Attack on Titan. Au S.Fic HBD.Eren [Levi x Eren] พราว : 06 [END]


Attack on Titan. Au S.Fic HBD.Eren [Levi x Eren]  พราว : 06 [END]

: Attack on Titan Fanfiction 
: Levi x Eren
: Warmhearted Sweet
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
           
         




“ ฤดูร้อนของพวกเราสิ้นสุดแล้ว!!

“ ชัยชนะมันต้องฉลองกันแบบแมนๆ!!

“ เพราะงั้นไปปิดเกมส์เซ็นเตอร์กันเล้ย!!!

เจ้าพวกนี้....ก็ยังคงเริงร่ากันได้เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ....

ผมเหลือบมองเจ้าพวกที่โหวกเหวกโวยวายกันอยู่ในห้องชมรมพลางยัดเสื้อฟอร์มเบสบอลลงเครื่องซักผ้า....จากวันนั้นก็ผ่านมาเดือนหนึ่งได้แล้วที่ผมกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ...ถึงแม้ว่าช่วงแรกๆเจ้าพวกบ้าพลังนี่จะโอ๋ผมมากกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ปล่อยไปไม่กี่วันก็กลับมาจิกหัวใช้ผมราวกับข้าทาสเหมือนเดิม

แต่ผมก็ต้องการให้มันเป็นแบบนี้แหละนะ...ผมไม่ได้อยากเป็นภาระของใคร  ไม่ได้อยากถูกดูแลราวกับว่าเป็นคนป่วยที่ทำอะไรไม่ได้

“ เอเลน!นายก็ต้องไปด้วยกันนะ!!

“ ห๋า?!!”   ผม...กับเกมส์เซ็นเตอร์เนี่ยนะ? ดูไม่เข้ากันเลยสักนิด


แต่จนแล้วจนรอดก็โดนลากมาด้วยจนได้ ให้ตายเถอะ!

นั่นยังไม่เท่าไหร่...แต่ไอ้การที่โค้ชอย่างเขาก็ตามมานั่งเล่นปาจิงโกะด้วยหน้าตาเฉยนี่มันยังไงกัน!

แล้วก็ท่าทางจะเชี่ยวซะด้วยนะ ดูจากลูกเหล็กที่ไหลราวกับน้ำตกลงมาซึ่งไม่รู้ว่าเขาดวงดีหรือว่าตู้มันกลัวเขาเตะเอากันแน่?!


“ มาเกมส์เซ็นเตอร์ทั้งทีมันต้องมี.......”   เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ยังดีที่ในร้านแทบไม่มีคนผมจึงไม่ต้องไปคอยขอโทษขอโพยเหมือนที่ผ่านๆมาเวลาไปไหนด้วยกัน

“ การพนันและเกมลงโทษ!!”  คราวนี้ลูกคู่ขานรับกันให้เพี้ยบ....เสียงโหวกเหวกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนทำให้ผมละสายตาจากโค้ชหันไปมองเจ้าพวกนั้นด้วยความสงสัย...เกมลงโทษอะไร?....ก็นะ...ผมเคยมาเกมเซ็นเตอร์เสียที่ไหน...

“ เอ....พนันด้วยอะไรกันดีล่ะคราวนี้?”  สองแขนยกขึ้นมากอดอกมองเจ้าพวกนั้นด้วยเครื่องหมายเควสชั่นมาร์คเต็มหน้า การพนันนี่มันเป็นเรื่องปกติของการมาเกมเซ็นเตอร์หรอ?...จะอะไรผมก็ไม่รู้ด้วยหรอก เพราะผมไม่คิดว่าตัวเองจะเล่นอะไรในเกมเซ็นเตอร์นี่ได้ ก็แค่โดนลากมาด้วยเฉยๆเท่านั้นแหละ

ผมวางกระเป๋าที่สะพายอยู่ที่ไหล่ไปกองรวมกับกระเป๋ากีฬาใบใหญ่ของเจ้าพวกนั้น...ดูพวกมันสิ...จะมาที่แบบนี้ก็ไม่รู้จักเปลี่ยนชุดวอล์มของชมรมกันเสียก่อน แบบนี้ใครๆก็รู้หมดว่าเป็นพวกสมาชิกชมรมเบสบอล...ถึงแม้ว่าปกติแล้วเจ้าพวกนั้นมันก็มักจะไปไหนมาไหนในชุดวอล์มของชมรมกันอยู่แล้วก็เถอะนะ...นัยน์ตาสีมรกตก้มลงไปมองตัวเอง...จะว่าไปผมจะไปว่าพวกนั้นก็คงไม่ได้ เพราะผมเองก็ไม่ได้ต่างกันเลย

“ นี่แล้วกัน!”  หนึ่งในนั้นพาดมือไปที่ตู้เกมที่มีลังใส่ลูกบาสกับห่วง...น่าจะเป็นเกมประมาณชู้ตบาสลงห่วงละมั้ง?

“ เออดี! แบตเตอร์บอกซ์ก็ตีกันจนรู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว...ลองแข่งด้วยกีฬาอย่างอื่นบ้าง เผื่อพวกเราจะได้เห็นความพ่ายแพ้ของเจ้าเอสปีศาจนี่ ฮ่าๆๆๆ”   ผมได้แต่ยืนมองตาปริบๆด้วยไม่รู้เลยว่าที่เจ้าพวกนั้นพูดมามันหมายถึงอะไร

“ เอเลน! นายก็ต้องเล่นด้วยนะ!

“ ห๊ะ?!!”  ริมฝีปากอุทานออกไปโดยไม่ต้องหยุดคิด จะให้ผมไปแข่งเรื่องออกแรงกับเจ้าพวกบ้าพลังนี่ไม่มีทางชนะเลยสักนิด

“ ไม่ต้องห่วงน่า...เราไม่ให้นายไปแข่งอะไรโหดร้ายๆหรอกน่า...ก็แค่พนันกันสนุกๆ...”   ท่อนแขนของใครสักคนพาดลงมาที่คอกันผมหนี...บอกตรงๆนะว่าน้ำเสียงของพวกแกมันน่าไว้ใจเสียที่ไหน

“ พนันกินเงิน?”  ผมถามออกไปด้วยความไม่รู้

“ อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆ นายนี่ไร้เดียงสาจัง”  แล้วดูพวกมันตอบกลับมาสิ! ผมนี่แทบจะหันหลังเดินหนี!

“ น่า..อย่างอนเลยนะเอเลน...ไม่ได้เป็นการพนันกินเงินหรอก...ก็แค่คนแพ้ต้องถูกลงโทษด้วยเกมเหมือนกัน”   ทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยากขนาดนั้น? แล้วทำไมผมถึงได้รู้สึกว่าใบหน้าของหมอนี่ตอนที่พูดถึงเกมลงโทษมันช่างเจ้าเล่ห์ยังไงชอบกล?

“ ก็ได้!”   ผมเม้มริมฝีปากอย่างช่างใจก่อนจะตอบออกไป...มันก็ไม่น่าจะมีอะไรนี่นา?

“ เฮ้~~~~”   เดี๋ยว?! ไอ้เสียงเฮนี่มันอะไร? แค่ผมเล่นด้วยไม่เห็นต้องดีใจขนาดนั้นนี่?

ก็แค่พนันเกมชู้ตบาสธรรมดาๆ?

“ กติกามันก็มีอยู่ว่า....เราจะให้ไอ้เจ้ากัปตันที่ควบตำแหน่งเอสเป็นคนเล่นเกมส์นี้...ส่วนพวกเราก็แค่พนันกันว่าหมอนี่มันจะทำลายสถิติของตู้นี้ได้ไหมเท่านั้นเอง...ใครที่ลงพนันข้างที่แพ้ก็ถูกเกมลงโทษไป...ง่ายๆเนอะเอเลน”  มันก็เหมือนจะง่ายแหละ ในเมื่อผมไม่ต้องออกแรงอะไร แค่ยืนดูกัปตันชู้ตลูกบาสให้ลงห่วงในเวลาที่กำหนด ว่าจะสามารถชู้ตได้มากกว่าสถิติที่เคยมีคนชู้ตเอาไว้สูงสุดของเครื่องนี้ได้หรือไม่ ถ้ากัปตันทำลายสถิติได้ก็ถือว่าชนะ แล้วถ้าผมลงพนันว่ากัปตันชนะ ผมก็จะชนะและไม่โดนเกมลงโทษ...ก็ดูเหมือนจะไม่ยากอะไรนี่?

“ ว่าไงเอเลน? นายจะพนันข้างไหน? คิดว่าเจ้าเอสปีศาจนั่นจะชนะหรือแพ้?”   อืม....เท่าที่ดูจากการที่กัปตันเป็นทั้งกัปตันและเอสของทีมเบสบอล ผมคิดว่าเขาน่าจะมีทักษะด้านกีฬาดีอยู่นะ โยนบาสลงห่วงแค่นี้....

“ ชนะแล้วกัน”

“ โอเค...นายพนันข้างกัปตันชนะนะ...มีใครจะลงข้างเดียวกับเอเลนไหม?”   แล้วเจ้าพวกสมาชิกคนอื่นๆก็ทำเอาผมแทบจะอ้าปากค้างในเมื่อไม่มีใครลงข้างกัปตันชนะกับผมเลยซักคน? เจ้าพวกนี้มันรู้อะไรอยู่หรือไง? หรือจะรู้ว่านอกจากเบสบอลแล้วกีฬาอย่างอื่นกัปตันจะห่วยหมด?

“ อ้า...ไม่ต้องห่วงนะเอเลน ชั้นจะลงเป็นเพื่อนนายเอง”  ขอบใจมากกกกเลยละ!....ผมเริ่มตงิดใจยังไงชอบกล...แต่ไอ้พวกนี้ปกติก็ชอบแซะกัปตันผู้แสนดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง?

“ งั้นมาเริ่มกันเลยไหม?”  แล้วเสียงเฮลั่นอย่างกับเชียร์มวยก็ดังขึ้นทันทีที่เริ่มเกม อย่างน้อยกัปตันก็ทำให้ผมอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง เพราะฝีมือชู้ตบาสของเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก

แต่ใครเลยจะรู้...

ไม่สิ...

คงจะมีแต่ผมเท่านั้นละมั้งที่ไม่รู้....

ว่าไอ้ตู้นี้มันมีสถิติอยู่ที่ 459 ลูกสำหรับเวลา 5 นาที!!

