Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059] GLIDE : 14


Attack on Titan feat.KHR Au.Fic [Levi xEren , 8059]  GLIDE : 14

: Attack on Titan feat KHR Fanfiction Au
: Levi x Eren , 8059
: Romantic Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
     
      
         




“ หมอบอกว่าถ้าแกลุกไหวให้เข้าไปตรวจแผลที่โรงพยาบาล”

ร่างบอบบางวางโทรศัพท์มือถือกับกุญแจรถลงที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาซึ่งมีร่างสูงใหญ่นั่งอยู่ ใบหน้าคมกำลังก้มลงไปมองแผงอกแข็งแกร่งของตัวเองซึ่งบัดนี้มีแต่ผ้าพันแผลพันเอาไว้ ถึงแม้จะยังเจ็บอยู่บ้างแต่วันนี้ก็นับว่าดีกว่าเมื่อวานเยอะ.....ถ้าเป็นคนทั่วไปคงยังลุกไม่ขึ้น แต่สำหรับเขาที่ร่างกายฟื้นตัวไวแผลแค่นี้เลยไม่เท่าไหร่ สาหัสกว่านี้ก็ใช่ว่าเขาจะไม่เคย...

เสียงกรอบแกรบของถุงพลาสติกทำให้เขาละใบหน้าจากช่วงท้องไปมองร่างบอบบางที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์....ดูเหมือนโกคุเดระเพิ่งจะออกไปซื้ออะไรมา?....อาหารเช้า?

ทั้งๆที่ปกติกินแต่สลัดจนแทบจะกลายร่างเป็นกระต่าย แล้ววันนี้นึกครึ้มอะไรขึ้นมาถึงออกไปซื้ออาหารเช้ากันนะ?

กลิ่นข้าวต้มหอมฉุยลอยมาแตะจมูกแล้วไม่นานถ้วยสีแดงที่มีโลโก้ของเฟอร์รารี่ก็วางลงมาตรงหน้า....ไปซื้อมาให้เขางั้นหรอ?

ในอกข้างซ้ายรู้สึกอบอุ่นจนแทบจะหุบยิ้มไม่ลง...กับคนที่ไม่น่าจะดูแลใครเป็นกลับกำลังพยายามดูแลเขา...

ยามาโมโตะ ทาเคชิ...นายนี่ช่างเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกเลยจริงๆ

“ กะ ก็แค่เห็นว่าพิการอยู่หรอกนะ จะปล่อยให้หิวตายในบ้านก็ไม่ได้ด้วย เดี๋ยวเอลวินจะลำบาก”   เขาได้แต่หัวเราะเบาๆกับริมฝีปากที่ไม่ค่อยจะตรงกับใจนั่น....ตกลง เอลวิน สมิธ นี่เป็นคนเก็บศพด้วยสินะ

“ ขอบใจนะที่รัก”  แกล้งหยอกให้ใบหน้าสวยงอหงิกเล่น แล้วริมฝีปากสีสดก็แยกเขี้ยวใส่เขาอย่างไม่ต้องสงสัย

“ ใครเป็นที่รักแกไอ้บ้า! แล้วนี่ตกลงจะไปไหม?!!” 

“ ไปครับ”   เขายกถ้วยข้ามต้มขึ้นมากินด้วยรอยยิ้ม ที่จริงก็อยากจะอ้อนให้ป้อนอยู่หรอกนะแต่เกรงว่าเจ้าของสายตาอาฆาตที่ส่งมาจากบ้านอีกฝั่งนั่นจะส่งท่อนขามาฟาดแผลเขาแตกอีกรอบซะก่อน


แกร่ก....


เสียงอะไรบางอย่างวางลงมาที่โต๊ะเตี้ยตรงหน้า ทำให้เขาละสายตาจากถ้วยไปมองวัตถุสีดำเล็กๆที่หน้าตาเหมือนจะเป็นรีโมทของอะไรสักอย่าง

“ หัดเข้าทางประตูดีๆซะบ้าง! ถึงจะเป็นหมีก็เข้าประตูเป็นใช่ไหมล่ะ?!”  แล้วเสียงห้วนๆที่เฉลยว่ารีโมทนั่นมันคืออะไรก็ทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ของเขาถึงกับเบิกกว้าง


อย่าบอกนะว่านั่นมัน....รีโมทประตูรั้วบ้าน?....


“ ก็แค่ปล่อยให้มานอนตายอยู่หน้าบ้านไม่ได้เท่านั้นแหละ ฮึ!


นี่โกคุเดระ...ให้กุญแจบ้านกับเขางั้นหรอ?....


นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมองวัตถุสีดำนั้นราวกับเป็นสิ่งล้ำค่า...ตั้งแต่จากบ้านเกิดเมืองนอนมา ตั้งแต่ที่พ่อของเขาตายไป เขาก็ไม่เคยมีกุญแจบ้านอีกเลย...ไม่เคยมีสถานที่ที่รอให้เขากลับไป...

แววตาที่ขี้เล่นอยู่เสมอเปลี่ยนกลับมาจริงจัง มือใหญ่เอื้อมออกไปคว้ามือบางเอาไว้ก่อนจะก้มลงไปจุมพิตมันเบาๆ


จุมพิตราวกับจะให้สัตย์สาบาน....

ว่าเขาจะเอาชีวิตเข้าแลกเพื่อปกป้องคนคนนี้ตราบจนชีวีจะหาไม่...


มันจะเป็นสัญญาจากหัวใจ...ของเพชฌฆาตที่มีนามว่า...ยามาโมโตะ ทาเคชิ...










อัลฟ่าโรเมโอวิ่งอยู่บนถนนลาดยางมะตอยสีเข้ม สีขาวของรถตัดกับสีเขียวของป่าที่นับว่ายังอุดมสมบูรณ์อยู่มากในแถบนี้ ป้ายบ่งบอกว่ากำลังเข้าสู่เขตของมาราเนลโลปรากฏแก่สายตา ก่อนที่ป่าสองข้างทางจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของเมืองที่คุ้นเคย

8C Spider เลี้ยวเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของซุปเปอร์มาเก็ตริมทางก่อนที่ร่างโปร่งบางจะก้าวขาลงไป...เขาไม่ได้ตั้งใจจะแวะมาซื้ออะไรหรอกเพียงแต่ในขณะที่จอดเติมน้ำมันอยู่ F12 Berlinetta ก็ขับผ่านหน้าไป...ถึงที่นี่จะเป็นถิ่นของเฟอร์รารี่และคงมีรถรุ่นนี้ขับกันให้เกลื่อนเมือง แต่คันที่จะขับด้วยความเร็วจนมองป้ายทะเบียนไม่เห็นแบบนี้คงมีอยู่ไม่กี่คันหรอก

ใบหน้ามนที่ยังอารมณ์ไม่ได้ดีขึ้นยิ่งต้องมาหงุดหงิดตัวเองที่ทำพฤติกรรมน่ารังเกียจอย่างการลอบสะกดรอยตามคนรักแบบนี้อีก นัยน์ตาสีมรกตได้แต่มองเงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่บนกระจกอย่างนึกสมเพช...ถึงจะพยายามไม่คิดมากแต่ความอยากรู้มันก็มีมากกว่า...คุณรีไวกำลังทำอะไร กำลังจะไปไหน ต่อให้ถามยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมบอก...เขาเลยต้องมาทำตัวราวกับสตอลกเกอร์อยู่แบบนี้ไง

สองมือดึงรถเข็นออกมาทำทีว่ามาเดินซื้อของ แต่สองตายังคงมองหาร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครคนนั้นต่อไป


ทว่า...


มองยังไงก็หาไม่เจอ....

แต่คนที่เจอกลับเป็น โกคุเดระ ฮายาโตะ กับคนของวองโกเล่คนนั้น...

หรือว่าคนที่ขับ F12 Berlinetta ออกมาจะไม่ใช่คุณรีไวแต่เป็นโกคุเดระ? เพราะเขาไม่เห็น BMW หรือ Ferrari California จอดอยู่ที่ลานจอดรถเลย

“ หึ...”  เสียงหัวเราะในลำคอดังออกมาอย่างรู้สึกโล่งใจ และถึงแม้เขาจะรู้สึกอิจฉาความเอาใจใส่ที่คุณรีไวมีให้ร่างบอบบางผมสีเงินคนนั้น แต่เวลาที่เจอกัน เวลาที่ได้พูดคุยกัน ความสบายใจที่เขาได้รับจากอีกฝ่ายก็เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้...สองขาจึงตั้งจะเดินเข้าไปทัก

แต่แล้วบรรยากาศที่อยู่รอบๆตัวของทั้งสองคนมันกลับทำให้เขาเข็นรถหลบเข้าไปหลังชั้นวางของซะแบบนั้น

เอ๋....?

ไอ้ออร่าสีชมพูๆนี่มันอะไรกันน่ะ?

หัวสีน้ำตาลหันกลับไปดูทั้งๆที่ยังซ่อนตัวอยู่หลังชั้นวางของ...ทั้งสองคนกำลังเลือกปลาอยู่ที่โซนขายของสด...ถึงแม้โกคุเดระจะแยกเขี้ยวใส่ชายร่างสูงใหญ่ที่ยิ้มรับแถมยังหยอกล้อกลับนั่นตลอด แต่มันกลับทำให้เขาใจเต้นแปลกๆกับใบหน้าที่ไร้ซึ่งความเย็นชาของนักขับมือสองของเฟอร์รารี่...เด็กคนนั้นก็มีใบหน้าแบบอื่นด้วยหรอ?

