่อยๆเริ่มจางหาย.....แต่บาดแผลที่หัวใจของเขา.....ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน...ทำไมมันถึงยังคงอยู่......
“ ไม่เอาแล้ว” น้ำเสียงเอาแต่ใจของคนป่วยบนเตียงเอ่ยออกมาพร้อมกับหันหน้าหนีข้าวต้มในช้อนที่เขายกขึ้นจ่อที่ริมฝีปากแดงระเรื่อนั่น
“ เพิ่งจะกินไปนิดเดียวเองนะ....กินอีกหน่อยสิฮายาโตะ” แล้วพยาบาลตลอดชีพอย่างเขา ก็ต้องรับบทหนักอีกตามเคย...บทจะเอาแต่ใจก็เอาแต่ใจจนน่าปวดหัว.....ความจริงแล้วตอนนี้บาดแผลตามตัวของพี่ชายเริ่มจะหายสนิทดีแล้ว...โดยเฉพาะที่มือและแขนทั้งสองข้างนั้นแทบจะไร้ริ้วรอยใดๆ....แต่......คนป่วยจอมเอาแต่ใจก็ยังคงให้เขาป้อนข้าวป้อนน้ำตามปกติ......โดยไม่คิดที่จะกินเองเลยแม้แต่น้อย.....
“ ถ้าพาออกไปข้างนอก...จะยอมกินให้หมดก็ได้” ที่แท้ก็งอแง อยากออกไปเล่นข้างนอกเหมือนเด็กๆนี่เอง....เขาได้แต่ลอบถอนหายใจ....จะมีใครในโลกนี้ตามใจนายได้เท่าฉันไหมเนี่ย.......นัยน์ตาสีเขียวสดใสที่จ้องมาอย่างอ้อนนิดๆนั่นก็อีก....จะมีใครในโลกนี้ทำให้ฉันต้องตามใจได้เท่านายไหมเนี่ย....
เขาวางถ้วยใส่ข้าวต้มหอมกรุ่นเอาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ก่อนที่จะอุ้มร่างบางของพี่ชายจากเตียงนุ่มลงที่รถเข็นแทน....ถึงแม้ว่าแผลที่อื่นจะหายไปบ้างแล้ว แต่ขาที่หักก็ยังคงต้องเข้าเฝือกอยู่ นี่ก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่ชายของเขาหงุดหงิดเอาแต่ใจอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้นั่นเอง....ช่วงที่เขาไปโรงเรียนพี่ชายของเขาคงนั่งแกร่วอยู่แต่บนเตียง....เพราะงั้นเวลาที่เขามา....จึงได้ออกอาการเอาแต่ใจยิ่งกว่าลูกแมวจอมดื้อตัวไหนๆ.....
เขาค่อยๆ เข็นรถที่มีคนป่วยนั่งอยู่ออกจากห้องพิเศษซึ่งไม่รู้ว่าอยู่มานานแค่ไหน...เข็นไปเรื่อยๆ....เหล่านางพยาบาลต่างหันหน้ามายิ้มให้เราทั้งคู่....เห็นหน้ากันมานานจนคุ้นเคยกันขนาดนี้แล้วหรอเนี่ย........
โถงทางเดินมีผู้คนบางตา....วันนี้หนาวไม่มากนัก...แต่คนป่วยส่วนใหญ่ก็คงอยากนอนอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆกันมากกว่า......เขาพาพี่ชายของเขามาหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งของสวนเล็กๆภายในโรงพยาบาล....ต้นไม้ต่างผลัดใบไม่มีเหลือ....แต่สำหรับคนที่ต้องทนอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆทั้งวัน มันก็คงรู้สึกว่าดีกว่าเป็นไหนๆ.....พี่ชายของเขาเหม่อมองทิวทัศน์ข้างหน้าอย่างโหยหา....
“ อยากไปโรงเรียนจัง” เสียงนุ่มบ่นออกมาเบาๆ....
“ งั้นนายต้องกินข้าวให้หมด จะได้มีแรงออกไปได้ไง” อย่างกับแม่หลอกล่อให้ลูกเล็กๆกินข้าวให้หมดเลยแฮะ.....แต่....ก็ถือว่าได้ผล....คนตรงหน้ายอมกินข้าวแต่โดยดี....