บ้าไปแล้ว!! มีแต่ยอดมนุษย์เท่านั้นแหละที่จะทำได้!

แล้วกัปตันของผมถึงจะเป็นเอสปีศาจแต่ก็ไม่ใช่ยอดมนุษย์ มันถึงได้แพ้หลุดลุ่ยแบบนี้ไง!!

คนที่แบกรับหมายเลข 1 เอาไว้บนหลังมาตลอดถึงกับทรุดลงหอบแฮ่กอยู่ที่พื้น ผมเองก็อยากจะทรุดตามลงไปด้วยจริงๆให้ตายเถอะ

เป็นอันว่าผมแพ้พนันและต้องถูกเกมลงโทษ!

โค้ช~~~ ช่วยด้วย~~~~



“ ไม่ต้องกลัวนะเอเลน...ชั้นจะอยู่เป็นเพื่อนนายเอง”  ผมได้แต่ยืนมองไอ้ตัวหัวโจกด้วยน้ำตาปริ่ม...นี่ไม่รู้ว่ามันปลอบใจผมหรือว่ายังไงกันแน่แต่ใบหน้ายิ้มกริ่มนั่นมันดูไม่เหมือนผู้แพ้เลยนะขอบอก

“ เกมลงโทษ! เกมลงโทษ!”   ไอ้เสียงเฮๆรอบๆนี่มันก็น่าหมั่นไส้นัก ผมไม่โทษกัปตันหรอกนะ ไม่โทษเลยจริงจริ๊งงงง

“ สู้ๆนะเอเลน”  ถ้าเขาจะไม่เดินมาบีบไหล่ผมด้วยรอยยิ้มละไมแบบนี้น่ะ! นี่ไม่ได้สมรู้ร่วมคิดกันใช่ไหม? ดูเหมือนผมมาคิดได้เอาตอนนี้ก็คงสายไปแล้วสินะ!

ใบหน้าหันไปมองหาโค้ชอย่างขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้ลูกปาจิงโกะที่ยังไหลยิ่งกว่าน้ำตกนั่นมันคงไม่ทำให้เขาหันมาสนใจผมแน่

“ จะ..จะให้เล่นเกมอะไรล่ะ?!”   ว่ามาเลย! ยังไงก็แค่เล่นเกมใช่ไหมล่ะ! ผมไม่เคยเล่นเพราะงั้นถึงจะแพ้ก็ไม่ผิด!

แล้วสายตาทุกคู่ก็หันไปมองอยู่ที่ตู้ที่มีไฟระยิบระยับจนทำเอาผมได้แต่เหงื่อแตกพลั่ก....ก็ไอ้ตู้นั้นถ้าเข้าใจไม่ผิดมัน....

“ เกมเต้น!!!!” 

ไม่ต้องประสานเสียงกันขนาดนั้นก็ได้...ผมละอยากจะเดินร้องไห้ไปที่ตู้นั่นนัก...

นัยน์ตาจดๆจ้องๆอยู่ที่หน้าจอที่มีคาแรกเตอร์สาวน้อยยืนโบกมืออยู่...เดี๋ยวนี้เกมเต้นมันไม่ได้ใช้เหยียบแค่ที่เท้า แต่ต้องเต้นทั้งตัวให้ท่าเหมือนกับในมิวสิควีดีโอที่ฉายอยู่บนจอ ถ้าเต้นถูกท่าเซ็นเซอร์ที่จับมาที่ตัวเราก็จะให้คะแนนเอง...อ้า!!! พูดง่ายๆก็คือไอ้พวกนี้มันหลอกล่อให้ผมมาเต้นให้พวกมันดูนั่นแหละ!!

“ เอาเพลงนี้นะเอเลน”   จะเพลงไหนก็เลือกไปเถอะ! ผมเคยรู้จักเสียที่ไหน!

“ ในฐานะที่ไอ้เจ้ากัปตันจอมมารนี่มันทำให้นายแพ้ เพราะงั้นรอบแรกชั้นกับหมอนั่นจะเต้นให้นายดูก่อน...ดูให้ดีๆน้าเอเลน~~~”   ไอ้พวกบ้านี่มันหน้าไม่อายกันเลยหรือไงนะ ต้องมาเต้นเพลงไอดอลสาวน้อยแบบนี้ยังหน้าระริกระรี้อยู่ได้ เพลงใสๆดูสนุกสนานเริ่มขึ้นแล้วสองคนที่ยืนอยู่หน้าจอก็เริ่มยกแขนยกขาเต้นตาม...แล้วแต่ละท่ามันก็นะ...ถ้าเป็นเด็กผู้หญิง ม.ต้นมาเต้นแบบนี้มันคงน่าดูอยู่หรอกแต่นี่เป็นเด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่ในชุดวอล์ม....แค่ยืนดูผมก็อายจะตายอยู่แล้วเนี่ย ไม่นะ.....แล้วยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะลั่นเวลาที่สองคนนั้นทำท่าส่งหัวใจบ้าง เอียงหัวแบบสาวน้อยบ้างผมก็อยากจะเป็นลมล้มพับให้ได้....ไม่...ไม่...ม๊ายยยย

แล้วพอสิ้นเสียงเพลงผมก็แทบจะสิ้นใจมันซะตรงนั้น...ก็เพราะตาต่อไป....

“ เดี๋ยวชั้นเต้นกับนายเองน่าไม่ต้องกลัว ไอ้พวกนี้มันก็เคยเต้นเพลงนี้กันมาหมดแล้วน่า”  ห๋า? นี่พวกแกทำเรื่องน่าไม่อายแบบนี้กันมาหมดแล้วงั้นหรอ? ทำไมพอได้ฟังแล้วมันก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมายังไงบอกไม่ถูก...เอาฮากันสินะ แต่ผมละอายเป็นบ้าเลย!

R you Ready~~~ Koisuru Fortune cookie~~~!!!”  แล้วเสียงเพลงน่ารักสดใสของกลุ่มไอดอลสาวที่ดังไปทั่วเกาะญี่ปุ่นอย่าง AKB48 ก็ดังขึ้นมา ถึงผมจะไม่ค่อยรู้เรื่องดาราหรือนักร้องเท่าไหร่ แต่ไม่ว่าจะเดินไปหัวมุมถนนเส้นไหนก็มักจะมีรูปพวกเธอแปะอยู่ผมจึงเคยเห็นมาบ้าง แล้วอย่างผมเนี่ยนะจะให้ไปเต้นท่าน่ารักๆแบบนั้น....อ๊าาาา!!! แทรกแผ่นดินหนีซะดีไหม?!

“ มาแล้วๆเอเลน ยกแขนซ้าย”   อะไรไม่รู้ละ ผมแอบเปิดตาดูก่อนจะหลับหูหลับตายกแขนตามไปด้วยใบหน้าร้อนผ่าว แล้วทำไมจากเสียงเฮลั่นมันถึงได้กลายเป็นเสียง แชะๆๆไปได้เนี่ย?!

“ ก้าวขาไปข้างหน้าแล้วก็ถอยหลัง จากนั้นก็ทำมือเป็นรูปหัวใจเอเลน”  ผมแอบช้อนตามองที่จอมอนิเตอร์ อายจนร้อนไปถึงหูแล้วเนี่ย แล้วไอ้มือรูปหัวใจนี่มันต้องทำยังไง? แบบนี้?

“ ฮิ้ว~~~”   ไอ้พวกบ้า!! จะฮิ้วทำไม?! หัวเราะผมแบบตอนที่กัปตันเต้นจะไม่เขินเท่านี้เลย!

แล้วทำไมไอ้คนข้างๆมันถึงได้พลิ้วขนาดนี้เนี่ย?! ดูคะแนนความเป๊ะของท่าที่หน้าจอแล้วรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิดๆ

ผมหลับหูหลับตาเต้นไปจนจบเพลงจนได้ ป่านนี้หน้าผมมันคงแดงเป็นลูกแอปเปิ้ลแล้วมั้ง!

“ โฮ่ย...”  ได้ยินเสียงโค้ชอยู่ใกล้ๆ ผมจึงเอาหน้าแดงเถือกไปหลบอยู่ที่แผ่นหลังของเขา...จัดการพวกมันเลยๆ....แล้วนี่เขาไปหอบอะไรมาเต็มสองแขนเนี่ย? ชนะปาจิงโกะจนร้านเค้าล่มจมไปแล้วใช่ไหม?

“ เอามือถือของพวกแกทุกคนใส่ถุงนี่ซะ...เดี๋ยวนี้”   หื๋อ? เขาหันไปสั่งเจ้าพวกนั้นก่อนจะยกถุงใบหนึ่งขึ้นมา ได้ยินเสียงครวญครางพลางร้องไห้กระซิกดังมาจากเจ้าพวกสมาชิกชมรมที่ค่อยๆหย่อนมือถือของตัวเองลงไป ก่อนที่จู่ๆเขาจะจับมือผมลากให้เดินตามมา

“ สองคน สองรอบ”  เขาวางแบงก์ลงไปบนเคาน์เตอร์ขายตั๋วชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ข้างๆเกมเซ็นเตอร์ แล้วกว่าจะหายมึนงงผมก็ไปรู้ตัวอีกทีตอนที่นั่งอยู่บนกระเช้าสีชมพูที่เริ่มลอยอยู่เหนืออากาศ

“ โค้ช~~~ เอามือถือพวกเราคืนมา~~~~  เสียงโหยหวนที่ดังอยู่ข้างล่างทำให้ผมก้มหน้าลงไปมอง

“ อย่าลบรูปเอเลนน้า~~~

“ ขึ้นกระเช้านั่นตามไปกันเถอะ!!

จะตามทันไหมนั่น....กระเช้าชิงช้าสวรรค์นะไม่ใช่ม้า จะได้วิ่งแซงหน้ากันได้น่ะ...ผมได้แต่นั่งส่ายหน้าให้กับความบ้าของสมาชิกชมรมแต่ละคน ทีแผนซับซ้อนอย่างการหลอกให้ผมไปเต้นเกมเต้นยังคิดได้ กับเรื่องแค่นี้ดันคิดไม่ออก!