ใบหน้ามนยังคงผลุบๆโผล่ๆอยู่หลังชั้นวางของ นัยน์ตาสีมรกตแทบจะโตเท่าไข่ห่านด้วยรู้สึกตกตะลึงไปกับความสัมพันธ์ที่ดูไม่น่าจะธรรมดาของทั้งสองคนที่ตนเพิ่งรู้...เสียงด่าทอคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะแต่มันก็ฟังดูราวกับคู่รักที่มีความสุข แล้วที่สำคัญบรรยากาศแบบนี้ โกคุเดระ ฮายาโตะ ก็มีให้กับผู้ชายคนนั้นแทบจะคนเดียว....เท่าที่เขาเคยเห็นน่ะนะ



“ อันนี้ๆ...ฮงมากุโร่...เนื้อจะอร่อยกว่า”  มือใหญ่หยิบชิ้นปลาที่แพคเอาไว้ขึ้นมาจากชั้นตู้เย็นที่มีเนื้อปลาเรียงเป็นตับ

“ ฮง...อะไรนะ? ไม่เห็นมีบอก? เดี๋ยว! ชั้นไม่ได้อยากจะกินปลานี่ซักหน่อย!   ใบหน้าสวยยื่นเข้าไปดูอย่างสนใจก่อนจะรีบสะบัดหนีทำทีไม่ได้รู้สึกอยากได้แต่สายตากลับแอบเหลือบมองปลานั่นอยู่ตลอด ซึ่งก็ดูเหมือนร่างสูงใหญ่จะรู้ทัน ใบหน้าคมถึงได้อธิบายออกไปโดยไม่สนใจท่าทางของร่างบอบบาง

“ ฮงมากุโร่...ภาษาอังกฤษก็ Blue fin Tuna...ทูน่าหรือมากุโร่มันมีหลายสายพันธุ์ แต่เนี่ย...ที่สุดของมากุโร่แล้วละ เชื่อชั้น”   ใบหน้าที่มองคนอื่นด้วยสายตามืดมนกลับมองคนที่ยืนข้างๆด้วยความอ่อนโยน

“ ฮึ! ไม่ได้อยากกินหรอกนะ แค่อยากจะรู้ว่าแกโม้หรือเปล่า”  มือบางหยิบชิ้นปลาที่อยู่ในมือใหญ่เอาไปวางในรถเข็นก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปดูอย่างอื่น

“ ฮะฮะฮะ”  แล้วต่อให้ปากไม่ตรงกับใจยังไงหรือต่อให้ถูกด่าแค่ไหน คนอารมณ์ดีที่เดินตามไม่ห่างนั่นก็ยังคงยิ้มรับ



ใบหน้ามนของคนที่ทำตัวเยี่ยงสตอลกเกอร์หดกลับมาที่หลังชั้นวางของ บรรยากาศน่ารักๆที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่นใจทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา หัวใจเต้นตึกตักทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง

งั้นหรอ...เป็นแบบนั้นเองหรอ....

“ หึหึ...”  เสียงหัวเราะดังออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อจู่ๆก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา...เขานี่มันงี่เง่าจริงๆที่เอาแต่เฝ้ากังวลเรื่องของโกคุเดระ ฮายาโตะอย่างกับคนบ้า เฝ้าอิจฉา เฝ้าน้อยใจ ทั้งๆที่จริงแล้วความรู้สึกที่คุณรีไวมีให้เด็กคนนั้นมันแตกต่างจากที่มีให้เขา แล้วที่สำคัญ....


....น้องชาย...ไม่อาจจะอยู่กับพี่ชายไปตลอดชีวิตได้หรอก....


นั่นคือสิ่งที่โกคุเดระเคยบอกเขาเอาไว้...แล้วตอนนี้...น้องชายคนนั้นก็กำลังมีทางเดินเป็นของตัวเอง...

ทำไมเขาเพิ่งจะมาเข้าใจเอาป่านนี้กันนะ

นัยน์ตาสีมรกตปิดลงก่อนจะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข และไม่ว่าจะหันไปดูอีกกี่ครั้ง บรรยากาศหวานๆนั่นมันก็ทำให้หุบยิ้มไม่ได้...แล้วก็...ไม่ได้มีแต่เขาที่มองสองคนนั้นซะด้วย...ดูเหมือนร่างสูงใหญ่กับร่างบอบบางที่เดินอยู่เคียงข้างกันจะสะกดสายตาของคนที่เดินอยู่ในนี้อย่างช่วยไม่ได้...ก็นะ...

คนของวองโกเล่คนนั้น...อือ...ยามาโมโตะ ทาเคชิ?....ที่ปกติเขามักจะเห็นอยู่ในชุดสูทซึ่งให้กลิ่นไออันตรายไม่น้อยอยู่แล้ว...แต่วันนี้ร่างสูงใหญ่นั่นกลับอยู่ในชุดประจำชาติของชาวญี่ปุ่น...ดูเหมือนมันจะเรียกว่ายูกาตะ?...เป็นยูกาตะสีดำสนิทรับกับสีผมราวกับรัตติกาลของชายคนนั้นและมันยิ่งส่งให้ใบหน้าคมดูหล่อเหลาน่าค้นหาถึงแม้ว่าจะดูมืดมนมากกว่าเดิม คอยูกาตะเปิดกว้างเผยให้เห็นแผงอกแข็งแรงซึ่งถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผลจนเต็มพื้นที่ ถึงจะดูอันตรายแต่มันกลับเข้ากับรอยยิ้มที่ริมฝีปากนั่นจนละสายตาไม่ได้  แล้วยิ่งความแข็งแกร่งแบบนั้นมาอยู่เคียงข้างกับความบอบบางของโกคุเดระ ฮายาโตะ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ในชุดลำลองของเฟอร์รารี่ตามปกติ แต่เสื้อเชิ้ตสีขาวรับกับผมสีเงินก็ทำให้ใบหน้าสวยนั่นดูน่าทะนุถนอมน่าปกป้อง ความแตกต่างมันก็เลยยิ่งทำให้เป็นคู่ที่น่ามองยิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับเขาแล้วคิดว่าทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันจริงๆ....

แต่คุณรีไวอาจจะไม่คิดแบบเขาก็ได้...ตอนไปเวโรน่าถึงได้ดูอยากจะกีดกันยามาโมโตะไม่ให้เข้าใกล้โกคุเดระนัก....จะว่าไปเขาเองก็คุ้นๆกับความรู้สึกแบบนี้อยู่เหมือนกันนะ?

มันเหมือนกับตอนที่พ่อของเขาสั่งห้ามไม่ให้เขาคบกับคนที่ดูไม่น่าไว้ใจ.....

เหมือนพ่องั้นหรอ?!

“ อุ๊บ......”   มือยกขึ้นมาปิดปากไม่ให้หลุดหัวเราะออกไป ยิ่งนึกถึงใบหน้าโหดๆของคุณรีไวที่กำลังยืนกอดอกกระทืบเท้ารอสองคนนั้นกลับบ้านก็ยิ่งขำจนตัวงอ.....ต่อไปนี้เขาจะเลิกคิดมากเรื่องของโกคุเดระก็แล้วกันนะ...เพราะพวกเราคงหัวอกเดียวกัน...

ใบหน้ามนที่แดงระเรื่อจากการกลั้นหัวเราะเงยขึ้นมาก่อนจะรีบหลบไปอีกฝั่งของชั้นวางของเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนที่ตนมองอยู่กำลังเข็นรถเข้ามาใกล้ สองขาตั้งใจจะเดินไปหาซื้อของสดไปทำอาหารให้คุณรีไว ดูเหมือนความน้อยใจ ความคลางแคลงใจจะหายไปจนตอนนี้มีแต่ความคิดถึงอีกฝ่ายแทบจะล้นทะลักออกมา...อยากไปเจอเร็วๆแล้วกระโดดเข้าใส่อย่างไม่มีสาเหตุ

แต่ก่อนที่ขาจะได้เดินไปโซนของสดอย่างที่ตั้งใจ สองหูก็ได้ยินเสียงที่ทั้งสองคนคุยกันแล้วมันก็ทำให้ร่างทั้งร่างถึงกับชะงักงัน



“ อยากกินก็ซื้อเองสิฟ๊ะ! เป็นถึงผู้พิทักษ์ของวองโกเล่ แค่นี้ซื้อเองไม่ได้หรือไง? จนจริงๆ”   ดูเหมือนร่างสูงใหญ่นั่นจะกำลังอ้อนให้ โกคุเดระ ฮายาโตะ ซื้ออะไรสักอย่างให้

“ โกคุเดระอ่า.....ถึงจะเป็นช็อกโกแลตราคาเหยียบแสน แต่ถ้าไม่ใช่ที่ได้มาจากนายมันก็ไม่มีความหมายหรอกน่า...จริงไหม...นะ นะ ซื้อให้หน่อยนะ...”    .............ช็อกโกแลต...........นั่นแหละคือคำที่ทำให้เขาก้าวขาไปไหนไม่ออก.....วันนี้วันวาเลนไทน์งั้นหรอ?!! บ้าจริง! เขามัวแต่คิดมากจนไม่ได้สนใจรอบข้างเลยว่าวันนี้มันเป็นวันที่ทุกๆสถานที่จะเต็มไปด้วยสีชมพู

“ น่ารำคาญจริงเชียว! หมีที่ไหนกินช็อกโกแลต ฮึ่ม!!

“ น้า~~~~

“ หุบปาก! เดี๋ยวไปเอาที่ช็อปของเฟอร์รารี่ให้! ชั้นไม่เสียตังค์ซื้อของปัญญาอ่อนแบบนี้ให้แกหรอก!

“ เย้~~~เอาที่เป็นรูปหัวใจสีแดงนะ”

“ ช็อป – เฟอร์ – รา – รี่ ....ฟังบ้างหรือเปล่าไอ้บ้า! รูปหัวใจมีที่ไหน มีแต่รถเอฟวันเฟ้ย!

“ อะไรก็ได้แหละ ขอแค่เป็นช็อกโกแลตที่ได้จากนาย~~

“ พวกนี้มันไม่ได้เรื่อง ที่เอลวินเคยเอามากินอร่อยกว่านี้แน่นอน”

“ งั้นหรอๆ”


เสียงของทั้งคู่เลยผ่านไปนานแล้วแต่ร่างโปร่งบางกลับยังยืนนิ่งค้างอยู่ที่เดิม นัยน์ตาสีมรกตก้มลงไปมองนาฬิกาข้อมือ บ่ายกว่าขนาดนี้ถ้าจะกลับบ้านไปให้แม่สอนทำช็อกโกแลตให้ก็คงไม่ทันการ อีกอย่างก็คงจะน่าสงสัยน่าดูที่จู่ๆลูกชายก็นึกอยากทำช็อกโกแลตขึ้นมาทั้งๆที่ปกติเคยสนใจเรื่องอื่นนอกจากรถบังคับวิทยุเสียที่ไหน...ใบหน้ามนหันไปมองช็อกโกแลตนานาแบบที่วางอยู่บนชั้นวางของ....คำพูดที่บอกว่ามันไม่อร่อยของโกคุเดระลอยเข้ามาในหัว ทำให้มือไม่กล้าจะหยิบมาเลือกเลยสักอัน

ยังไงมันก็เป็นของที่จะให้คนสำคัญ เพราะงั้นเขาก็อยากจะให้ของที่ดีที่สุด

แล้วชื่อของช็อกโกแลตยี่ห้อหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในหัว.....Godiva….ถ้าเป็นนี่ละก็....