ในไม่ช้าพี่ชายของเขาก็กินข้าวหมดเสียที....เขาเข็นรถกลับเข้ามาในตัวอาคารเพราะน้ำค้างเริ่มจะลงแล้ว.....คนบนรถเข็นก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่ยอมกลับห้อง....เขาก็ได้แต่ตามใจอีกครั้ง....เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าลูกแมวจอมดื้อของเขาจะออกฤทธิ์อะไรมาอีกถ้าเขายังฝืนจะพากลับไปในทันที.....ปล่อยให้ร่างบางได้สูดอากาศข้างนอกบ้างก็คงดีเหมือนกัน....เขาจึงยืนคุยกับร่างบางบนรถเข็นอยู่ตรงนั้น....ไม่รู้ว่านานแค่ไหน.......
จนกระทั่ง...............
เสียงฝีเท้ามั่นคงของใครบางคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของโถงทางเดินยาวเหยียด ในบริเวณนั้นไม่มีใครอีกเลยนอกจากเราสองคนและ....คนที่กำลังก้าวเดินเข้ามา....ชายที่มีเรือนผมสีรัตติกาล ชายคนที่เกือบจะพรากคนที่เขารักมากที่สุดไป....ฮิบาริ เคียวยะ....ถ้าสายตาของเขาสามารถฆ่าคนตายได้ ป่านนี้หมอนั่นคงได้นอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้นไปแล้วละ.....
มือบางสั่นเล็กน้อยของพี่ชายเอื้อมมาเกาะแขนเขา....จริงสินะ....นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนี้...ที่หมอนั่นเข้ามาหาพี่ชายของเขาในขณะที่มีสติ ถึงแม้ว่า ฮิบาริ เคียวยะ จะมาหาพี่ชายของเขาบ่อยๆแต่ก็มักจะเป็นตอนที่พี่ชายของเขาหลับและเขาไม่ได้อยู่ข้างๆ
“ ไอ้สัตว์กินพืช....” หมอนั่นหยุดลงตรงหน้ารถเข็นที่พี่ชายของเขานั่งอยู่
“ ฟังฉัน......หน่อยเถอะ” หมอนั่นคุกเข่าลงตรงหน้ารถเข็นเพื่อให้ระดับสายตาอยู่ในระดับเดียวกับนัยน์ตาสีเขียวมรกต.....นัยน์ตาสีดำสนิทของหมอนั่นสบตาแน่วแน่กับคนตรงหน้า.....ไม่....แม้แต่จะสนใจ....ว่าเขาจะยืนอยู่ตรงนั้นด้วย....ถึงแม้ว่านัยน์ตาสีเขียวสดใสของพี่ชายจะจ้องตอบกลับไป แต่มือบางที่สะดุ้งเล็กน้อยกระชับจับแขนของเขาแน่น
“ ขอโทษ” เสียงแผ่วเบาแต่ก็หนักแน่นเปล่งออกมาจากปากของหมอนั่น....
“ ฉัน.....ไม่คิดจะ......ยกโทษให้แก...” พี่ชายของเขายังคงจ้องตาตอบกลับไป...ถึงแม้น้ำเสียงที่ตอบกลับไปจะแฝงความหวาดกลัวอยู่ลึกๆก็ตาม
“ หึ....นั่นสินะ....แบบนี้ถึงจะสมกับเป็นสัตว์กินพืชที่ฉันรัก”
“ เอ๊ะ”
“ ฉันรักแก ฮายาโตะ”
“ อะ......” นัยน์ตาสีเขียวมรกตเบิกกว้าง มือที่จับแขนของเขาไว้กระตุกเล็กน้อย ตามความตกใจของเจ้าของ สีหน้าตกใจผสมปนเปกับความหวั่นไหวปรากฏชัดบนใบหน้าขาวเนียนนั่น....พี่ชายของเขาได้แต่จ้องมองคนตรงหน้าด้วยความตกตะลึง....คงไม่มีใครคิด...ว่าคนอย่างฮิบาริ เคียวยะ จะพูดประโยคนี้ออกมา....