ผมยิ้มเย้ยหยันเจ้าพวกนั้นเมื่อเห็นว่าโค้ชกำลังล้วงมือถือขึ้นมาทีละเครื่องแล้วกดอะไรบางอย่างลงไป...คงจะลบรูปที่พวกมันถ่ายผมเมื่อกี้นี้สินะ

“ งื้อ~~~”  ผมกอดแขนเขาพลางถูไถใบหน้าลงไปที่ต้นแขนซึ่งเต็มไปด้วยมัดกล้าม...รักเขาที่สุดในโลกเลย~~

เพราะเป็น Giant Wheel ทำให้เวลาที่ใช้หมุนในแต่ละรอบนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง ผมปล่อยให้เขาทำอะไรกับกองมือถือพวกนั้นต่อไป ส่วนตัวเองย้ายมานั่งที่อีกฝั่งของกระเช้า นัยน์ตาทอดมองไปยังทิวทัศน์ที่อยู่สูงจากพื้นดินไม่รู้กี่เมตร แล้วมันก็กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ ปกติแล้วพวก Giant Wheel มักจะสร้างอยู่ริมทะเลตามอ่าวต่างๆทั่วเกาะญี่ปุ่น ชิงช้าสวรรค์แห่งนี้เองก็เช่นกัน เพราะงั้นสิ่งที่อยู่รอบกายผมก็คือท้องทะเลที่กำลังส่องประกายระยิบระยับรับกับแสงแดดยามเย็น ทำให้ผืนน้ำมองเห็นเป็นสีทองสุดลูกหูลูกตา ทาวเวอร์เครนและตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือส่งสินค้าเห็นเป็นเพียงเงาสีดำทอดยาวไปจนถึงปากอ่าว เรือลำใหญ่ค่อยๆล่องออกไปจนมองเห็นเป็นแค่จุดเล็กๆ

ผมนั่งมองความตระการตาที่อยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ยิ่งหันกลับมามองหน้าเขาก็ยิ่งทำให้รู้สึกมีความสุข...เพราะผมไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จะได้มีโอกาสมานั่งชิงช้าสวรรค์กับคนที่ได้ชื่อว่า...คนรัก

“ โค้ช...ยังไม่เสร็จอีกหรอครับ?”  ผมขยับตัวไปนั่งฝั่งเดียวกับเขาก่อนจะสอดแขนเข้าไปกอดท่อนแขนของเขาเอาไว้ ใบหน้าเอนซบอยู่ที่หัวไหล่ก่อนจะมองอย่างสนใจว่าเขาทำอะไรกับมือถือของเจ้าพวกนั้นกันแน่ถึงได้นานขนาดนี้...ถ้าแค่ลบมันก็น่าจะเสร็จแล้วนี่นา

“ เมล์?”  เขากดส่งรูปและวีดีโอทั้งหมดเข้าอีเมล์ตัวเองก่อนที่จะลบรูปพวกนั้นทิ้ง...นะ นี่มัน....หลอกใช้ให้เจ้าพวกนั้นถ่ายรูปให้?? แผนซ้อนแผนอีกที??

“ โธ่~~~ โค้ชก็เป็นไปกับพวกนั้นด้วยหรอครับ?~~”  ผมลากเสียงยาวอย่างเง้างอด...รูปน่าอายพวกนี้จะเก็บเอาไว้ทำไมก็ไม่รู้...ผมงับแขนเขาเบาๆเพื่อเป็นการทำโทษ...และกว่าเขาจะจัดการมือถือทุกเครื่องเสร็จ ชิงช้าสวรรค์ก็หมุนขึ้นไปเป็นรอบที่สอง

พอเขาเลิกยุ่งกับมือถือพวกนั้นแล้วมานั่งเฉยๆอยู่ข้างๆผม บรรยากาศมันก็ดูล่อแหลมขึ้นมาทันที...ถึงผมจะเวอร์จิ้นแต่ก็อ่านการ์ตูนเกือบทุกเรื่องที่ลงอยู่ในจั๊มป์นะ คัมภีร์เล่มนั้นมันมีตั้งแต่การ์ตูนต่อสู้ ตลกโปกฮา ดราม่า ฮาเร็ม ไปจนถึงเรื่องของเด็กผู้ชายวัยกำลังโตผู้อยากรู้อยากเห็น เพราะงั้นกับอีแค่เรื่องที่ว่าสถานที่ปิดอย่างชิงช้าสวรรค์นั้นเค้าเอาไว้ทำอะไรทำไมผมจะไม่รู้...

ถึงผมจะไม่ได้ว่าอะไรถ้าเขาจะทำ แต่มันก็เขินจนอยู่เฉยๆไม่ได้

“ ในถุงนั่นมันอะไรหรอครับโค้ช...”  ผมเลยเปลี่ยนเรื่องด้วยการหันไปชวนเขาคุยเรื่องของในถุงใบใหญ่ที่เขาหอบมาจากร้านเกมเมื่อกี้นี้ด้วย

“ รางวัลของปาจิงโกะน่ะ...ร้านมันมีเงินสดให้ไม่พอ จำนวนเงินที่เหลือเลยแลกเป็นของนั่นมาแทน....อยากได้ก็เอาไปสิ...ชั้นก็ไม่รู้จะเอาไปทำไมเหมือนกัน”  นี่เขาชนะมาขนาดไหนกันถึงกับที่ร้านมีเงินสดให้ไม่พอ แล้วเงินที่เหลือยังแลกของมาได้ตั้งขนาดนี้

ผมหยิบของในถุงซึ่งวางอยู่ที่พื้นกระเช้าขึ้นมาดู ก่อนจะดวงตาเป็นประกายเพราะตุ๊กตาตัวใหญ่ที่อยู่ในมือมันคือตุ๊กตาคาแรกเตอร์การ์ตูนเรื่องโปรดของผมที่ลงอยู่ในจั๊มป์น่ะสิ!

“ ผมเอานี่ไปได้หรอครับ...?”  แทบจะเก็บอาการดีใจไม่อยู่ เสียงที่เอ่ยออกไปจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ นายคิดว่ามันเข้ากับชั้นหรือไง? อยากได้ก็เอาไปสิ”  เขายกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนจะกอดอกทำทีเป็นไม่สนใจ

นัยน์ตาเหลือบมองเขาด้วยแววระยิบระยับก่อนจะกอดหมับเอาหน้าคลอเคลียลงไปบนตุ๊กตาตัวนิ่ม  ถึงเขาจะอ้างนู่นอ้างนี่แต่ผมก็รู้หรอกว่าเขาตั้งใจเอาเจ้านี่มาให้ผม เพราะเขารู้ว่าผมชอบมัน และในร้านเกมเมื่อกี้ก็มีตุ๊กตาตัวอื่นๆอีกเพี้ยบ ถ้าเขาไม่เจาะจงเลือกมันมา มีหรือจะสุ่มได้ตัวที่ผมชอบแบบนี้

“ โค้ช~~ ขอบคุณนะครับ”  ผมยื่นหน้าไปหอมแก้มเขาเบาๆด้วยความรวดเร็ว ก่อนจะละออกมามองปฏิกิริยาของเขา

ใบหน้าคมชะงักค้างเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ เขารีบหันหน้าไปอีกทางอย่างไม่ยอมให้ผมเห็นจนผมได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

“ แต่เอ...มันน่าจะมีหมวกด้วยหรือเปล่าครับ?”  ผมดึงแก้มของเจ้าตุ๊กตาไปมาพลางมองหาหมวกที่เป็นเครื่องประดับประจำตัวของเจ้านี่...ปกติแล้วมันน่าจะมีนี่นา?

“ มี...ร่วงอยู่ในถุงละมั้ง”  เขาปรับใบหน้าให้กลับมานิ่งเฉย แต่ก่อนจะได้ก้มลงมาช่วยผมหา เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ ฮัลโหล?”   เขากดรับก่อนจะส่งสัญญาณให้ผมหาตามถุงที่วางอยู่ ส่วนเขาหันหน้าไปอีกทางเพื่อคุยกับปลายสาย ผมจึงรื้อๆค้นๆของในถุงอยู่คนเดียว

ห่อขนมของร้านเกมถูกยัดอยู่เต็มถุง สงสัยงานนี้ที่ชมรมคงจะไม่ต้องหิวโซหลังจากซ้อมเสร็จไปอีกหลายวัน ผมแหวกมันไปเรื่อยๆแต่ก็ดูเหมือนหมวกนั่นจะไม่ได้ร่วงอยู่ในนี้....เอ....ไปอยู่ไหนหว่า?....

มือแหวกไปทีละถุงๆ แล้วด้วยความที่กระเป๋าของเขาก็วางกองรวมกันอยู่กับถุงพวกนั้น มือของผมจึงเผลอไปเปิดกระเป๋าของเขาเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ...พอเห็นสายคล้องคอที่มีนกหวีดเข้าผมจึงได้รู้ตัว...

มือตั้งใจจะละออกมาจากกระเป๋าของเขา แต่นัยน์ตาก็ดันเหลือบไปเห็นห่อพลาสติกแบนๆเล็กๆรูปสี่เหลี่ยมด้านเท่ามีวงกลมอยู่ตรงกลางเข้าเสียก่อน...นี่มัน....


ถุงยาง?


ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่เหมือนจะคุยโทรศัพท์เสร็จพอดีด้วยนัยน์ตาเบิกกว้างอย่างไม่คิดว่าเขาจะพกของแบบนี้ด้วย....

เพราะมันเอาไว้ทำอะไร ใครๆก็รู้ดี

ใบหน้าของเขาชะงักค้างไปเมื่อเห็นว่าผมเจออะไรในกระเป๋าของเขา มือแข็งแรงยกขึ้นมากุมขมับก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่น

ทำไมกันล่ะ?

ทำไมถึงต้องพกของแบบนี้?


“ โค้ช...กับผม...ไม่ต้องใช้ถุงยางก็ได้....”   และกว่าผมจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ใบหน้าก็แทบจะร้อนเป็นไฟ....