ร่างโปร่งบางหันกลับก่อนจะเก็บรถเข็นไว้ที่เดิมโดยยังไม่ทันจะได้หยิบอะไรลงไปเลยสักชิ้น สองขาก้าวเร็วๆกลับไปที่รถก่อนที่ Alfa romeo 8C Spider จะพุ่งออกจากมาราเนลโลสู่โบโลญญ่า....ที่เดียวในละแวกนี้ที่จะมีช็อกโกแลตราคาแพงระยับยี่ห้อนั้น




จากถนนเส้นเล็กๆในเมืองมาราเนลโลตัดขึ้นทางพิเศษ Autostrada A1 Milano-Napoli มอเตอร์เวย์ที่เชื่อมต่อเมืองเหนือสุดของอิตาลีอย่างมิลานลงไปสู่แดนใต้อย่างเนเปิล ถนนคู่ขนานที่มีความยาว 754 กิโลเมตรนี้ยังเชื่อมต่อเมืองสำคัญๆของอิตาลีอย่าง โบโลญญ่า ฟลอเรนซ์ และโรมอีกด้วย

นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองถนนกว้างใหญ่ที่หาไม่ได้ในมาราเนลโลด้วยความตื่นเต้นเล็กๆ เพราะจะว่าไปเขาไม่ได้ถนัดเรื่องการขับรถออกถนนใหญ่เท่าไหร่ ที่จริง....เขายังขับรถไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะไม่มีใบขับขี่...ก็อายุมันยังไม่ถึงนี่จะให้ทำไงได้

คราวนี้ต้องขับรถไปโบโลญญ่าคนเดียว นอกจากระวังรถคันอื่นแล้วยังต้องระวังตำรวจอีกด้วยสินะ...ใบหน้ามนได้แต่ยิ้มแห้ง...ถึงแม้ว่าปกติแล้วเขาจะดื้อจนคนรอบข้างเอือมระอา แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้เพียงเพราะช็อกโกแลตแค่อันเดียว


ก็เขาอยากให้คุณรีไวดีใจนี่นา...


ฝ่าเท้าเหยียบคันเร่งในความเร็วแบบที่มนุษย์ปกติเค้าใช้กัน กับระยะทาง 48 กิโลเมตรที่เขาใช้เวลาขับเกือบชั่วโมง ถ้าเป็นคุณรีไวคงใช้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแน่.......ใบหน้ามนสะบัดไปมาก่อนจะจ้องมองถนนอย่างพยายามสลัดคนที่อยู่ในหัวออกไป...ทำไมคิดถึงแต่คุณรีไวๆๆๆแบบนี้นะ บ้าจริง!

อัลฟ่าโรเมโอสีขาวเบี่ยงลงจากมอเตอร์เวย์ก่อนจะกลับเข้าสู่ถนนที่เต็มไปด้วยหมู่ตึกของโบโลญญ่าแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าใหญ่ของเมือง ถ้าจำไม่ผิดที่นั่นมีร้านของ Godiva โดยเฉพาะอยู่ด้วย

สองขารีบก้าวลงจากรถเมื่อมันจอดสนิทอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดิน  ร่างโปร่งบางวิ่งกระหืดกระหอบไปถามประชาสัมพันธ์ก่อนจะวิ่งตามหาร้านซึ่งใช่ว่าจะหาง่ายด้วยความกว้างใหญ่ของห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่รวมเวลาที่ขึ้นลิฟต์ไปลงชั้นผิดจนวนหาอยู่ทั่วชั้นนั้นก็ไม่เจอจนต้องวิ่งลงบันไดเลื่อนมาถามประชาสัมพันธ์ใหม่แล้วก็กลับขึ้นไปหาอีกรอบ เขาก็นับว่าทำเวลาได้น่าพอใจอยู่หรอก....

ร่างโปร่งบางมาหยุดยืนหอบแฮ่กอยู่หน้าร้านเป้าหมายจนได้.....หน้าร้านสีน้ำตาลเข้มที่ภายในตกแต่งด้วยสีทองอร่ามมีคนยืนเลือกซื้อช็อกโกแลตอยู่ประปราย...ไม่ใช่ว่ามันขายไม่ได้เพราะแพงเกินไปหรอกแต่เวลามันปาเข้าไปจะหมดวันแล้วแบบนี้ แถมของก็อาจจะหมดไปแล้วก็ได้ทำให้เขาเดินเข้าไปด้วยหัวใจตุ๊มๆต่อมๆ ถึงแม้ลมหายใจหอบๆจะยังไม่เข้าที่ดีแต่เขาก็ไม่มีเวลามาสนใจมัน นัยน์ตากวาดมองหาช็อกโกแลตที่อยากได้...จะเอาเป็นกล่องรูปหัวใจสีแดงแบบที่คงจะทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ก็ดูน่าอายยังไงไม่รู้ตอนยื่นให้คุณรีไว...มือเลยหยิบแบบกล่องสี่เหลี่ยมดูเรียบร้อยแต่หรูหรามาแทน

แล้วถุงกระดาษที่ข้างในมีกล่องช็อกโกแลตก็ถูกวางลงไปบนเบาะข้างคนขับ ใบหน้ามนอมยิ้มน้อยๆเมื่อหันไปมองมัน...คุณรีไวจะทำหน้ายังไงนะ ตอนที่เขายื่นให้...แค่คิดก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้แล้ว

เพราะงั้นต่อให้ต้องขับรถฝ่าตำรวจกลับไป เขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่า เทศกาลที่เขาไม่เคยเห็นความสำคัญของมัน จะทำให้หัวใจอบอุ่นได้มากขนาดนี้....มากกว่าตอนที่แข่งชนะเสียอีก...





และกว่าอัลฟ่าโรเมโอสีขาวจะกลับเข้าสู่มาราเนลโลได้....แสงอาทิตย์ก็อ่อนแรงลงเต็มที...

8C Spider หยุดลงที่หน้าบ้านในเขตอุทยานของมาราเนลโล มือบางหันไปคว้าถุงกระดาษด้วยรอยยิ้ม ในใจกำลังจินตนาการถึงใบหน้าของคนรับช็อกโกแลตชิ้นนี้ไปต่างๆนานา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นภาพที่เต็มไปด้วยความสุข


โดยที่ลืมนึกไป...ว่าโลกใบนี้มันไม่ได้มีแค่ด้านเดียว...


สองขาชะงักอยู่หน้าประตูรั้วที่วันนี้ไม่ได้ปิดเอาไว้ เพราะมีรถที่ไม่คุ้นตาจอดคาอยู่...ไม่น่าจะใช่รถของยามาโมโตะ ทาเคชิ เพราะ BMW สีดำคันนั้นขยับเข้าไปจอดอยู่ข้างๆ Ferrari California...

ถ้างั้น...รถใครกัน?

ร่างโปร่งบางเดินขึ้นบันไดก่อนจะข้ามเฉลียงไม้ไปยังบ้านฝั่งซ้ายช้าๆ...จู่ๆก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาราวกับว่าเขากำลังจะก้าวขาเข้าไปรู้ความลับที่คุณรีไวไม่อยากให้เขารู้แล้วก็พยายามที่จะปิดบังมันกับเขามาตลอด...ถึงได้สั่งนักสั่งหนาว่าห้ามมาที่นี่

ความลับ...ที่ทำให้สองขาถึงกับชะงักงันเมื่อสองตามองเห็นมันเข้า...

ความลับ...ที่ทำเอามือที่ถือถุงกระดาษอยู่ถึงกับกำแน่น...

เพราะมีตู้เตี้ยบังอยู่เขาจึงไม่รู้ว่าคนในบ้านกำลังทำอะไร แต่สิ่งเดียวที่แน่ใจคือบ้านหลังนี้ที่เขาเคยคิดว่ามันคือที่ของเขา...ตอนนี้มันกลับไม่ใช่....


ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน.....


ร่างโปร่งที่มีผมยาวประบ่าอยู่ในบ้านของคุณรีไวทั้งๆที่ใส่เสื้อกล้ามเพียงตัวเดียว...ร่างกายในแบบที่เขาไม่อาจจะมีได้นั้นกำลังค่อมตัวลงไปคุยกับคนรักของเขาที่นั่งอยู่ที่พื้นด้วยท่าทางสนิทสนม...ภาพที่เห็นผ่านกระจกมามันทำให้นัยน์ตาพร่ามัว แล้วยิ่งใบหน้าของทั้งสองคนขยับเข้าไปชิดกันมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้หัวใจที่กำลังมีความสุขเหมือนจะถูกฉุดลงเหวอีกครั้งมากขึ้นเท่านั้น

นี่มันอะไรกัน...

ที่ห้ามไม่ให้เขามาเพราะกลัวว่าเขาจะรู้เข้าหรือไงว่าตัวเองซ่อนอะไรเอาไว้...

ไม่สิ...

อาจจะกลับกันก็ได้...

ที่ไม่ให้เขามา เพราะกลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้...ว่ายังมีเขาอีกคน....

ยังมีเขา...ที่คุณรีไวซุกซ่อนเอาไว้ใช้ระบายอารมณ์ที่ไม่อาจจะเอาไปลงกับคนที่เป็น “ตัวจริง” ได้...อย่างงั้นใช่ไหม...

ริมฝีปากได้แต่เม้มแน่นกับเรื่องราวที่ได้รับรู้...ที่หัวใจเหมือนจะถูกบีบจนแทบจะแหลกเละไม่เหลือชิ้นดี...นัยน์ตาต้องกระพริบถี่ๆเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงมาให้ดูน่าสมเพชไปมากกว่านี้

ยิ่งใบหน้าของทั้งสองคนยื่นเข้าไปใกล้จนริมฝีปากคงจูบกันได้จากมุมที่เขามองไม่เห็น มันก็ยิ่งเจ็บแปลบจนแทบจะยืนไม่อยู่

มันไม่ง่ายเลย...ที่จะต้องมายืนดูคนรักของตัวเองกำลังจูบกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้แบบนี้

ต่อให้เป็นคนใจเย็นแค่ไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทนกันได้เลย...แล้วยิ่งเป็นคนใจร้อนแบบเขาที่ไม่เคยควบคุมตัวเองได้ในเวลาที่เลือดขึ้นหน้า

สองขาจึงก้าวฉับๆเข้าไปในบ้านทันที!

เพราะเขาไม่ใช่นางเอกผู้แสนดีที่จะวิ่งหนีไปโดยไม่คิดจะทำอะไร

ช่างมัน! ถึงจะไม่รู้ว่าเขาหรือผู้หญิงคนนั้นกันแน่ที่เป็นตัวจริง แต่เขาจะไม่ยอมยกคุณรีไวให้ใครง่ายๆแน่!

ทั้งความหึงและความหวงทำให้เขาไม่คิดอะไรอีก สองมือผลักผู้หญิงคนนั้นออกไป ก่อนจะหลับหูหลับตาตะโกนใส่ด้วยเสียงดังก้อง


“ คุณรีไวเป็นของผมนะ!!!