หมอนั่น.....จงใจพูดคำคำนี้กับพี่ชายของเขา....ต่อหน้าเขา.....ราวกับว่าต้องการให้เขาได้รับรู้....แกกำลังบังคับให้พี่ชายฉันเลือกใช่ไหม....ในเมื่ออยู่ตรงนี้ทั้งสามคน....จะได้รู้กันไปเลยใช่ไหมว่า ร่างบอบบางตรงหน้าจะตกเป็นของใคร....
ความเงียบเข้ามาครอบคลุมรอบบริเวณ....ความอึดอัดอันน่าหวาดกลัวของพวกเราทั้งสามคนนี้ คงไม่มีใครอยากจะเผชิญ...เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหน ก็จำเป็นต้องมีคนที่เดินจากไปและเจ็บปวดอยู่เสมอ....
“ ฮายาโตะ” มือที่เคยแต่จับทอนฟา วางลงบนมืออีกข้างของพี่ชายที่ไม่ได้เกาะแขนเขาอยู่ ใบหน้าตกตะลึงของพี่ชายยังไม่จางหายไป....ถึงแม้หมอนั่นจะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา แต่การกระทำทั้งหมดมันก็ราวกับว่ากำลังรอคอยคำตอบจากพี่ชายของเขา.........ไม่มีทาง........ไม่ยอม..........ฉันบอกแล้ว..........ไม่ว่าแกจะรักพี่ชายของฉันแค่ไหน........แต่ฉันไม่มีวันยกเขาให้ใครแน่.............ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน................ก็ตาม
แขนอีกข้างของเขาที่ไม่ได้ถูกมือบางเกาะอยู่ค่อยๆยกมือขึ้นช้าๆ....แล้ววางลงบนไหล่บางของพี่ชาย.....บีบเบาๆให้คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นรู้ว่า.....ยังมีเขา....ที่ยังคงยืนอยู่ข้างๆตลอดเวลา......
“ ฉัน...........” ใบหน้าที่เคยตกตะลึงผ่อนคลายลงพร้อมกับนัยน์ตาสีเขียวมรกตที่เสมองไปข้างๆ......
ฮิบาริ เคียวยะ ละสายตาจากพี่ชายของเขา....จ้องมองไปยังมือบางที่เกาะแขนของเขาแน่น....สำหรับคนที่เฝ้ามองพี่ชายของเขามาตลอดแล้ว....มันเข้าใจได้ไม่ยากเลย....
“ หึ......” หมอนั่นส่งเสียงหัวเราะเล็กๆ ราวกับจะเย้ยหยันตัวเอง......ปฏิเสธออกมาซะ....ยังจะมีความหวังมากกว่าท่าทางแบบนี้มากมายนัก.....เขามั่นใจว่าหมอนั่นคงจะเข้าใจกับท่าทีแบบนี้ของพี่ชายของเขา......
“ แกเป็นคนแรก....แล้วก็คนเดียวที่ฉันจะยอมปล่อยมือ” ฮิบาริ เคียวยะ ลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเดินจากพวกเขาทั้งสองคนไปอย่างช้าๆ....สายตาเหม่อมองไปข้างหน้าราวกับว่าไม่ต้องการมองเห็นคนที่อยู่ข้างหลังอีก...ราวกับว่าสิ่งที่จ้องมองมาตลอดนั้นหายไป.....
“ เพราะว่าฉันรักแก....” เสียงกระซิบแผ่วเบาลอยมากับสายลม.....
สายตาของพี่ชายสั่นไหวเล็กน้อย มือบางที่เกาะแขนเขาแน่นค่อยๆคลายออก.......ฉันจะเข้าข้างตัวเองได้ไหมนะ....ว่าในที่สุดแล้ว.....นายก็เลือกฉัน......ฮายาโตะ
.
.
.
.
.
.
.
ซึ ซึ คู๊.....^ ^…..
จากไปแล้วหนึ่งราย......เป็นยังไงกันบ้างคะ.....
บอกแล้วว่าอย่าเกลียดคุณฮิ....เค้ารักจนยอมเดินจากไปขนาดนี้....>.<…แอบอิจฉาหนูฮายาโตะเล็กๆแฮะ....>.<….
.
.
.
.
แถม..............
.
.
.