ได้ยินเสียงเขาสบถก่อนจะหันมากระชากลำตัวผมเข้าไปหา ริมฝีปากประกบจูบลงมาตามด้วยเรียวลิ้นที่สอดแทรกนำพาความรุ่มร้อนเข้ามาในปากของผม ความต้องการที่ผมรู้ว่ามันแค่น้อยนิดเท่านั้นถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาเก็บเอาไว้ข้างในมันถูกถ่ายทอดมาให้จนผมได้แต่หอบตัวโยนเมื่อเขายอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ ริมฝีปากหิวโหยยังคงกดจูบไปตามซอกคอราวกับว่าถ้าไม่ใช่เบื้องล่างก็คงไม่อาจเติมเต็มเขาได้อีกแล้ว

แผ่นหลังของผมถูกบดเบียดจนแทบจะจมหายลงไปในผนังพลาสติกใสของกระเช้า กว่าเขาจะยอมละออกไปจากลาดไหล่ของผม ลมหายใจก็แทบจะโกยอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน

เขายังยื่นหน้าเข้ามาหาก่อนจะจูบเบาๆที่ริมฝีปากแดงช้ำ

“ ถ้าเป็นที่แบบนี้...บางทีก็ต้องใช้...จะปล่อยให้มันเลอะได้หรือไง?”  เขายิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากก่อนจะหัวเราะในลำคอแล้วละออกไป...พอได้ยินเขาหยอกเย้ามาแบบนั้นถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ แต่มันก็น่าอายไปไหมที่คิดจะทำกับผมทุกที่แบบนี้?!

“ .......โค้ชนี่ละก็......”   ผมได้แต่บ่นงึมงำ...ก่อนจะก้มหน้าก้มตาสงบสติอารมณ์...นี่ไม่ใช่ว่าเขาใกล้จะตบะแตกแล้วหรอกนะถึงได้พกของแบบนั้นติดตัวด้วย? เผื่อตบะแตกเมื่อไหร่หรือที่ไหนก็จัดการได้ทันทีอะไรแบบนี้?

อ้า~~~!! เขาจะคิดยังไงก็ไม่รู้ละ แต่ผมอายกับความคิดของตัวเองชะมัด!

ผมนั่งกอดตุ๊กตาแล้วก้มหน้าซุกพุงมันเอาไว้ ปล่อยใบหูแดงๆให้เขาเห็นแค่อย่างเดียว

ถึงจะอายแต่ผมก็ดีใจ...ที่เขาคิดจะใช้ถุงยางพวกนั้นกับผม

แต่พอย้อนกลับมามองตัวเองอีกที ความดีใจเมื่อกี้มันก็ค่อยๆชะงักค้างไป....เพราะผมรู้ตัว...ผมรู้ตัวเองดี...ว่าคงตอบสนองต่อความต้องการข้อนี้ของเขาไม่ได้...

จริงอยู่ที่ผมมีอะไรกับเขาได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะที่ไหนก็ได้...เพราะร่างกายของผมมันไม่ใช่ว่าปุบปับนึกจะทำก็ทำได้เหมือนคนอื่น....

ทำไมจู่ๆก็รู้สึกสลดหดหู่ขึ้นมาซะแบบนั้น....

เขาจะรำคาญบ้างไหมนะ?

ที่เขาต้องอดทนขนาดนี้ ก็เพราะร่างกายที่ไม่ได้เรื่องของผมใช่หรือเปล่า?


เศร้าจัง....



กระเช้าที่เรานั่งหมุนวนมาบรรจบครบรอบพอดี ผมกับเขาจึงก้าวขาลงไปแตะพื้นอีกครั้งท่ามกลางเสียงโหยหวนของเจ้าพวกสมาชิกชมรมที่พอได้มือถือคืนต่างก็วิ่งหาวิธีกู้ข้อมูลกันให้จ้าละหวั่น พวกมันจึงแยกย้ายกันกลับบ้านไปคนละทิศละทาง...ตอนนี้...เลยเหลือแค่ผมกับเขาที่เดินอยู่ด้วยกันตามลำพัง

ความเศร้าหมองที่เกาะกินหัวใจของผมอยู่ดูเหมือนมันจะไม่ยอมหายไปง่ายๆเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา...ความรู้สึกที่ว่าอยากทำอะไรให้เขาบ้าง อยากตอบแทนความรักที่เขาให้คนอย่างผมมา มันมากเกินกว่าที่จะเก็บเอาไว้ได้อีก

เบื้องหลังเป็นชิงช้าสวรรค์ยามเย็น ทั้งโรแมนติกและชวนเหงาในเวลาเดียวกัน...เพราะงั้นเพียงแค่เขาถามผมว่า...


“ เป็นอะไรหรือเปล่าเอเลน?”  


น้ำตาของผมก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ไหวอีกต่อไป...


ดูเหมือนกับเป็นคนที่อารมณ์แปรปรวนแต่อันที่จริงเราทั้งคู่ต่างก็รู้กันดี ว่าเรื่องนี้ถูกเก็บไว้ในใจของเราสองคนมานานแค่ไหน ริมฝีปากของผมจึงเอ่ยบอกกับเขาไปทั้งๆที่ยังร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่หยุด...


“ อยากมีเซ็กส์กับโค้ชครับ...ฮึก...ฮึก...”


เขาชะงักค้างไป ก่อนที่มือที่แสนอบอุ่นของเขาเอื้อมมาจับมือของผมเอาไว้....

“ เอเลน....”

ผมได้ยินชื่อของตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยนอกจากเสียงร้องไห้โฮของตัวเอง

น่าอายชะมัด...




ผมนั่งสูดน้ำมูกอยู่บนเก้าอี้ในสวนสาธารณะข้างๆชิงช้าสวรรค์โดยมีเขาคุกเข่าอยู่ตรงหน้า สองมือแข็งแรงประคองอยู่ที่สองแก้มของผมก่อนจะเกลี่ยไล้น้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

แล้วสองมือนั้นก็ลดลงไปกอบกุมมือของผมเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับผมด้วยสายตาอ่อนโยนแต่ก็แฝงเอาไว้ด้วยแววจริงจัง


“ ชั้นกลัว...”  คำพูดสั้นๆประโยคนั้นของเขามันเปล่งออกมาพร้อมๆกับสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล ถึงจะเป็นเพียงชั่วครู่แต่ผมก็รู้ว่าเขากลัวอย่างที่พูดจริงๆ

“ .......กลัว?”  เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเขากำลังกลัวอะไร...ฝ่ามือของเขาบีบมือของผมก่อนจะพูดออกมา...

“ กลัวมาตลอด...ตั้งแต่วันที่เห็นนายล้มลงไปต่อหน้าต่อตา...ชั้นกลัว...ว่าถ้าทำอะไรรุนแรงกับนายมันจะเป็นแบบวันนั้นอีก...ชั้นกลัวว่านายจะไม่ฟื้นขึ้นมา ชั้นกลัวว่านายจะทิ้งชั้นไปในที่ที่ชั้นตามไปลากนายกลับมาไม่ได้ ชั้นกลัว....เพราะถ้าไม่มีนาย...ชั้นอยู่ไม่ได้มากกว่าที่ตัวเองเคยคิดเอาไว้” 

ถึงจะเป็นสิ่งที่ผมเดามาตลอดว่ามันต้องเป็นแบบนี้ แต่พอมันออกมาจากปากของเขาผมก็อดที่จะนิ่งค้างไม่ได้

นิ่งค้างเพราะว่าหัวใจของผมกำลังลอยไปไกลด้วยความดีใจ ปลื้มใจ ตื้นตันใจ มีความสุข...เพราะสิ่งที่เขาพูดออกมามันหมายความว่าที่เขาไม่ทำเพราะเขาเป็นห่วงผม


เขารักผม...


เขารักผมมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้เช่นกัน....


ผมหัวเราะออกไปเบาๆก่อนจะแนบหน้าผากลงไปที่หน้าผากเขา

“ โค้ช....เหมือนกันเลยนะครับ...พวกเราสองคน...”  รอยยิ้มถูกส่งไปให้ใบหน้าที่อยู่แค่คืบ

“ โค้ชไม่ยอมทำเพราะกลัวว่าผมจะอาการกำเริบอีก เลยต้องทนเก็บมันเอาไว้...ส่วนผม...ก็เอาแต่กังวล คิดแต่อยากจะตอบแทนความรักที่โค้ชให้มาบ้าง...เลยยิ่งทำให้โค้ชต้องทนหนักกว่าเดิมเลย...ฮะฮะ”  เขาส่ายหน้าผากไปมาราวกับกำลังทำโทษผมที่บังอาจไปยั่วเขาโดยที่ไม่เคยรู้ตัวเลย

“ รู้ตัวก็ดีแล้วเจ้าเด็กเหลือขอ...อยู่ไกลๆชั้นซะถ้าไม่อยากถูกกดจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีก”  ผมได้แต่ยิ้มรับกับคำพูดของเขาก่อนจะยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆ

“ ถ้าโค้ชจะไปอยู่เฝ้าผมที่โรงพยาบาลตลอดอย่างที่ผ่านมา...ก็ทำไปเถอะครับ...ที่จริงถ้าไม่หักโหมมากเหมือนตอนที่วิ่งไปสถานีรถไฟก็ไม่เป็นไรหรอกครับ”   เขามองผมพลางถอนหายใจเหมือนตัดใจที่จะอดทนต่อไป มือยกขึ้นมาขยี้หัวผมด้วยความหมั่นไส้

“ หึ...มันเหนื่อยยิ่งกว่าวิ่งรอบสนามอีกนะ ถ้าตายคาเตียงชั้นไม่รู้ด้วยล่ะ”  ผมพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ในใจรู้สึกสว่างสดใสเหมือนสีรุ้งของชิงช้าสวรรค์ซึ่งอยู่ท่ามกลางแสงไฟยามค่ำคืนที่เห็นอยู่ตรงหน้า


ดีจริงๆ...ที่ต่างฝ่ายต่างยอมพูดออกมาแบบนี้...









ข้ออ้างเดิมๆถูกใช้บอกกับแม่ว่าคืนนี้ผมจะมาค้างที่บ้านของเขา

ทว่าตั้งแต่ปลายเท้าเหยียบเข้าบ้านมา...หนังสือหนังหาก็แทบจะกองอยู่ที่หน้าประตู

ริมฝีปากของผมถูกเขาจู่โจมทันที รสจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการถูกส่งผ่านมาให้ ดูเหมือนเขาจะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว เสื้อผ้าจึงถูกถอดเหวี่ยงระเกะระกะตั้งแต่หน้าบ้าน บันได ไปจนถึงข้างเตียง

“ แฮ่ก....แฮ่ก...”  ผมนอนหอบหายใจด้วยร่างกายเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ก็เดินมาถึงนี่ทั้งๆที่ถูกเขาจูบมาตลอดทางมันก็ต้องหอบกันบ้างแหละ

นัยน์ตาสั่นพร่ามองตามเขาที่เปิดตู้เสื้อผ้าค้นหาอะไรบางอย่าง ท่อนล่างของเขายังมีกางเกงสีดำสวมอยู่ แต่แค่กล้ามเนื้ออันสวยงามที่ท่อนบนก็ทำเอาผมใบหน้าร้อนผ่าวได้แล้ว...ยิ่งรู้ว่ากำลังจะทำอะไรกันมันก็ยิ่ง....