“ อย่ามายุ่งกับเขา เพราะเขาเป็นของผม! ได้ยินไหม?! เขาเป็นของผม!!


สรรพเสียงที่เงียบไปทำให้นัยน์ตาสีมรกตลืมตาขึ้นมา...ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีท่าทางชะงักค้าง ดวงตาของเธอมองสวนกลับมาด้วยความตื่นตะลึงและนั่นมันก็ทำให้ร่างโปร่งบางเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป

ใบหน้ามนค่อยๆหันไปมองอีกคนที่ดูท่าทางจะอึ้งไม่แพ้กัน ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครยังคงนิ่งงันไปกับการกระทำของเขา


คุณรีไว...คงจะเกลียดเขาแล้วแน่ๆที่ทำตัวงี่เง่าแบบนี้...


ร่างกายจึงได้แต่ถอยหนีพลางส่ายหน้าด้วยอาการสั่นกลัว

กลัว...กลัวว่าจะถูกบอกเลิก...กลัวว่าจะถูกเกลียด

กลัวจนไม่กล้าจะยืนเผชิญหน้ากับสายตาราวกับน้ำแข็งนั่น...สองขาจึงหมุนตัวกลับแล้ววิ่งออกมา....โดยไม่ฟังเสียงตะโกนที่ดังอยู่ข้างหลังอีกเลย









“ เอเลน!!!”   นักขับมือหนึ่งของเฟอร์รารี่วิ่งตามร่างโปร่งบางมาจนสุดปลายเฉลียง ได้ยินเสียงอัลฟ่าโรเมโอขับออกไปจึงได้แต่หันรีหันขวางอย่างไม่รู้จะเอายังไง.....ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี...

แต่จนแล้วจนรอดร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครก็เลือกที่จะวิ่งกลับเข้าไปในบ้าน...

ก่อนที่มือจะคว้ากุญแจ F12 Berlinetta กับเจ้ารถบังคับวิทยุคันจิ๋วที่เพิ่งจะประกอบเสร็จสดๆร้อนๆขึ้นมา แล้วสองขาจึงวิ่งตามออกไป...

ไม่นานเฟอร์รารี่สีแดงก็ทะยานออกจากบ้าน คนที่อยู่หลังพวงมาลัยยังจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูกที่จู่ๆเจ้าเด็กนั่นก็พรวดพราดเข้ามาตะโกนประโยคที่ทำเอาเขาใจเต้นจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ก่อนจะพรวดพราดวิ่งหนีไปแถมเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมฟัง...เป็นอะไรกันนะเจ้าเด็กเหลือขอนั่น...

คิ้วสีดำขมวดเข้าหากันพลางกัดฟันกรอด มือข้างหนึ่งพยายามกดโทรศัพท์มือถือเพื่อติดต่ออีกฝ่ายให้ได้....คงต้องคุยกันให้รู้เรื่องแล้วละคราวนี้...ถ้าปล่อยเอาไว้...แผลเล็กๆมันคงจะขยายใหญ่จนอาจจะต้องตัดอวัยวะที่เรียกว่าหัวใจทิ้งไปเลยก็ได้...แล้วถ้าไม่มีหัวใจ...เขาจะอยู่ได้ยังไง...


เสียงรอสายดังเป็นครั้งที่ 4 กว่าปลายสายจะยอมกดรับได้


“ ฮึก...จะโทรมาบอกเลิกใช่ไหมละครับ...ฮึก...ไม่เอา! ผมไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!”   บอกเลิก?......เสียงปลายสายฟังดูก็รู้ว่าคงจะพูดกันไม่รู้เรื่องแน่ แต่เขาก็ยังคงพยายามจะสอบถามสาเหตุให้ได้ว่ามันเรื่องอะไรกัน

“ ใจเย็นๆสิเอเลน”

“ ใจเย็น? คุณยังจะให้ผมใจเย็นได้อีกงั้นหรอ? ถ้าเบื่อก็บอกผมดีๆสิ ไม่ใช่โทรไปก็ไม่ค่อยรับแล้วไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้...ฮึก...”   ผู้หญิงอื่น?......น้ำเสียงปนสะอื้นยิ่งทำให้เขาสับสนไปกันใหญ่...ผู้หญิงที่ไหนกัน?...หรือว่า...

“ ฟังชั้นนะไอ้เด็กเหลือขอ...”

“ ไม่ฟัง!! ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!! คุณจะบอกเลิกกับผมใช่ไหมล่ะ?! ไม่ต้องบอกหรอก ไม่ต้องบอกด้วยปากของคุณผมก็รับรู้ทุกอย่างแล้ว....ก็ดี....ถ้ารักกันแล้วมันจะต้องเจ็บ จะต้องเอาแต่คิดมากอยู่แบบนี้....ผมไม่มาให้คุณเห็นหน้าแล้วก็ได้...ฮึก...” 

“ เอเลน...เดี๋ยว...อย่าเพิ่งวาง...เอเลน!!”   แล้วปลายสายก็ตัดไป โทรใหม่ก็มีเพียงสัญญาณว่าปิดเครื่อง


โธ่โว้ยไอ้เจ้าเด็กบ้านั่น!!

เลิกกันอะไร?! เขาเคยพูดแบบนั้นเสียที่ไหน?! แค่จะคิดยังไม่เคยเลยสักนิด!....ไม่งั้นเขาจะสู้อุตส่าทำรถบังคับวิทยุนี่มาให้ทำไม?!

แต่แรกก็เข้ามาอยู่ในสายตาของเขาเองไม่ใช่หรือไง มาตามตื้อเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นไปแล้วแบบนี้จู่ๆจะให้เลิกกันนี่มันเรื่องอะไรกันล่ะ?!

ริมฝีปากได้แต่สบถออกมาอย่างหุดหงิด ฝ่าเท้าเหยียบคันเร่งมิดจนเฟอร์รารี่สีแดงแทบจะบินได้...ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง...ไม่ว่ายังไงก็จะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!


และด้วยความที่คนหนึ่งขับรถไวมาก กับอีกคนหนึ่งที่ขับรถช้ามาก ทำให้ F12 Berlinetta ตาม Alfa Romeo 8C Spider ทันในที่สุด


เอี๊ยดดดดดดด!!


เสียงเบรกดังสนั่นเมื่อเฟอร์รารี่ขยับแซงก่อนจะปาดหน้าอัลฟ่าโรเมโอแบบไม่กลัวว่าจะถูกชนเลยแม้แต่น้อย กลิ่นยางไหม้ลอยหึ่งออกมาแตะจมูกเมื่อรถทั้งสองคันต่างหยุดนิ่ง เสียงเปิดประตูทำให้ใบหน้าคมเงยขึ้นมาดูก่อนจะพบว่าร่างโปร่งบางกำลังวิ่งหนีไปอีกจนได้

“ เอเลน!!”   เขาได้แต่ตะโกนไล่หลังไป...บทจะดื้อขึ้นมานี่เอาไม่อยู่เลยจริงๆ

นัยน์ตาสีขี้เถ้าหันไปมองรถบังคับวิทยุอย่างรู้สึกเหนื่อยใจ....ทั้งๆที่ทำมาขนาดนี้แต่กลับดูเหมือนจะไม่มีค่าอะไร...หรือว่าเขากับเด็กนั่นจะแตกต่างกันมากเกินไป เลยไม่เข้าใจกันสักที...


ถ้าเลิกกันไป...บางทีเอเลนอาจจะมีความสุขมากกว่า...









เสียงหอบหนักหน่วงดังขึ้นทุกจังหวะที่ก้าวขา มือยกขึ้นปาดน้ำตาตลอดทางที่หลับหูหลับตาวิ่งไปจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองมาอยู่แถวๆริมแม่น้ำได้ยังไง

ร่างโปร่งบางทรุดนั่งลงบนผืนหญ้าหนานุ่มที่ริมฝั่งแม่น้ำ ปล่อยให้เสียงน้ำไหลเอื่อยๆกลบสะอึกสะอื้นที่ยังดังไม่ได้หยุด สองมือที่ยกขึ้นมาปาดน้ำตาขยับมาทึ้งหัวตัวเองก่อนจะสะบัดหน้าไปมาเหมือนคนกำลังจะเป็นบ้า


บ้า! บ้าที่สุด!!


ทำไมเขาถึงได้ทำบ้าๆแบบนั้นลงไป ทั้งๆที่กว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องดื้อดึงขนาดไหน ต้องเจ็บต้องร้องไห้มาขนาดไหน แล้วทำไมถึงไปบอกเลิกง่ายๆ ปล่อยให้ความหวงครอบงำจนทำอะไรหุนหันพลันแล่นออกไปแบบนี้!

“ ฮึก.....”  น้ำตายังคงไหลลงมาไม่หยุด ในหัวเต็มไปด้วยความสับสนจนไม่รู้จะทำยังไง มันอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกที่เก็บอยู่ข้างในมาตลอดมันระเบิดออกมา เรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้


ร่างโปร่งบางนั่งเหม่อมองสายน้ำทอประกายระยิบระยับด้วยแดดยามเย็นอย่างหมดแรง เวลาเดินผ่านไปไม่รู้ว่ากี่นาที กี่ชั่วโมง...เดินผ่านไปจนหยาดน้ำตาเริ่มจะแห้งหาย...แต่ในหัวใจก็ยังคงเจ็บปวดทุลนทุลาย

จะกลับไปหาดีไหม....

แต่แบบนี้คุณรีไวคงจะมองว่าเขาเป็นเด็กเอาแต่ใจ ไม่ฟังอะไร แล้วก็คงเอือมระอาไปแล้วแน่ๆ

ฮึ...ทั้งๆที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายมองว่าตัวเองเป็นแค่เด็กเหลือขอ แต่ดูจากความงี่เง่าที่ทำลงไปมันก็สมแล้วที่คุณรีไวจะเรียกเขาแบบนี้

อุตส่าห์เลิกคิดเรื่องพ่อได้ อุตส่าห์เลิกน้อยใจเรื่องของโกคุเดระ แล้วทำไมถึงยังคบกันต่อไปไม่ได้


ความรักมันสวยงามอะไรกัน ใครเป็นคนพูดคำนั้นออกมา อยากจะรู้นัก









ตุบ...







ใบหน้าที่กำลังเหม่อลอยก้มลงมามองที่ต้นขาเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกลิ้งมาชนเข้า...ตอนแรกก็คิดว่าคงจะเป็นลูกบอลของเด็กสักคนที่เผลอเตะมา มือจึงตั้งใจจะโยนมันกลับไป


ทว่า....