“ นี่มุคุโร่”
“ อะไรครับ”
“ ฉันเห็นด้วยนะ...ที่เอาผลไม้มาเยี่ยมคนป่วยเนี่ย....แต่ว่า....ขอพูดตรงๆเลยละกันนะ”
“ อย่าดีกว่าครับ คำพูดตรงๆของสึนะโยชิคุงน่ะ ช่างทำร้ายจิตใจของผมเหลือเกิน...”
“ อย่ามาสตอเบอรี่ ไอ้สับปะรด!!! ฉันจะไม่ว่านายเลยนะ ถ้าจะเอาผลไม้ปกติๆที่ชาวบ้านเค้าเอาไปเยี่ยมคนป่วยกัน อย่างแอปเปิ้ล สาลี่ บลาๆๆ...แต่นี่ทำไมมันถึงเป็นสับปะรดล่ะ...แถมยังเป็นสับปะรดทั้งหัวไร้การปลอกไร้การหั่นตกแต่งใดๆอีกต่างหาก....นายคิดว่าคนป่วยมันจะมีอารมณ์มานั่งปลอกสับปะรดกินไหมเนี่ย....อย่าเถียง......ถึงแม้จะมีคนเฝ้าก็เถอะ....แต่ไอ้ของแบบนี้น่ะ มันปลอกง่ายเหมือนแอปเปิ้ลซะที่ไหนเล่า”
“ คึหึหึ....ก็แล้วคนที่ไม่มีอะไรมาเยี่ยมอย่างสึนะโยชิคุง ยังมีหน้ามาว่าผมได้อีกหรือครับ....”
“ สับปะรดของผมน่ะ.....”
“ อี๋!!!!!!!”
“ อะไรครับ “
“ น่ะ....นั่นมัน...คุณฮิบาริไม่ใช่หรอ.....มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย...วันนี้ดูท่าทางน่ากลัวกว่าปกติยังไงก็ไม่รู้แหะ “
“ คึ หึ หึ.....อย่าไปใส่ใจเลยครับ....มาทางนี้เถอะ “
.
.
.
.
ชะอ้าว....ตกลงสามคนนี้มันยังไงกันแน่ละเนี่ย.....หึ หึ....
เห็นของเยี่ยมแต่ละอย่างแล้วปวดตับแทน 8059 จริงๆ5555
อ่า.....เห็นหน้าเปิดตอน248นี่แล้วมัน......โฮกกกกกกก.....เปลี่ยนสมการตอนนี้จะโดนตบร่วงไหมคะ....>.<....ป๋าขา....ป๋าจะหล่อเลวไปไหนคะ....เห็นแล้วมันน่า 10069 ให้ดิ้นตาย.....Gyaaaaaa.....
มุ : ทำไมถึงเป็นผมอีกแล้วละครับ....10027...ก็ได้นี่ครับ
มี : หล่อเลวก็ต้องคู่กับหล่อแรดสิถึงจะเร้าใจ วะฮ่ะฮ่ะ....
มุ : โดนสามง่ามจิ้มดับไปซะเถอะครับ
มี : อย๊า!!!!!.......
และแล้ว....IF ; I LOVE ก็ต้องอวสานลงด้วยประการละฉะนี้ ...โดนตัดจบเนื่องจากผู้แต่งได้สิ้นชีพด้วยสามง่ามไปแล้ว THE END……เฮ้ย!!!
อ๊าาา ฮายาโตะน้อยน่ารัก เหมือนเด็กเลย ><
ตอบลบตื่นมางอแง เจ็บๆ ไม่กินข้าว จะออกไปเล่น 555
ยามะก็เลี้ยงฮายาโตะเหมือนเด็กจริงๆเลยน่อ บอกจะพาไปเล่นถ้ากินข้าวหมด
หนูก๊กก็เชื่อซะด้วยสิ - -' แต่ฮิบาริตอนนี้น่าสงสารอ่า ..
ท่าทางจะรักก๊กมากๆ เพราะรักถึงยอมปล่อย ลึกซึ้ง *-*
เอาน่ะๆ ฮายาโตะน่ะ ต้องยอมยกให้ยามะเค้าไปนะเคียวยะ
อย่าได้เสียใจไป ~
ท่านฮิจ๋าาาาา
ตอบลบมามะๆมาซบอกเค้าเถอะ(ทอนฟาปักหัว)