“ อะไรน่ะครับ?”  ริมฝีปากแดงช้ำเอ่ยถามเมื่อเขาขยับขึ้นมาบนเตียงพร้อมขวดอะไรบางอย่าง หว่างขาถูกเขาจับอ้าออกจากกันก่อนที่เขาจะนั่งขวางลงไป

“ เจลหล่อลื่น”  เขาโยนมันลงไปบนสปริงนุ่มๆของเตียง...ถึงจะรู้ว่ามันจำเป็นก็เถอะแต่มันก็อดที่จะอายไม่ได้เมื่อคิดว่าเขาเตรียมของแบบนี้เอาไว้ในบ้านตลอดเลยน่ะ...

ฝ่ามือแข็งแรงดึงหมอนอิงใบใหญ่มาสอดไว้ใต้สะโพกและบั้นท้ายของผมราวกับจะให้มันช่วยรับแรงกระแทก แล้วริมฝีปากที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระเพียงชั่วครู่ก็ถูกเขายึดกลับไปอีก ความเร่าร้อนที่เรียกร้องนิดๆถูกส่งมาให้จากปลายลิ้นที่เกี่ยวพันกันแทบไม่หยุด และถึงแม้ว่ามันจะละออกไปเพราะเกือบจะทำให้ผมขาดอากาศหายใจ แต่ริมฝีปากของเขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันกลับลากไปตามซอกคอ

ทุกสัมผัสผมรับรู้จากปลายประสาทที่ผิวหนัง ว่าเขากำลังพรมจูบลงไปตรงไหนบ้าง ดูดกลืน เน้นย้ำ หรือกัด...ลงไปตรงไหนบ้าง

ปลายลิ้นที่ลากจากซอกคอลงไปที่ลาดไหล่และเริ่มจะไล่ไปจนทั่วร่างกายราวกับเขากำลังกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว ความชื้นแฉะทำให้รู้สึกเสียวซ่าน เคลิบเคลิ้ม จนเสียงครางน่าอายมันหลุดออกไปจากปากเองอย่างห้ามไม่ไหว

“ ฮะ...อะ...”   แล้วมันก็ยิ่งหนักขึ้นเมื่อความเปียกแฉะนั้นมาหยุดไล้วนอยู่บนยอดอก

“ อ๊ะ...คะ...โค้ช...ตรงนั้น...”  ร่างกายแทบจะบิดเร่าเมื่อเขายังจงใจใช้ลิ้นเลียมัน นัยน์ตาสีขี้เถ้าเหลือบขึ้นมามองด้วยแววพอใจเมื่อเห็นว่าผมต้องพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นเกินไปหรือหายใจไม่พอ

“ อะ? อ๊า!!”  ทั้งๆที่ผมกำลังพยายามแต่เขากลับเลื่อนมือที่ลูบคลึงอยู่แถวๆบั้นท้ายให้ย้ายมาที่ต้นขาแล้วจงใจลากมันผ่านส่วนอ่อนไหวจนผมได้แต่ครางเสียงหลง ถึงผมจะพอรู้ทฤษฎีมาอยู่บ้างแต่ร่างกายของผมไม่เคยผ่านภาคปฏิบัติมาก่อน เพราะงั้นผมจึงเพิ่งรู้ว่าการแตะแค่นี้มันก็ทำให้ความต้องการไหลทะลักออกมาได้แล้ว

แล้วที่ผ่านมา...เขานอนกอดผมโดยไม่ใส่เสื้อผ้าเลยแบบนั้น...เขาต้องทนขนาดไหนกันนะ

“ อื้อ~~~!!”  ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมให้ผมมีเวลาคิดเรื่องอื่น ฝ่ามือที่แค่ลากผ่านค่อยๆแตะปลายนิ้วลงไปบนปลายยอดก่อนจะไล่ลงไปช้าๆ...เขาละจากแผ่นอกขึ้นมามองผมที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่านสุดจะทน น้ำตาจึงปริ่มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่...รู้สึก....ดีจัง....

“ ฮะ...อ้า....”   เขาเว้นจังหวะให้ผมมีเวลาหายใจก่อนจะกอบกุมแกนกลางลำตัวของผมด้วยทั้งฝ่ามือของเขา แล้วค่อยๆขยับขึ้นลงช้าๆ....ไม่ไหว.....รู้สึกดีจนแทบจะทนไม่ไหว...

ผมอยากจะรู้จังว่าเขากำลังรู้สึกยังไง ที่ต้องใช้สายตามองผมที่กำลังบิดเร่าด้วยมือของเขา....รู้สึกยังไง...ที่ต้องใจเย็นแล้วทำได้แค่มองผมซึ่งกำลังจะถึงฝั่งด้วยมือของเขา...

“ อะ...โค้ช...อื้อ!!”  ร่างทั้งร่างกระตุกเฮือกเมื่อถึงปลายทางแห่งความสุขสมที่เขามอบให้ ถึงจะอยากรู้ว่าเขารู้สึกยังไงแต่ในหัวของผมก็ขาวโพลนไปหมด ทั้งลมหายใจ ทั้งเสียงครางขยับขึ้นสูง ก่อนที่ความต้องการจะถูกปลดปล่อยออกมาเต็มฝ่ามือของเขา

ผมทิ้งตัวลงบนกองหมอนอย่างหมดแรง ริมฝีปากอ้าออกเพื่อกอบโกยอากาศเข้าไป ข้างในเองก็ต้องพยายามลดความตื่นเต้นลงให้มากที่สุดเพราะตอนนี้หัวใจของผมมันกำลังเต้นโครมครามจนรู้สึกได้

“ ฮ่า....ฮ่า....” ผมยังคงหอบหนักหน่วง เขาไม่เร่งรีบแต่กลับปล่อยให้ผมได้มีเวลาผ่อนลมหายใจ ระหว่างนี้เขายังคงลากไล้ปลายลิ้นกับริมฝีปากลงมาตามแผ่นอก ซอกคอ และหน้าท้องของผมด้วยใบหน้าราวกับกำลังกินอาหาร มันอาจจะเป็นเซ็กส์ที่น่ารำคาญสำหรับเขาก็ได้ที่ใช้ความรุนแรงไม่ได้แบบนี้ แต่ผมกลับดีใจที่เขาทะนุถนอมผม ให้ความสำคัญกับผม...เขาอ่อนโยน....อ่อนโยนจนครั้งแรกที่ใครก็ว่าน่ากลัวกลับเป็นครั้งแรกที่น่าจดจำสำหรับผม

แล้วก็ทั้งๆที่เพิ่งจะ....ไปแท้ๆ...แต่แค่เขาสัมผัส...ร่างกายก็เริ่มตอบรับเขาอีกราวกับมันจะไม่มีวันจบสิ้น....

ต้องการ....ผมต้องการเขาไม่จบไม่สิ้น...

“ เอเลน....”   เขาเรียกชื่อผมอยู่ที่ใบหู ริมฝีปากกดจูบลงมาที่ขมับก่อนที่เขาจะขยับเอื้อมไปหยิบของที่โยนไว้บนเตียงขึ้นมา ได้ยินเสียงเปิดฝาขวดเจลหล่อลื่นผมจึงเหลือบมองของเหลวที่กำลังไหลลงปลายนิ้วของเขาด้วยใบหน้าอายๆ

ได้เวลาที่ผมจะเป็นฝ่ายให้เขาบ้างแล้วสินะ...

เขาเริ่มปลุกเร้าผมที่แกนกลางลำตัวอีกรอบ แล้วคราวนี้มันก็ไม่ใช่แค่ฝ่ามือแต่เป็น......ด้วยปาก

“ อะ อ้า!! โค้ช...ไม่...อ้ะ....”  เสียงครางที่แทบไม่เป็นภาษาถูกเปล่งออกไป แค่ปลายลิ้นผมก็จะขาดใจตายให้ได้แล้ว แล้วนี่เขายังกลืนกินมันเข้าไป....ร่างกายของผมมันแทบจะทนไม่ไหว...ปากของเขากำลังทำให้ผมแทบคลั่ง...ฝ่ามือกำลงไปบนหมอนอย่างหาทางระบายออก ปลายเท้าจิกลงไปบนที่นอนด้วยความทรมาน...ความต้องการที่รุนแรงทำให้ทั้งร่างกายถึงกับสั่นระริก...ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าหัวใจของผมมันยังทำงานไหวแค่ไหน เพราะในหัวมีแต่ตัวเขาเท่านั้นที่เข้ามาครอบครองทุกๆอย่างของผม

“ อื้อ!! โค้ช...”   เพราะสติมุ่งสนใจแต่ส่วนที่ถูกปลุกเร้าอยู่ข้างหน้า กว่าจะรู้ตัวว่าถูกเขารุกรานข้างหลังด้วยก็เมื่อนิ้วที่สามถูกสอดใส่เข้ามา

เพราะมันอยู่ในร่างกายหรือไงนะ ผมถึงได้ยินเสียงเจลหล่อลื่นและอะไรที่มันเปียกแฉะได้อย่างชัดเจน ทั้งร่างกายทั้งใบหน้ารู้สึกร้อนราวกับถูกไฟเผา นิ้วของเขาที่เริ่มขยับเข้าออกให้ความรู้สึกที่ไม่คุ้นชิน

“ โค้ช...มันแปลกๆ...อ๊ะ...”   ได้ยินเสียงเขาหัวเราะในลำคอก่อนที่หนึ่งในนิ้วพวกนั้นจะทำให้ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อมันกดลงไปยังผนังที่อยู่ด้านใน...จะว่ายังไงดี...ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่ามันรู้สึกยังไงกันแน่ ทั้งมีความสุข ทั้งทรมาน

ริมฝีปากที่ครอบงำตัวตนของผมอยู่ถูกละออกไป รอบนี้เขาไม่ได้ปล่อยให้ผมถึงก่อนแต่กลับกดปลายมันเอาไว้ด้วยปลายนิ้วของเขา...และนั่นมันก็ทำให้ผมช้อนตามองเขาด้วยสายตาเว้าวอน....ก็ผมทรมาน...ช่วยปล่อยผมที...ผมมองเขาด้วยสายตาแบบนี้...