สิ่งที่เห็นก็มีแต่จะทำให้นัยน์ตาสีมรกตได้แต่เบิกกว้าง...นี่มัน....


Ferrari F138….

แต่เป็น F138 ที่คันเท่าฝ่ามือ....


รถบังคับวิทยุ?....

นัยน์ตาไล่มองไปตามโครงสร้างของมันด้วยหัวใจที่เต้นระรัว...แค่โครงสร้างภายนอกก็รู้แล้วว่าไม่ใช่รถที่ประกอบด้วยมือสมัครเล่น...มันเหมือน...เหมือนกับเป็นการย่อส่วนมาจาก F138 คันใหญ่ไม่มีผิด

สีขาวของกระดาษแผ่นหนึ่งสะท้อนเข้ามาในดวงตา ทำให้รู้ว่าที่ตัวถังมีกระดาษแผ่นเล็กๆแปะอยู่....มือสั่นระริกจึงเอื้อมออกไปหยิบกระดาษที่รถคันนั้นเอามาให้แล้วคลี่ออกดู

ในกระดาษสีขาวมีเพียงลายมือหวัดๆเขียนเอาไว้เพียงประโยคเดียว....

ประโยคเดียวเท่านั้น.....




“ นายเกลียดฉันหรือเปล่า?”




แต่เป็นประโยคเดียวที่ทำให้ทำนบน้ำตาที่อุตส่าห์กั้นไม่ให้ไหลลงมาอีกแตกพ่ายไม่เหลือชิ้นดี...คำพูดห้วนๆที่ไม่เคยตรงไปตรงมาแบบนี้คงไม่ใช่ใคร...และเมื่อเขาหันกลับไปด้านหลังก็เห็นร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่แต่รักเขามากกว่าใครยืนมองอยู่ด้วยสายตากังวล...ความหม่นหมองบนใบหน้าคมทำให้เขารู้ว่าคุณรีไวเองก็คงจะคิดเรื่องของเขาไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

ร่างกายจึงขยับลุกขึ้นก่อนจะกระโดดเข้าไปกอดอีกฝ่ายที่อ้าแขนรับ เขาร้องไห้ราวกับเด็กๆที่ไหล่แข็งแรงอย่างหยุดน้ำตาเอาไว้ไม่ได้...มันทั้งดีใจ โล่งใจ ที่อีกฝ่ายตามมา...


“ ใครจะไปเกลียดคุณล่ะครับ ผมน่ะ..รักคุณที่สุด”  เสียงสั่นๆปนสะอื้นพูดออกไปทั้งๆที่ยังซุกหน้าเอาไว้ที่ไหล่แข็งแรง ที่แผ่นหลังรู้สึกถึงท่อนแขนที่โอบรัดกอดเขาเอาไว้แน่น

“ ถ้ารักชั้นก็อย่าบอกเลิกกันง่ายๆสิ เจ้าเด็กบ้า”  เสียงทุ้มกระซิบบอกอยู่ที่ใบหู ฝ่ามือที่ลูบหัวเขาอยู่นั้นสั่นน้อยๆอย่างที่รับรู้ได้...คุณรีไวเองก็คงจะกลัว คงจะกังวลไม่ได้แพ้เขาแน่ๆ


ร่างของเราต่างจมอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน...และกว่าเขาจะหยุดร้องไห้ได้ แสงอาทิตย์ก็แทบจะลาลับขอบฟ้า...


มือที่แสนอบอุ่นจับมือของเขาเอาไว้แล้วเดินไปด้วยกัน....

แขนบางอีกข้างกอดรถบังคับวิทยุเอาไว้แน่นราวกับเป็นของที่หวงแหนยิ่งกว่าอะไร ใบหน้าที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักอมยิ้มน้อยๆเมื่อก้มลงไปมองมัน ความรู้สึกในแง่ร้ายราวกับมลายหายไปเมื่อได้ฟังเหตุผลของอีกฝ่ายว่าทำไมหลายๆอาทิตย์มานี้ถึงได้เป็นแบบนี้....นั่นก็เพราะทุ่มเททำเจ้ารถคันนี้มาให้เขานี่เอง

หัวใจที่ปวดระบมกลับถูกรักษาในชั่วพริบตา...ตอนนี้...รู้สึกมีความสุขจนไม่รู้จะบรรยายออกมายังไง...และดูจากใบหน้าคลายกังวลของคุณรีไว ก็ทำให้พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายก็คงไม่ได้ต่างกัน


ดีจริงๆ ที่กลับมาดีกันได้เหมือนเดิม...

ไม่สิ...เขารักคุณรีไวยิ่งกว่าเดิมเสียอีก


ใบหน้าจึงซบลงไปที่ไหล่ของคนที่เดินอยู่ข้างๆพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ นัยน์ตาสีขี้เถ้าได้แต่มองดูท่าทางออดอ้อนเอาใจราวกับลูกหมาด้วยสายตาเอ็นดู

เขาเพิ่งจะรู้ตัวว่าทำให้เด็กนี่กังวลจนคิดไปต่างๆนานา เป็นเพราะว่าไม่เคยคบใครแบบจริงๆจังๆเท่านี้มาก่อน เลยไม่รู้ว่าการกระทำของเขาจะทำให้อีกฝ่ายต้องคิดมากขนาดนี้


“ พรุ่งนี้...ชั้นก็ต้องบินไปแข่งที่แคนาดาแล้วอาทิตย์ถัดไปก็ต่อที่ออสเตรียเพราะงั้นกว่าจะกลับมาอีกทีก็อีกสองอาทิตย์...”   เสียงทุ้มเอ่ยออกไปในขณะที่สายตาทอดมองไปยังแสงแดดสุดท้ายที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า

“ ชั้นเลยอยากให้รถนี่กับนายก่อน...ก็ท่าทางเหมือนหมาป่วยของนายมันทำให้ชั้นไม่มีสมาธิ...ชั้นไม่รู้ว่านายกำลังกังวลเรื่องอะไร...อาจจะเป็นเรื่องรถแข่งนี่ก็ได้....แล้วทั้งๆที่ชั้นควรจะตั้งหน้าตั้งตาทำรถนี่ให้นาย...แต่ชั้นก็อยากเห็นหน้านายเลยไปดักรอที่โรงเรียน...คิดว่าแค่เห็นหน้าก็ยังดี...แต่พอเห็นหน้ามันก็อยากทำขึ้นมา....คิดว่าที่ชั้นมีสภาพแบบนี้เป็นเพราะรู้สึกยังไงกับนายกันล่ะไอ้เด็กเหลือขอ?”  ยังดี...ที่ความโพล้เพล้ช่วยปิดบังรอยแดงบนใบหน้าของเขาให้ เขาจึงไม่ต้องเสหน้าไปมองข้างทาง

“ คุณรีไว~~~”   แล้วริมฝีปากนุ่มก็จูบมาที่แก้มเขาอย่างรวดเร็วและแผ่วเบาก่อนที่ใบหน้ามนจะกลับไปซบอยู่ที่ไหล่ของเขาเหมือนเดิม....เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงได้อยากทำขึ้นมา

เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นก่อนที่ขาทั้งสองคู่จะเดินกลับไปยังรถที่จอดรออยู่


“ แล้ว...ตกลงว่าผู้หญิงที่อยู่กับคุณรีไว....”  จู่ๆเสียงใสก็ถามขึ้นมาราวกับว่าเพิ่งนึกได้ ทำให้ใบหน้าปลาตายตอบกลับไปราวกับว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเก็บเอามาคิดเลยแม้แต่น้อย

“ ยัยฮันซี่ไง?  อ้อ  นายคงจำยัยแว่นที่ไม่ได้ใส่แว่นไม่ได้สินะ...รถนี่ยัยนั่นเป็นคนเขียนแบบขึ้นมา....ชั้นเลยให้มาดูหลังจากที่เพิ่งประกอบเสร็จก่อนที่จะเอาไปให้นาย...แล้วยัยแว่นนั่นก็ดันมาในสภาพที่ไม่ได้อาบน้ำมาสี่วันเพราะมัวแต่หมกตัวคิดหัวสูบของรถแข่งคันใหม่...เหม็นจนเกินจะรับได้เลยละ...ชั้นเลยไล่ไปอาบน้ำสระผม...ตอนที่นายเห็นคงจะเป็นตอนที่ยัยนั่นเพิ่งจะเดินออกมาหาแว่นที่ไม่รู้ว่าเอาไปวางไว้ไหนนั่นแหละ”

“ คะ คุณฮันซี่?”  สิ่งที่อีกฝ่ายบอกมีแต่จะทำให้ใบหน้ามนได้แต่อ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อว่านี่เขาดันทำตัวงี่เง่ากับวิศวกรสาวที่ดูจะรักเครื่องจักรมากกว่ามนุษย์เป็นๆคนนั้น


แล้วร่างโปร่งบางก็ยืนทำใจอยู่นานมาก......กว่าจะตัดสินใจก้าวขาเข้าไปในบ้านฝั่งซ้ายของคุณรีไว

แล้วยิ่งเห็นว่าคนที่ตนไปก่อวีรกรรมเอาไว้ด้วยยังนั่งยิ้มกริ่มอยู่ที่โซฟา ใบหน้ามนก็แดงเถือกขึ้นมาทันที....อายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี!


“ เอเลน~~~  น้ำเสียงกวนๆเอ่ยเรียกก่อนที่ร่างสูงโปร่งนั่นจะถลาเข้ามาหา

“ นี่ๆ เรื่องของเธอกับรีไวน่ะ คนเค้ารู้กันทั้งเฟอร์รารี่แล้วละ ไม่ต้องเที่ยวไปตะโกนบอกใครหรอกนะว่า คุณรีไวเป็นของผมนะ!’ น่ะ...อุ๊บ...ฮ่าๆๆๆๆๆ” 

“ อ๊า!!! พอทีเถอะครับผมอายจะตายอยู่แล้ว!!”   ใบหน้าร้อนผ่าวได้แต่ก้มลงไปบนฝ่ามือของตัวเอง จากนี้ไปคงโดนล้อไปตลอดชีวิตแน่ๆ บ้าจริง!

“ นี่ยัยแว่นบ้า...เมื่อไหร่จะไสหัวกลับไปซักที”  เสียงทุ้มเอ่ยไล่อย่างไร้เยื้อไย...นี่เขาไปหึงคนที่แทบจะเตะกันตายอยู่ทุกวันแบบนี้ได้ไงกันนะ!

“ แหมๆ พอใช้เสร็จก็จะถีบหัวส่งเลยนะ รีไวบ้าที่สุด!

“ จะไปดีๆไหม?”