เขาถึงกับกัดฟันกรอด ถึงใบหน้าจะยังนิ่งเฉยแต่สายตาราวกับสัตว์ร้ายกำลังหิวกระหายของเขามันก็ทำให้ผมรู้ว่าเขาคงต่อต้านสัญชาติญาณดิบของตัวเองได้เท่านี้

แล้วก็แทบจะทันที...ที่ผมได้ยินเสียงปลดเข็มขัดกับซิปที่รูดลง

“ อื้อ~~~”  นัยน์ตาถึงกับปิดลงเมื่อเขาดึงนิ้วออกไป แรงเสียดสีทำเอาเสียววาบข้างใน แต่ยังไม่ทันจะถึงวินาที เปลือกตาที่ปิดอยู่ของผมก็ถึงกับต้องเบิกกว้าง

“ อะ...อึ๊ก?!! โค้ช?!! ฮะ...อ๊า?!”  ร่างทั้งร่างแทบจะกระตุกเมื่อเขาสอดใส่ความเป็นชายที่ขยายใหญ่มากเข้ามา ฝ่ามือของผมดันท่อนขาของเขาออกไปพร้อมทั้งขยับสะโพกหนีโดยปฏิกิริยาอัตโนมัติแต่เหมือนเขาจะทนไม่ไหว ท่อนแขนแข็งแรงจึงยึดเอวของผมไว้แล้วยังดึงดันที่จะเข้ามา

“ โค้ช...อ๊ะ!!”   เสียงสวบสาบของการสอดใส่ดังอยู่ภายในหู มันเป็นเสียงที่ดังเพียงรวดเดียวก่อนที่ความเจ็บร้าวจะแล่นลิ่วขึ้นมาจากช่วงล่างให้ผมรู้ว่าเขาเอามันเข้ามาได้สำเร็จ ร่างกายสั่นสะท้านโดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะเจ็บหรือเพราะอะไรกันแน่ น้ำตาที่ไหลลงไปนี่ก็เหมือนกัน....เพราะเจ็บหรือเพราะดีใจกันนะ...ที่ในที่สุดผมก็มอบสิ่งที่เขาต้องการให้เขาได้แล้ว...

สองแขนสั่นๆเอื้อมออกไปหาเขาก่อนจะโอบรอบลำคอแข็งแรงช้าๆ เขาหยุดนิ่งทั้งๆที่ยังกัดริมฝีปากอย่างพยายามอดทนเป็นครั้งสุดท้าย ปลายลิ้นไล้เลียลงมาบนแก้มของผมเพื่อซับน้ำตาที่ไหลลงไปให้

“ เอเลน...”  เขากระซิบเรียกผมราวกับกำลังร่ายมนต์เพื่อปลอบโยน แล้วก็ดูเหมือนมันจะได้ผลเสียด้วย

“ ฮ่า....โค้ช....ฮ่า.....ผมรักโค้ช....รัก....รักที่สุด....”   ต่อให้คำพูดมันจะปะปนกับลมหายใจจนแทบแยกไม่ออกแต่ผมก็อยากจะบอกกับเขา...อยากบอกเป็นร้อยเป็นล้านครั้ง...บอกซ้ำๆให้มันย้ำลงไปในใจว่าผมรักเขามากแค่ไหน

“ อื้อ!!!”  แต่ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยมันครบร้อยครั้งอย่างที่ตั้งใจ ริมฝีปากก็ไม่อาจจะเอ่ยอะไรได้นอกจากเสียงครางอีก

เขาขยับความเป็นชายที่อยู่ภายในตัวผม

มันทั้งร้อนทั้งคับแน่น แรงเสียดสีที่ทำเอาน้ำตาร่วงจนผมไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอรัดมันไปแค่ไหน นัยน์ตาที่พร่ามัวมองเห็นเพียงแค่ใบหน้าที่ดูจะรู้สึกดีของเขา ถึงจะยังนิ่งเฉยแต่รอยแดงบนแก้มกับริมฝีปากที่กัดแน่นด้วยความต้องการก็ทำให้ผมพอจะเข้าข้างตัวเองได้บ้าง ว่าเขาคงจะชอบร่างกายของผม

“ อ้า....โค้ช~~”  ผมหลับตาพร้อมกับกอดคอเขาเอาไว้เมื่อความเจ็บมันค่อยๆแปลเปลี่ยนไปเป็นความรู้สึกอย่างอื่น ยิ่งเขาขยับเข้าออกถี่ขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งความหนักหน่วงของมันมากขึ้นแค่ไหน ผมก็ยิ่งจะขาดใจตายเพราะสำลักความสุขสมมากขึ้นเท่านั้น

หัวใจของผมคงกำลังทำงานอย่างหนักเพราะมันต้องรับความรักของเขาที่มากมายจนสะโพกแทบรับไม่ไหว เสียงครางของผมผสมผสานไปกับเสียงลมหายใจหอบๆที่แสนจะเซ็กซี่ของเขาที่ทำเอาผมยิ่งบิดเร่าด้วยความเร้าอารมณ์

ไม่ไหว...

ผมไม่ไหวแล้ว....

“ โค้ช! โค้ช!! มันจะ...อ๊า!!!”   ร่างกายถึงกับกระตุกเฮือกเมื่อเขาปล่อยมือจากส่วนอ่อนไหวของผมพร้อมๆกับกระแทกของของเขาเข้ามาอย่างหนักหน่วง ทุกความต้องการถูกปลดปล่อยออกไปเต็มหน้าท้อง ไหล่ของผมสั่นอย่างรุนแรงรับความอุ่นวาบที่ฉีดพุ่งอยู่ภายใน

ใบหน้าได้แต่เหม่อมองใบหน้าของเขาที่อยู่ด้านบน....มีความสุขจัง...

เขาก้มลงมาจูบผมเบาๆที่ริมฝีปากก่อนจะละใบหน้าที่ยังหอบถี่ออกไปเล็กน้อยพอที่ผมจะได้เห็นดวงตาของเขาที่มองมาที่ผมด้วยแววขอบคุณ...

ขอบคุณที่ผมทำให้เขามีความสุขงั้นหรอ? หรือว่าขอบคุณที่ผมไม่เป็นอะไรไป?

แต่ไม่ว่าเขาจะขอบคุณผมเรื่องอะไร ผมก็ยินดีที่จะเป็นฝ่ายให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีกับเขา

“ โค้ช....”  ผมเอื้อมมือที่ยังสั่นระริกออกไปประคองใบหน้าของเขาก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม


“ ผมน่ะ...อาจจะไม่ได้มีชีวิตยืนยาวพอที่จะอยู่กับคุณไปจนแก่เฒ่า...ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ”


ผมจำไม่ได้แล้วว่าผมเคยพูดกับเขาหรือเปล่า....

แต่เขาก็ตอบกลับมาด้วยถ้อยคำที่ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก....



“ เพราะงั้นพระเจ้าถึงได้ส่งนายมาหาชั้นด้วยอายุที่ต่างกัน 15 ปีแบบนี้ไงล่ะ ถ้านายตายด้วยโรคของนาย ตอนนั้นชั้นเองก็คงจะแก่ แล้วก็ตายตามนายไปก็ได้”




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


เพราะฉันเพิ่งบอกรักไป...

และเขา...ก็รับฟังทุกอย่าง ทุกถ้อยคำ...

เหมือนความฝัน...

แต่ฉันเองก็ไม่อาจแน่ใจ...พรุ่งนี้...เรื่องของเราจะสุข...หรือแสนเศร้า...

จึงวอนขอดาวให้ช่วยฉันที....

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
พราว
FIN









จบแล้ว....ฮือออออออออ น้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ TTvTT ทลายไปได้สองไหติด ต่อไปอาจจะเป็นไหใบใหญ่สุดที่ค้างเอาไว้ตั้งแต่ต้นปีเพราะช่วงก่อนจบเป็นอะไรที่ปวดตับคนแต่งมาก เลยขอออกทะเลไปทำใจก่อง อิอิ

ส่วนพราว....มันคงเป็นฟิคที่หวานหยดเยิ้มที่สุดในชีวิตแล้วมั้งเนี่ยฟฟฟฟฟ ไม่เคยแต่งไปบิดไปขนาดนี้มาก่อนเลยค่ะคุณแม่ขรา >/////< คือเวลาที่ได้คิดคำพูดของคุณโค้ชในเรื่องนี้นี่เป็นอะไรที่กิ๊วก๊าวหัวใจสุดๆ คือสองคนนี้เป็นอะไรที่จีบกันได้ไม่แคร์สื่อมากอ่ะฟฟฟฟฟฟ ชอบบบบบบ >/////< นะ...เลยจากที่ตั้งใจว่าจะเป็นฟิคสั้นแค่ 3 ตอนจบ ก็เลยลากยาวมาจนตอนที่ 6 อย่างที่เห็น TvTb ถ้าคนอ่านชอบซักนิดคนแต่งกะดีใจสุดๆเบยค่ะ เหะเหะ

มาพูดถึงฉากในเรื่องนี้กันบ้าง...คุณกวางมันได้ไอเดียตอนที่ไปญี่ปุ่นรอบที่ผ่านมานี่เองค่ะ...นะ...เพราะปกติมักจะไปแต่วัด วัง ปราสาทอะไรงี้ เมื่อก่อนเลยจิ้นฟิคพีเรียดเป็นวรรคเป็นเวร แต่รอบหลังสุดได้ไปเดินในที่ที่เป็นโลกปัจจุบันมันก็เลยได้เอามาใช้ในพราวพอดี...อย่างในฟิคตอนนี้...คุณกวางไปเกมเซ็นเตอร์ที่อยู่ใกล้ๆชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่โอไดบะมาค่ะ คือที่จริงตั้งใจจะไปขึ้นชิงช้าสวรรค์แหละแต่พอดีมีน้องของคุณเพื่อนเค้าอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วก็เป็นคนพาทัวร์วันนั้นเลยมีโอกาสได้เดินเข้าไปส่องในเกมเซ็นเตอร์ที่ไม่ค่อยจะกล้าเหยียบเข้าไปมาก่อน >////< คือไอ้เราไม่ใช่คนเล่นเกมแต่ที่อยากเข้าไปเพราะอยากสัมผัสบรรยากาศเวลาเด็กผู้ชายเค้าเข้าร้านเกมกันน่ะค่ะ กร๊ากกกกกก (แต่วันที่ไปไม่มีเด็กผู้ชายสักคนถถถถถถ) คือน้องที่ไปด้วยกันเค้าขอแว่บไปเล่นเกมชู้ตบาส...นะ...ตรูจะมานั่งรอเฉยๆก็เสียเวลา ในขณะที่เหมือนจะนั่งดูอยู่เฉยๆเลยจิ้นจนได้มาเป็นฉากๆอย่างที่เห็น55555 แปะรูปตู้เกมบาสที่ว่าซะหน่อย อิอิ







แล้วตอนที่กำลังจะกลับกันก็บังเอิญเดินผ่านตู้เกมเต้นที่มีกลุ่มเด็กผู้หญิงกำลังเล่นกันอยู่ค่ะ คือมันน่ารักมาว๊ากกกกอ่ะ เลยแอบดู >////< คือในหัวตรูนี่แม่งไปนู่นแระ ตู้เกมมันต้องเต้นทีละสองคน แล้วเด็กผู้หญิงที่กำลังเต้นอยู่ก็แบบ...น่ารักอ่ะ...ส่วนเพลงที่ใช้คือตอนที่ยืนดูอยู่ไม่รู้จักค่ะ รู้แต่ว่าเป็นเพลงของ AKB48 เพราะน้องคนที่ไปด้วยกันเธอชอบ5555 นะ...กลับมาถึงบ้านเลยไปหาข้อมูล คิดว่าน่าจะ Koisuru fortune cookie นี่แหละ แต่เวอร์ชั่นที่เป็นเกมตู้คาแรกเตอร์ที่เป็นคนนำเต้นมันจะเป็นอนิเมะประมาณ 3D อ่ะนะ ไม่ใช่เหมือนในยูตูบที่จะแปะให้ดูนี่ อันนี้เป็นเกมเต้นของเครื่อง Wii ค่ะ แต่ท่าเต้นน่าจะแบบนี้แหละ






คือตอนที่ยืนดูอยู่ คาแรกเตอร์ในตู้แม่งก็น่ารักมากกกกกกกก แล้วท่าเต้นก็แบบ.......ถ้าหนูเลนกับหนูก๊กมาเต้นคู่กันตรูคงจะฟินตายไม่ต้องทำอะไรกันแล้วงานนี้ โฮกกกกกกกกกกกกกก ยืนกรีดร้องอยู่ในใจแล้วก็ได้มาอีกฉาก กร๊ากกกก >/////<

ส่วนชิงช้าสวรรค์ ความจริงรอบนี้ได้ไปขึ้นมาสองที่ค่ะ...ตอนขึ้นที่โอไดบะมันมืดแล้วเลยเห็นแต่อ่าวโตเกียวยามค่ำคืน กับหลังคาที่มีไฟรูปหัวใจไว้ให้คนที่นั่งบนชิงช้ามองลงมา กร๊ากกกกก ถ้าจะบิ้วท์กันขนาดนี้ >/////< ส่วนบรรยากาศที่บรรยายอยู่ในฟิคตอนนี้เป็นของรอบที่ไปขึ้นที่เทมโปซานในโอซาก้าค่ะ ตอนที่ไปเป็นช่วงเย็นๆเลยได้เห็นอ่าวโอซาก้ายามเย็น สวยมว๊ากกกกกกก >/////< แปะรูปๆๆ





เหม่...เรือสำเภาก็ช่างมาแล่นได้เหมาะเจาะดีจริงๆ >/////<

ส่วนอันนี้เป็นรูปชิงช้าสวรรค์ที่โอไดบะค่ะ สีรุ้งสมกับที่อยู่โอไดบะจริงๆ5555






สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณที่ติดตามฟิคเรื่องนี้มาจบจนนะคะ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆเสียงทวง555 ทั้งๆที่เป็นฟิคที่เหมือนจะไม่มีอะไร ไหงคุณกวางกลับรู้สึกว่าถูกทวงโหดพอๆกะดาวตกเลยละคะ หงึกๆๆๆ


อีกนิด...จากที่เอารูปชุดยูนิฟอร์ม(?)ของทีมเบสบอลไปแปะเล่นๆในเฟสว่าอยากเห็นหนูเลนใส่บ้างจังเรยน้า ก็มีคน(ชื่อน้องปิ่น)วาดมาให้ทันทีทันใดเลยค่ะ แบบว่ากะลังคุยกันอยู่ตะกี้ หันไปอีกทีเอารูปมาแปะให้แล้ว





ง๊ากกกกกกกก น่ารักอ่า……>//////<….คือใบหน้าอายๆของหนูเลนตอนใส่นี่ทำเอานึกถึงฉากตอนที่ถูกหลอกให้ไปเล่นเกมเต้นในฟิคตอนนี้จริงจัง >/////< ขอบคุณมากๆๆๆเลยนะค้า


ก่อนจะลาแอบโฆษณานิดดดดดดนึง (ไปซะทีเถอะคุณกวาง) กำลังจะเปิดจองรวมเล่มฟิคเรื่อง Juunana Sai : 17ฝน ค่ะ น่าจะในอาทิตย์หน้านี่แหละน้า เดี๋ยวเอารายละเอียดมาแปะที่โกดังนี่อีกทีนะค้า ^ ^ แปะปกหน้ากับปกหลังฝีมือน้องสโนว์ค่ะ




งามโฮกจริงจัง งื้อออออ >////< บนปกหน้านั่นคือ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ค่ะ5555 ถึงหน้าตาจะไปทางตัวร้ายแต่นั่นคือพระเอกของเรื่องนี้ค่ะ กร๊ากกกกก (รู้สึกว่าสีที่อัพโหลดในบลอคสปอตมันจะเพี้ยนๆแหะรูปนี้ ที่จริงมันจะม่วงดำมากกว่านี้นะคะ)  

แล้วเจอกันค่า ^ ^



9 ความคิดเห็น:

  1. ความจริงครั้งแรกบนกระเช้าเลยก็ได้นะครับ เร้าใจดี//โดนเอเลนชก
    แต่มันคงสั่นจนคนรู้555555
    แบบยังไงฉากเรทพี่นี่ก็ยอดจังเห็นภาพและเป็นขั้นมากจร้าาาาา//โดนพี่กวางเตะ
    ในที่สุดพี่ก็ทุบไหแตกหนึ่งใบท่ามกลางไหมากมาย. ยินดีด้วยคร้าบบบบบบบบบบ
    หวังว่าไหอื่นจะแตกเร็วๆนี้นะเด้อออ สู้ๆพี่!!!

    ตอบลบ
  2. โค้ชนี่ร้ายนะคะ ไปไล่ลบรูปเครื่องคนอื่นหมด ของน่ารักๆ แบบนี้น่าจะแบ่งปันกันบ้าง 55555 (โดนท่อนขาฟาด!!!)
    ปนชิงช้าสวรรค์โรแมนติกมากกกกก เขินง่าาา เอเลนพูดจาติดเรทมาหลายครั้งแล้ว โค้ชไม่ทนแล้วนะลูก
    ชอบประโยคสุดท้ายมากๆ ค่ะ กรี๊ดกร๊าดดด

    ตอบลบ
  3. พอเห็นฉากบนชิงช้าก็ทำให้นึกถึงบันทึกของพี่ชายคนเล็กจริงๆเลยนะก๊าาา
    ///จนต้องกลับไปหาอิเนียนอีกรอบอ่ะฟินสุดๆๆ ฮะฮะฮะ///
    สำหรับเรื่องนี้เฮียท่อนขากับนู๋เอเลนหวานม๊ากกกเลยค่ะไม่แคร์สื่ออีกต่างหาก
    และต้องขอแสดงความยินดีกับกวางซามะด้วยที่ทุบไหสองใบแตกติดๆๆกัน
    เล่นเอาพอเข้ามาอ่านมันก็ประมาณว่า ห๊ะ!!!!!นี่มันอะไรก๊านนนน!!!!!
    เจอฟิคใหม่ของเฮียท่อนขากะนู๋เอเลนจบสองเรื่องซ้อนนน!!!!!
    ///อ่า..มันก็ดีใจน่ะนะก๊าาแต่รบกวนกลับไปเคลียไหเก่าด้วยนะก๊าาท่านนน////

    อิอิ...ยังรอติดตามอยู่ทุกเรื่องเลยนะก๊าาา

    ตอบลบ
  4. ในที่สุดตอนจบก็มาถึง ยังคงหวานหยดย้อย น่ารักมุ้งมิ้งเหมือนเดิม โดยเฉพาะฉากตอนเกมเซนเตอร์ แบบว่า โค้ชขราาาาา ที่ทำเป็นเฉยเล่นปาจิงโกะจนร้านเค้าเจ๊งนี่จริงๆแล้วในใจสั่นระริกอยู่ใช่มั้ยคะโค้ชชช ....ก็เอเลนน่าร้ากกกเกินปายยยย เรื่องนี้รักกันได้ซึ้งมากเลยค่ะ แถมยังอีโรติกนิดๆ ตั้งแต่ถอดเสื้อผ้านอนกอดกันแระ ตอนจบยังหยอดคำหวานต่ออีกคนละโยค บอกได้เลยว่า เราชอบมากกก

    รักเรื่่องนี้เลยค่ะ และเรื่องต่อๆไปด้วย รอติดตามอยู่เสมอนะคะ คุณกวาง >w<

    ตอบลบ
  5. อ่านแล้ว บิดไป บิดมา #เขินอ่ะ

    ตอบลบ
  6. ฟิคเรื่องนี้
    จะทำคนอ่านเป็นโรคหัวใจ(ละลาย(?))ตามแล้วววววววววววววววววววววววววววววว > ___________ <