“ โอเคร้~~~ ไปแล้วก็ได้! ไปก่อนนะเอเลน~~ ฮ่าๆๆๆๆ ชั้นชักอยากจะมีแฟนน่ารักๆแบบนี้บ้างแล้วอ่ะรีไว ขอได้ไหม~

“ รีบๆไสหัวไปเลย!


แล้วบ้านฝั่งซ้ายในเขตอุทยานของมาราเนลโลก็กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง...

นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองเศษอะไหล่ที่กระจายเกลื่อนอยู่เต็มโต๊ะหน้าโซฟารวมไปถึงอุปกรณ์ประกอบรถบังคับวิทยุที่ยึดพื้นที่กว่าค่อนของห้องนั่งเล่นไปครองด้วยความรู้สึกดีใจจนเผลอยิ้มออกมา...เพราะเขารู้น่ะสิว่าการประกอบรถมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ถึงคุณรีไวจะเก่งสารพัดเรื่องขนาดไหนแต่การต้องมาศึกษาชิ้นส่วนต่างๆที่ไม่คุ้นเคยแบบนี้มันต้องใช้ความพยายามมากเขารู้ดี

แค่คิดว่าทุกอย่างนี้คุณรีไวทำเพื่อเขา ร่างกายมันก็ราวกับจะลอยขึ้นมาให้ได้...ดีใจ...ดีใจจริงๆ

เขาลอบมองแผ่นหลังกว้างที่ยืนล้างอะไรอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัว...จริงสิ!...เขามาที่นี่ก็เพราะจะเอาช็อกโกแลตมาให้ แล้วตอนนี้ช็อกโกแลตของเขามันไปไหนแล้วล่ะ?!

มัวแต่วิ่งหนีอีกฝ่ายจนไม่รู้ว่าเอาไปวางไว้ไหน อ้า!! นายนี่มันงี่เง่าจริงๆเอเลน!


แล้วในขณะที่ร่างโปร่งบางกำลังเดินวนไปวนมาพลางกวาดสายตาหาถุงกระดาษที่ไม่แน่ใจเลยว่ามันจะอยู่แถวนี้หรือเปล่า ฝ่าเท้าของเจ้าของบ้านอีกคนก็เดินเข้ามา

“ นี่ของนายหรือเปล่า?”   น้ำเสียงนิ่งทำให้เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง ใบหน้าสวยที่ล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีเงินดูเย็นชาตามปกติ มือบางยื่นถุงกระดาษของเขามาให้

“ ...อ๊ะ.....ขอบคุณนะ....ของชั้นเอง....”   เขายื่นมือไปรับด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างรู้สึกซาบซึ้งใจที่อีกฝ่ายอุตส่าห์เก็บไว้ให้

“ เอาไหม? พอดีที่ช็อปให้มาเยอะ”  แล้วมือขาวผ่องอีกข้างก็ยื่นช็อกโกแลตของเฟอร์รารี่มาให้ ทำให้เขาหลุดหัวเราะออกไป...แค่นึกถึงภาพของทั้งสองคนในซุปเปอร์มาเก็ตก็รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก แต่ก่อนที่จะได้ยื่นมือไปรับ เสียงแง้วๆอะไรบางอย่างก็ดังอยู่ข้างหลัง

“ ของชั้นนะ! นายเอาไปให้คนอื่นได้ไง! โกคุเดระใจร้าย~~”   มือใหญ่สอดมาจากด้านหลังก่อนจะคว้าทั้งช็อกโกแลตทั้งร่างบอบบางกลับไป

“ แกก็ได้ไปตั้งเยอะแยะแล้วไง?! เป็นหมีบาดเจ็บกินมากได้ที่ไหน?! เอามานี่นะไอ้บ้ายามาโมโตะ!”   ใบหน้าสวยที่ความเย็นชาหายไปหันไปตะโกนเรียกร่างสูงใหญ่ที่คว้าช็อกโกแลตแล้วเดินหนีกลับบ้านฝั่งขวา ก่อนที่โกคุเดระจะหันมาพยักหน้าขอโทษแล้วเดินตามร่างสูงใหญ่ไป

“ ไอ้หมีนั่นมันยังอยู่อีกหรอ?!”   เสียงทุ้มของคุณรีไวทำให้เขาสะดุ้งโหยง แล้วก่อนที่คุณผู้ปกครองจะได้ก้าวขาออกไปเขาก็รั้งตัวเอาไว้แทบไม่ทัน

“ คุณรีไว! นี่ครับ!!”   กล่องช็อกโกแลตที่เขายื่นให้ทำให้สองขาที่เตรียมจะก้าวไปยังบ้านอีกฝั่งถึงกับชะงักค้าง ใบหน้าคมจ้องมองของในมือเขาไม่วางตา ราวกับว่านี่มันเป็นช็อกโกแลตชิ้นแรกที่อีกฝ่ายเคยได้รับ


ไม่หรอก....


ถ้าเป็นช็อกโกแลตน่ะ เขาได้มาจากแฟนๆของเฟอร์รารี่จนนับไม่ถ้วน

แต่ถ้าเป็นช็อกโกแลตที่ได้จากคนที่รักละก็...ชิ้นนี้เป็นชิ้นแรก....

ความรู้สึกแปลกๆมันแทรกซึมเข้าไปในหัวใจ...ทั้งๆที่ไม่เคยสนใจเทศกาลที่ดูไร้สาระนี้เลย แต่พอได้ลองสัมผัสมันดู...ก็รู้สึกว่าไม่เลวนักหรอก

“ ชั้นไม่ชอบกินของหวาน”  แต่แทนที่มือจะรับช็อกโกแลตนั่นมาประโยคที่ฟังดูใจร้ายกลับเอ่ยออกไปพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์....ก็แค่อยากจะรู้ว่าเจ้าเด็กเหลือขอนั่นจะทำยังไง...

“ มะ......”   ใบหน้ามนชะงักไป นัยน์ตาสุกใสมองรอยยิ้มที่มุมปากของอีกฝ่ายด้วยความสงสัย....ที่บอกว่าไม่ชอบกินของหวานน่ะโกหกแน่ๆ...เพราะเมื่อวันก่อนยังแย่งเค้กที่เขาซื้อมากินอยู่เลย...ถึงวิธีแย่งมันจะ.............ไปหน่อยก็เถอะ

วิธี....งั้นหรอ?....อย่าบอกนะว่า.....

ริมฝีปากสีระเรื่ออ้าค้างน้อยๆก่อนที่สองแก้มจะขึ้นสี....ทำไมเขาถึงได้หลงกลซาตานใจร้ายนี่ได้ทุกทีกันนะ!

ถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องไปอยากให้อีกฝ่ายกินมันเข้าไปขนาดนี้ด้วย แต่มือก็แกะกล่องช็อกโกแลตด้วยใบหน้าอยากเอาชนะ แก้มใสป่องออกมาเพราะริมฝีปากเม้มแน่น...ไม่ชอบของหวานใช่ไหม...ได้...เดี๋ยวเขาจะทำให้มันเป็นช็อกโกแลตที่ดีที่สุดในโลกให้เอง!

ปลายนิ้วหยิบชิ้นช็อกโกแลตใส่เข้าปากของตัวเองก่อนที่มันถูกบดขยี้ด้วยฟันแล้วคละเคล้าไปด้วยน้ำลายฉาบไล้อยู่ทั่วโพรงปาก ปลายลิ้นแลบเลียออกมานอกริมฝีปากทั้งๆที่สายตาก็ยังคงจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าคมที่ต้องข่มความรู้สึกของตัวเองเพราะเจ้าเด็กตรงหน้าไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังยั่วเย้าอีกฝ่ายขนาดไหน ใบหน้ามนยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าที่ยังนิ่งเฉยก่อนจะแตะริมฝีปากลงไปช้าๆ กลิ่นที่หอมหวานโชยมาแตะจมูกพร้อมๆกับเรียวลิ้นที่สอดใส่เข้าไปเพื่อล่อลวงลิ้นของอีกฝ่ายให้ตามเข้ามากินช็อกโกแลตในปากของตัวเอง

ช็อกโกแลตค่อยๆถูกกวาดต้อนออกไปจากโพรงปากอย่างเชื่องช้าทว่าค่อยๆทวีความเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆจนสองมือบางต้องตวัดไปโอบรอบคอของคนที่ไม่ชอบกินของหวานเอาไว้และกว่าจะออกจากกันได้ ทั้งอากาศที่จะใช้หายใจ ทั้งช็อกโกแลตก็แทบจะไม่มีเหลือ

“ แฮ่ก..แฮ่ก...อร่อย...ไหมละครับ...”   ใบหน้ามนที่ยิ้มน้อยๆราวกับเป็นผู้ชนะนั่นมันทำให้ใบหน้าคมนึกหมั่นไส้จนยื่นปลายจมูกเข้าไปคลอเคลียกับปลายจมูกรั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

“ ฮะ ฮะ ฮะ...”  เสียงหัวเราะคิกคักทำให้ใบหน้าคมหยุดมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างรู้สึกสุขใจ สองแขนรั้งเอวบางเข้ามากอดเอาไว้ก่อนจะกระซิบลงไปที่ใบหู

“ สำหรับชั้น...มันมีช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลกอยู่นะ...อยากเห็นไหม?”

“ เอ๋....?”  นัยน์ตาสีมรกตเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างปิดไม่มิด และนั่นมันก็ทำให้เขาลอบยิ้ม

ร่างที่ไม่ได้สูงใหญ่ทว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าใครลุกจากโซฟาก่อนจะคว้าช็อกโกแลตในมือบางไปด้านหลังเคาน์เตอร์ หม้อใบย่อมถูกวางลงไปบนเตาไฟแล้วไม่นานช็อกโกแลตก้อนที่เคยอยู่ในกล่องอย่างสวยงามก็ลงไปหลอมละลายรวมกันอยู่ก้นหม้อ ทำเอาคนที่ให้มันมาได้แต่อ้าปากค้าง

“ แน่ใจนะครับว่ามันจะอร่อยที่สุดในโลกน่ะ?”   เสียงที่ถามออกมาฟังดูไม่เชื่อเด็ดขาดแต่เขาก็ทำเพียงยักไหล่รอจนช็อกโกแลตกลายเป็นของเหลวไปจนหมด

“ อร่อยที่สุดแน่นอน”   เขาหันไปบอกเด็กนั่นก่อนจะคว้าข้อมือบางเอาไว้แล้วลากให้เดินตามขึ้นไปบนชั้นสองโดยที่อีกมือมีหม้อช็อกโกแลตที่ค่อยๆอุ่นขึ้นเรื่อยๆ

ร่างโปร่งบางถูกเหวี่ยงลงไปบนเตียงก่อนที่เขาจะจัดการถอดเสื้อผ้าคนที่ยังงงจนเหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่า

“ อื้อ?!”   ปลายนิ้วกวาดช็อกโกแลตเหลวขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะใส่เข้าไปในริมฝีปากสีระเรื่อ ใช้ทั้งความหวานทั้งนิ้วที่ช่ำชองหยอกล้อเรียวลิ้นไร้เดียงสาจนร่างโปร่งบางเคลิบเคลิ้มจนไม่ได้รู้ตัวเลยว่า....ช็อกโกแลตอุ่นๆทั้งหม้อกำลังไหลอยู่บนลำตัวของตัวเอง...