    ขอพูดถึงความฟินก่อนเบยยยยย
    ฮืออออออออ ท่านท่อนขาตอนที่พูดว่า “ กลัว “ มันบีบใจเค้ามากจริงจัง จะตายตาหลับ(?)ก็เพราะประโยคนี้ของท่านท่อนขาเลย ฮืออออออออ มันไม่สามารถตีค่าได้เลยว่ารักอีกคนมากแค่ไหน การกลัวที่จะเสียอะไรไปมันก็ตอบทุกอย่างแล้วว่าสิ่งสิ่งนั้นมันต้องสำคัญมากแค่ไหน ถึงแม้ว่าท่านท่อนขาในคราบโค้ช(?)ก็ยังเป็นท่านท่อนขาที่ไม่ถนัดเรื่องการบอกรักด้วยคำพูด แม้จะเน้นการกระทำ แต่การมาพูดอะไรแบบนี้ แม้จะไม่มีคำว่ารักอยู่ในประโยคเลยก็ตาม แต่มันชัดเจนซะยิ่งกว่าการบอกรักพร่ำเพื่อซะอีก

    โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
    ลงไปนอนตายยยยยยยแล้วลุกขึ้นมาชาบูกวางซามะ(?) > ___ <

    จริงๆทางนี้แอบคาดหวัง(?)บนชิงช้าสวรรค์(?)ด้วยนะคะ ฮา จากที่เห็นกวางซามะลงรูปตอนที่ไปเที่ยวแล้วจิ้นทิ้งเอาไว้(?)ให้คนอ่านสติแตกจิ้นตาม(?) พอมาเจอฉากขึ้นชิงช้าเลยเผลอคิดเลยค่ะ > _ < แต่ก็นะ เรื่องนี้เอเลนป่วย(?) ถ้าไม่อย่างนั้นพ่อคุณคงไม่ซื้อตั๋วแค่สองรอบ(?) (หล่อนนนค๊าาา กบว.จะตามมาเบลอหล่อนไม่ทันแบ้ววว ถถถถถถ) แต่ถึงเอเลนจะป่วยจนไม่สามารถ….(?)กวางซามะก็ยังจัดให้พอหอมปากหอมคอ(?) มันจะไม่มีเลยก็เสียเงินเปล่า(?)สิฟ่ะคะ (รู้สึกหล่อนจะคาดหวังกับชิงช้ามากจริงจังจนออกนอกโลกแล้วนะ 5555555)

    จริงๆเรื่องเกมส์เซ็นเตอร์เป็นอะไรที่เค้าชอบมากกกกกนะคะ ด้วยความที่ไม่กล้า(?)เข้าไปในเกมส์เซ็นเตอร์ ทำได้แค่งกๆเงิ่นๆอยู่แค่หน้าทางเข้า(?) ไม่ก็ไปเนียนเอาหน้าแนบกระจก(?)ส่องตู้หนีบอะไรก็ไม่รู้ ฮา เพราะด้วยความไม่ถนัดเรื่องเกมส์อะไรสักอย่าง จะเข้าไปดูเฉยๆก็กลัวจะโดนเค้าด่าให้ไม่รู้เรื่อง(?)ว่ามองอะไร ฮา สุดท้ายเลยไม่มีประสบการณ์จริงกับบรรยากาศในนั้น(?)เลยค่ะ แต่บรรยากาศในฟิคเรื่องนี้เค้าชอบมากอ่ะ 555555 โดยเฉพาะตาลุง(?)ที่นั่งเล่นปาจิงโกะจนลูกเหล็กพากันไหลออกมาเพราะกลัวท่อนขากระทืบ(?)นั่นเป็นอะไรที่ดูจรรโลง(?)ตามากจริงๆ 5555555555555555555555555555555555 (หล่อนหัวเราะได้อร่อย(?)มาก)

    อะไรคือการที่ท่านท่อนขานั่งเล่นปาจิงโกะและปล่อยให้แฟนตัวเองโดนท้าพนันจนแพ้และโดนลงโทษด้วยการเล่นเกมส์เต้น แถมเพลงและท่าก๊าวใจมากกกกกกกกกกกกก พอดูคลิปที่กวางซามะแปะให้แล้ว เค้าเข้าใจเลยว่าทำไมเฮย์โจวต้องใช้สมาธิในการส่งเข้าเมลล์ตัวเองขนาดนั้น และ! ถ้าหนูก๊กมาเต้นคู่ด้วย เค้ามั่นใจ(?) ว่ามันจะต้องมีไอ้คนตะบี้ตะบันนั่งส่งรูปและคลิปเข้าเมลล์ตัวเองเพิ่มมาอีกคนแน่นอน ไอ้คนที่มันเนียนๆ(?)น่ะ 55555555 คิดภาพนี้(เอง)แล้วก็บ้าเองค่ะ > ____ < อ่ะ พอพูดแล้วก็พาลนึกพาร์ทที่แล้วที่ตัวเองลืมพูด(?)ไปเรื่องนึงด้วยค่ะ เรื่องที่ว่ามีตัวจริงอยู่ข้างๆอยู่แล้วทำไมต้องตามยึดรูปถ่าย และตามส่งรูปและคลิปจากโทรศัพท์คนอื่นเข้าเมลล์ตัวเองก่อนจะลบ(?)อีก เค้าเชื่อว่าถึงเอเลนจะอยู่ข้างๆ24ชั่วโมง356วัน พ่อคุณก็ทำแบบนี้อีกอยู่ดีนั่นแหละ 555555 > ___ <

    แล้วคือเป็น ฟิคNC17 ที่…………..คนอ่านจะเป็นโรคหัวใจจริงจัง จะตายให้ได้เลย ดิ้นแล้วดิ้นอีก > _________< เค้าไม่สามารถบรรยายความรู้สึกออกมาให้ไม่โดนกบว.(?)ตามมาเบลอได้จริงจังอ้ะ กวางซาม๊าาาา อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ทนนนนนนน รัก รัก รัก รัก รัก รักฟิคกวางซามะจริงจัง ประโยคจบก็ยังขอยืนยันว่าเป็นอะไรที่เค้าชอบมากกก มันสุดยอดมากๆจริง ลงตัวแบบที่มันต้องโปรยดอกไม้ (จะโปรยทำไมมมม) หัวใจอบอุ่นจนไม่รู้จะพูดยังไงกับความฟิน ขอบคุณที่จบให้เค้าไม่ต้องน้ำลายฟูมปาก(?)นะคะ 555555 ดีใจมากๆที่ได้อ่านจนจบจริงจัง ชอบนะคะชอบมากจริงๆ

    และ จอง!!!!!!!!!!!!!!!!!!! จองนะคะ จอง17ฝน และก็จองเล่มนี้(?)ด้วยนะคะ (เล่มนี้มันเล่มไหนนก๊านนนนคะหล่อน5555555) คือขอจอง 17ฝนแบบไม่ทนนนนนอย่างแรงงงงง
    ปกคนบ้า(?)อะไรจะกระชากวิญญาณได้ขนาดเน้
    เห็นครั้งแรกแล้วเค้าแบบ………………..โอ่ยยยยยยยยยยยยย ยาม๊าาาา
    ถ้าจะหล่อกระแทกเบ้าตา(?)ขนาดนี้ ไม่ไหวแล้วววววววว อยากจะได้มาลูบไล้(?) (เดี๋ยวๆๆ)
    เค้าดีใจที่ 17ฝนรวมเล่มมากๆๆนะคะ ดีใจที่ฟิควันเกิดของคู่นี้ได้ออกมาเป็นเล่ม
    ถึงจะไม่มีตอนพิเศษเพิ่มให้แต่แค่ออกมาเป็นเล่มก็ดีใจมากๆๆแล้วค่ะ

    จองนะคะ จองนะคะ จองนะคะ (พูดซ้ำกลัวกวางซามะลืม(?) 55555)

    ตอบลบ
  7. ชมรมเบสบอลที่นี่น่ารักจริงๆ ค่ะ แอบฮาตอนที่จะขึ้นกระเช้าตาม เออ คิดได้นะคงจะทัน ฮ่าๆๆ
    พอจินตนาการไปถึงตอนที่เอเลนเล่นเกมส์เต้นก็อยากจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปบ้าง อะฮ้า (-.,-)

    ฟิคเรื่องนี้อ่านไปเขินไปจริงๆ คำพูดคำจาของทั้งโค็ช ทั้งเอเลน >////<
    กว่าจะอ่านตอนนี้จบแทบจะเป็นโรคหัวใจตามเอเลนกันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ
    ยังคงยืนยันว่าฟิคพี่กวางมีผลต่อหัวใจจริงๆนะคะ

    ส่วน 17ฝน ยกมือจองด้วยคน ไม่พลาดแน่นอนค่ะ
    เปิดจองเมื่อไหร่จะรีบมาลงชื่อเบย
    ไม่รอ ไม่ลีลาเหมือนตอนห้องที่แสงส่องไม่ถึงอีกแบ้ว
    ไม่ทันจองรอบแรก เสียใจ ดีน้าที่พี่กวางเปิดให้จองอีกรอบ ไม่งั้นเศร้าเบย

    ตอบลบ
  8. ไม่ไหวแล้วเรื่องนี้
    ระดับความฟินของเราลิมิตเบรกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ
    คือเขินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
    โค้ชร้ายกาจมากอ่ะบอกเลย
    แหม
    ทำเป็นเล่นปาจิงโกะซุ่มเงียบที่จริงแอบวางแผนร้ายลึกไว้
    คิดว่าพวกชมรมเบสบอลคงไม่รู้ว่าโค้ชส่งรูปเข้าเมลตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
    เอเลนนะ
    มีอยู่สองอย่าง
    คือถ้าไม่ซื่อไปเลยก็แอ๊บสุดชีวิตอ่ะ
    “ โค้ช...กับผม...ไม่ต้องใช้ถุงยางก็ได้....”
    ประโยคนี้ช่างชัดเจน แฟนคนไหนทนได้ก็ถือว่าแปลกแล้ว
    ไหนจะบอกว่าอยากมีเซ็กซ์กับโค้ชอีก
    แล้วยิ่งโค้ชเก็บมานาน จะเหลือเหรอ
    แล้วเอ็นซีก็หวานอ่ะ
    มันละมุนละไมแต่ก็แฝงความร้อนแรง
    บอกเลย ณ จุดจุดนี้ว่า "เลือดพุ่งอย่างสวยงาม" ค่ะ
    ขอบคุณค่ะที่แต่งฟิคน่ารักๆฟินๆมาให้ได้อ่าน ^^

    ตอบลบ
  9. โอ้ยจิกหมอนจิกหมอนอ๊ากกกกกก

    ตอบลบ