เคร้ง...


จนกระทั่งเสียงหม้อกระทบกับพื้นเมื่อเขาวางมันลงไป.... “เจ้าช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก” ถึงเพิ่งได้รู้ตัว

“ คะ คุณรีไว?”   นัยน์ตาสีมรกตที่โตเท่าไข่ห่านผงกหัวขึ้นมามองสภาพของตัวเอง สองมือพยายามจะห้ามแต่คงไม่ทันแล้วละ...ใบหน้าของเขาก้มลงไปใกล้ช็อกโกแลตที่ไหลย้อยอยู่ที่ต้นขาก่อนจะเสยสายตาขึ้นมามองใบหน้าที่แดงระเรื่อ


“ จะกินละนะ”







.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

To be Con.






ที่เหลือไปจิ้นต่อกันเองแบ้วกันนะ กร๊ากกกกก (โดนหม้อช็อกโกแลตปาหัวแตก)

สุขสันต์วันแห่งความรักนะค้า ^ ^ ขอให้มีความรักอยู่รอบตัว ใครอยากมีรักก็ขอให้สมหวังในรัก หรือใครอยากให้ใครรักใคร(?)ก็ขอให้เป็นไปตามนั้นน้า อิอิ

ส่วนตอนนี้ก็ขออภัยในความล่าช้า ทั้งๆที่ประกาศกร้าวเอาไว้ในเฟสว่าจะลงตอนที่ 14 นี้ในวันที่ 14 เดือน 02 ปี 2014 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ทันจนได้ *กระซิก* นะ...เลยส่งหนูก๊กขับเฟอร์รารี่เอากุหลาบแดงไปเป็นตัวประกันไว้ก่อง แปะรูปซะเลยนี่แน่ะ













ตอนนี้หมีบาดเจ็บ เพราะงั้นเลยเปลี่ยนคนนั่งข้างๆนิดหน่อย >/////< เอาเหมียวไปเป็นเพื่อนก่องนะหนูก๊ก


แล้วเจอกันตอนหน้านะค้า ^ ^





8 ความคิดเห็น:

  1. กรี๊ด~~~~~~~~~~~~
    อ่านจบแล้วอยากสครีมมากค่า~~~~~~~~ พี่กวาง~~~~~~ พี่กวางทำหนูหัวใจวาย~~!!!!!!!!!!!!
    ม่ายก็อด! จะเอาต่อๆ อยากเพิ่งตัดจบ!!! //ตะกุยตะกายหน้าจอคอมด้วยความบ้าคลั่ง
    มันเป็นอะไรที่เรียกเลือดได้แบบสุดยอดมากค่ะ =.,= (อยากกินช็อกโกแลตด้วย//ไม่ใช่แระ)
    อย่าให้มโนต่อเลยค่ะ แค่มโนฉากก่อนตัดจบก็จะดิ้นหัวโขกฝาผนังตายแล้วค่ะ โฮรก~~
    เอเลนลูก~ เอเล๊นนนนนนนนนนนน เขาจะกินหนูแล้วลูก รู้สึกตัวช้าไปนะคะ อุคริ~

    ยังยืนยันคำเดิม...เอลวินคือทุกสิ่ง!! มาตอนนี้พี่ท่านมีอาชีพเป็นคนเก็บศพ(หมี?)อีก กร้าก~
    ยามะก๊กหวานไป รีเอหวานกว่า!! โอ้แม่เจ้า!! ชอบตอนที่รีไวกังวลตอนที่ยืนมองเอเลนนั่งตรงหญ้าริมแม่น้ำอ่าค่ะ คุณพี่ลงทุนขับ(บิน)มาง้อเลยทีเดียว มโนภาพคุณพี่แล้ว โอ้~ มันช่างได้อารมณ์ดียิ่งนัก =w=//

    ปล.คุณหมีไปอดอยากช็อกโกแลตมาจากไหนละคะเนี่ยยย = =;;; //จบการเวิ่นเพียงเท่านี้ #ชิ่งงง

    ตอบลบ
  2. โฮรว ไปสครีมในทวิต(ตัวเอง) ในเฟสท่านกวางแล้วขอมาในนี้ต่อ
    ตอนนี้อ่านแล้วโดกิๆทั้งตอนเลยค่ะ จั๊กจี้หัวใจมากแง่งงงงงงง
    ชอบตั้งแต่ตอน คุณเป็นของผม!!!! ฉากวิ่งไล่ตามกัน (เขากำลังดราม่ากันทำไมฉันยิ้มไม่หุบ)
    ฉากรถวิทยุมาง้อ โอร้ยยย ตายไหมม ตาย รีไวซังเอเลนคุงไม่ตายค่ะ อิฉันนี่แหละตาย
    ฉากป้อนช็อคโกแลตนั้นว่าจิกหมอนแล้วนะ เจอฉากช็อคโกแลตราดตัว แล้วจบด้วย กินแล้วนะ หมอนอิชั้นไม่เหลือแล้วค่ะ
    กร๊าซซซซซซซซซว ช็อคโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลก อยากกินบ้างงฟฟฟ

    โกคุคุงหนูเริ่มจะซึนแตกทีละนิดแล้ว ฮงฮง อะไรหนู โฮรวววววววว เริ่มหลงหมีแล้วก็บอกมา
    //โดนตบ เอาจริงๆรู้สึก โกคุงคุงนี่อารมณ์พี่ชายเอเลนมากเลย ก๊ากกกกกก

    บรรยากาศตอน4คนนี้อยู่ด้วยกันมันคล้ายๆครอบครัวสุขสันต์มากเลยค่ะ TvT
    จะรออ่านตอนต่อไปนะคะะะ

    ตอบลบ
  3. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เป็นตอนที่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ล้มตัวไปกลิ้งกับฟูก แล้วเอาหน้าซุกหมอน 5555
    สมกับที่เป็นวาเลนไทน์เลยค่ะ มดออกมาเดินสวนสนามที่หน้าจอคอมเลยทีเดียว กร๊ากกกกกก
    กำลังอ่านหนังสือเครียดๆ แต่แอบดอดมาอ่านทำให้กระชุ่มกระชวยใจจริงๆ เลย 55555 (อยู่ในช่วงฤดูกาลสอบปลายภาคค่า แง้ อ่านแล้วเม้นบ้างไม่เม้นบ้างนี่ขออภัยพี่กวางจริงๆ คือบางทีอ่านในโทสับแล้วมันพิมพ์ไม่ถนัด)

    คู่ยามะก๊กที่ก็เริ่มเข้าที่เข้าทางขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เปิดมาก็หวานซ๊าาาา แล้วยังมีสตอกเกอร์ตัวน้อยคอยแอบถ้ำมองซะอีก 55555 เอเลนลูก นับวันหนูยิ่งทำตัวเป็นสาวน้อยช่างฝันขึ้นทุกที แอบมองคนเป็นแฟนกัน (?) เค้าจู๋จี๋กัน แล้วก็เกิดอาการเขินแทน แอบยิ้ม นี่มันอาการสาวน้อยชัดๆ ( 55555 เข้าใจเลย นี่มันอารมณ์ตอนอ่านฟิคชัดๆ!!) ลงทุนขับรถไปอีกเมืองเพื่อหาซื้อช็อกโกแลต มันน่ารักชะมัดเลยยยย

    ฉากไปถึงบ้านรีไว นี่มันชวนใจเต้นตุ่มๆ ต่อมๆ แล้วก็โป๊ะเช๊ะเลย ไปเจอฉากชวนเข้าใจผิดซะแล้วนะลูก ตอนแรกคิดว่าเอเลนจะปาดน้ำตาแล้ววิ่งหนีไป (?) แต่ลูกกลับหักมุม เข้าไปประกาศความเป็นเจ้าของเลยซะงั้น (ฉากนี้คือแอบกรี๊ดออกมาด้วยอ่า อมยิ้มแก้มแทบแตก 55555) ก็เดาๆอยู่ว่าผู้หญิงนั้นเป็นใครกันนะ อย่างรีไวไม่น่ารู้จักผู้หญิงคนไหนจนถึงขั้นให้เข้าบ้านได้ ก็เดาว่าเป็นฮันซี่ แต่แบบ....เห็นพี่กวางบรรยายเหมือนสาวคนนั้นจะสวย เลยตัดชอยส์เจ๊ฮันซี่ทิ้งไปเลยอ่า (หมายความว่าไงว๊าาา 55555)

    ฉากง้อนี่ก็ทำหัวใจเต้นอีกแล้วววว เฮย์โจวน่ารักมากเลยค่ะ เอเลนก็อ้อนมากๆ ด้วย งื้อออออออออ
    แต่ที่เด็ดสุดคือฉากสุดท้าย มัน เรียก เลือด มากกกกกก ฮื้อออ ทำไมตัดจบเยี่ยงนี้ละคะ T^T 5555555

    ตอบลบ
  4. ตอนที่แล้วเม้นไม่ติดรวบยอดมานี่เลยล่ะกัน555
    กะแล้วว่าร้านที่เฮียรีไวไปข่มขู่(?)นี่ต้องเป็นร้านเดียว..อะไหล่อันเดียวกับที่เอเลนสั่งอะไหล่แหง่มๆ= =; ถ้าใจจะตรงกันขนาดนี้น่ะนะ555
    แล้วไหนยังจะชุดนอนหนูเอเลนอีก=,,= แค่คิดว่ามันเป็นเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เพียงตัวเดียวที่ปิดตัวบางๆผิวขาวๆนวลๆระต้นขารำไร..แล้วเวลานอนดิ้นมันก็ถลกขึ้นนี่ก็.......//เอาทิชชูอุดรูจมูก
    ไหนวิ่งออกมาหาเสี่ยอีก...ระวังโดนลากไปข่มขืนนะหนูจ้าาาา(อย่าถามหาถึงคนร้ายล่ะ//ซุ่ม) เห็นแกว่าไปหาเสี่ยหรอกน้าาา....
    แต่แอบเสียดายนะที่เฮียไม่จัดในห้องเรียน(น่าจะเร้าใจดีนะ)//โดนไททัน15ม.กระทืบ
    บ่าย2ถึง2ทุ่ม..ว่าแหละว่ามันคือ.....แก่ก็แก่แล้ว(โดนทีบ)ไปเอาแรงมาจากไหนเนี่ย? ที่เขาว่าถ้าเป็นคนรักแล้วจะลามกแล้วก็หื่นแล้วก็แรงดีนี่สงสัยคงจริงแหะ//แอบมองจากช่องแอร์ในโรงแรม

    แล้วก็เล่นเอาไม่รู้จะสงสารใครดีเลยล่ะ..ระหว่างหมีที่จะโดนฝังทั้งเป็นกะเอลวิน สมิทที่รับจ๊อบเบ็ดตะเล็ท..ทีมบอสเอย...ช่างปะปาเอย..หัวหน้ารักษาเขตพันธุ์สัตว์ป่า ล่าสุดนี่มูลนิธิร่วมกตัญญูใช่ป่ะ บทไม่มีแต่ก็รับจ็อบเบ็ดตะเล็ทจริงๆ จบเรื่องนี้พี่แกจะรับจ็อบกี่อย่างกันหว่า?4แล้วนะ

    ฉากสโตรก...ช่างมัน...แต่ตอนไปบ้านนี่กะแล้วว่าต้องเป็นงี้...แล้วก็คิดว่าหนูเอเลนจะวิ่งออกไปซะอีก ..ปรากฎว่าวิ่งจริงครับแต่คนล่ะทางกะที่คิด..วิ่งไปประกาศกร้าวก่อนหนีไป =[]=!? เดี๋ยวหนูจ๋า..ทำป๋าเงิบ
    ฉากง้อนี่มันช่างงงงงง...อา เล่นเอาต้องลุกไปหยิบหมอนมานั่งกอดไปอ่านไปเลยอ่ะ ไหนยังจะประโยคเด็ดประจำคู่.."นายเกลียดฉันรึเปล่า?" ลงไปกลิ้งกะพื้นได้ทำไปแว้วววว

    ส่วนช็อกโกนี่กะแล้วว่าต้องเป็นงี้...อาอยากกินมั่งจัง//แอบใต้เตียงพลางกัดหมอน
    แต่ตอนจบนี่ตัดซะ.....เฮ้อออออออออค้างจัง... จะมี14.5หน่อยไหม? เจ๋งนะหุๆ

    เห็นพี่เงียบๆกับแปลนเลยไม่กล้าพูด..ไหนๆพี่พูดแล้วก็....ขอทวงเลยแล้วกัน แบบแปลนบ้านขอหลังจากที่พี่ปั่นงานทั้งกลายแหล่เสร็จแล้วด้วยนะครับ
    อย่าป่วยไปก่อนนะครับ..รักษาสุขภาพด้วยนะฮะ(มันห่วงอะไรกันแน่?)

    ตอบลบ
  5. พาร์ทนี้ขึ้นต้นมาก็ไม่ทนแล้วโฟ้ยยยยยค่ะ~~~!!!!!!!!!!!!!!!!!! > _________ <

    รอมานานไอ้บรรยากาศแบบนี้ของคู่นี้ ฮืออออออ ดิ้นแล้วดิ้นอีก
    หนูก๊กน่ารักมากกกกกก ปากแบบนั้น คำพูดไม่ตรงกับใจแบบนั้น
    แต่การที่ซื้อทั้งข้าวต้มมาให้ เทให้ มันก็สุดๆแล้ว
    แต่ไอ้กุญแจบ้านนนนนนนนนนนนนนนั่น
    มันคือการตกลงยอมรับเป็นภรรยาแล้ววววไม่ใช่เหรออออ #เดี๋ยวๆหล่อน

    เก๊าฟินจนไม่รู้จะฟินยังไง T ___ T ฮือออออ แล้วการให้สัตย์สาบานของยามะนี่แบบ…..จุมพิตที่มือ!!!!!!!!!!!!!!! โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก #เอลวิน(?)มาเก็บไก่ที(?) รู้สึกจะเยอะไป(?)
    ง่า ชอบบบบบบบบบบบบบจริงจัง!!!!!! ชอบยามะแบบนี้ ชอบยามะที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คิดแต่จะปกป้องหนูก๊ก ชอบที่แม้กระทั่งชีวิตก็ยอมแลกให้ถ้าเพื่อหนูก๊ก ชอบที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะไม่ยอมให้อีกฝ่ายเจ็บไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร ชอบที่มักจะโผล่มาช่วยทุกครั้งที่อยู่ในอันตราย โอ่ยยยยย แกมันพระเอกไปไหนเนี่ยยยยยยยย #นอนฟินตายยยย #เอลวินไม่ต้องเก็บศพฉัน ฉันตายแปบเดียว 5555555555555 #ตูจะโดนเอลวินปาวิกผม(?)ใส่ #เค้าแซะเพราะเค้ารัก(?)น้า T _ T อย่ากระทืบเค้าซิ
    แล้วสวีทกันที่บ้านไม่พอ ไปสวีทต่อที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกกกกก ตูจิ้นเองเลยว่าทำไมต้องใช้รถท่านท่อนขา เพราะถ้าใช้รถเปิดประทุนแล้วเดี๋ยวลมตีแผลตีหน้าคุณสามี(?)แล้วเอลวินจะได้มาทำงานพิเศษ(?)ใช่มั้ยยยยย 5555555555 คือได้ข่าวคนแต่งเขาต้องการให้หนูเอเลนตามไปอย่างเข้าใจผิดเพราะต้องการจะสตอลเกอร์แฟนตัวเองว่ากำลังปิดบังทำอะไรอยู่ไม่ใช่หรือนั่น แต่จริงๆแล้วมาคิด(เองเออเอง(?)) แล้วกลายเป็นฉากนี้ได้หลายมุมเลย (ตัดมุมมองบ้าบอของเราออก) ฉากนี้ก็ทำให้เอเลนไม่ต้องสับสนในเรื่องของหนูก๊กแล้ว สาวๆ(?)จะได้มุ้งมิ้งกันสนิทสนม(?)ซะที #หือออ แถมยังเข้าใจท่านท่อนขามากขึ้นว่าจริงๆแล้วก็กับหนูก๊กทำตัวเหมือนพ่อไม่ต่างจากพ่อตัวเอง(?)ที่กีดกันความรักลูก(?) คือไม่ใช่แค่เอเลนที่หัวเราะจนตัวงอ ทางนี้นี่งอจนเบี้ยว(?)เลยค่ะ 5555555555555

    แล้วไอ้อาการอ้อนของเพชฌฆาต นี่มันอาร๊ายยยยย~~~~~~~~ ให้ตายเหอะ ลุคผู้พิทักษ์แห่งพิรุณนี่ไม่เหลือเลยนะเวลาอยู่กับภรรยาแบบนี้เนี่ยยยย > __ < อ้อนจะเอาช็อกโกแลตวาเลนไทน์ได้น่ารักไปไหนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! แม่เจ้ามัว มานะ นะ อยู่นี่จะได้กินมั้ย(?) อุ้มคนปากไม่ตรงกับใจไปกินแทนช็อกโกแลตเถอะ มันอร่อยกว่าเยอะ(?)จริงจัง(?) #เดี๋ยวๆ ไอ้นี่มันวกเรื่องลากเข้าโซนตลอด > _________ < ฮืออออออ รักคู่นี้จริงจัง

    พาร์ทนี้ขอสารภาพแบบอายๆ(?)เลยค่ะกวางซามะ เค้า….แอบน้ำตาคลอเบ้า(?)ด้วยล่ะ T _ T มันโดนง่ะ ซึ้งด้วยง่ะ เมื่อมันอัดแน่นมานานแล้วในความรู้สึกของเอเลน เอเลนที่พยายามทุกอย่างไม่ให้อีกฝ่ายเบื่อ หรือเลิกชอบตัวเองไป แม้จะดื้อแต่ก็พร้อมยอมให้ทุกๆอย่างถ้าเพื่อคุณรีไว ช็อกโกแลตก็ตั้งใจอยากให้อีกฝ่ายแม้ว่าจะลืมวันลืมคืนไปแล้วด้วยซ้ำว่ามันคือวันวาเลนไทน์ ไหนจะปนผสมเข้ากับความสับสนไม่เข้าใจว่าคุณรีไวปิดบังอะไร ทำไมถึงไม่ให้ไปที่บ้าน และพอได้คำตอบว่าเพราะมีผู้หญิงคนอื่นที่ตัวเองไม่ทันจะดูให้ดี(?)ว่าใคร ก็เตลิดเลย แต่เค้าชอบมากนะคะ ที่เอเลนไม่ใช่นางเอกผู้แสนดี(?) การที่เอเลนเข้าไปหลับหูหลับตาตะโกนว่าคุณรีไวเป็นของผม มันใช่อะ!!!!!!!!! นี่แหละเอเลน!!!! ดื้อยังไงก็ดื้อแบบนั้น แม้ว่าจริงๆแล้วตัวเอเลนเองไม่ได้มีความเข้มแข็งมากพอจะยอมรับเรื่องเจ็บปวดได้เลยสักครั้งก็ยังจะดื้อรั้น ทั้งๆที่ก็ไม่ยอมยกคุณรีไวให้ใครแต่ก็กลับไม่มีความมั่นใจพอว่าสามารถอยู่ข้างๆคนๆนั้นได้หรือเปล่าอีก โอ่ยยยยเจ้าลูกหมาาาา มันจะไปทนไม่ฟัดได้ยังไงฟ่ะ!!!!!

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แอบคิดอยู่นานว่ารถคันนี้จะถูกส่งมอบให้เอเลนในสภาพแบบไหน พอได้อ่านแล้วแบบ….. น้ำตามาเลย!!!!! กระดาษสีขาวที่มีแค่ประโยคเดียวนั่น ประโยคที่สื่อได้ทุกความหมายของผู้ชายที่ชื่อรีไว กับรถบังคับที่ดูยังไงก็รู้ว่าไม่สามารถไปหาซื้อที่ไหนมาให้ได้……ตอนเอเลนกระโดดเข้าไปกอดนี่ น้ำตาเต็มเบ้าเลย!!!!!!! …..ฮือออออ ชอบจนไม่รู้จะบอกยังไงดีแล้วจริงจัง > ___ < อ่านแล้วอ่านอีกจริงๆนะค่ะพาร์ทนี้ !!!!!!!!!!!! ฮือออออ สมเป็นฟิควันวาเลนไทน์จริงจัง
      เค้าชอบที่สองสาว(?)เกือบได้ให้ช็อกโกแลตกัน(?)สำเร็จ(?)แล้วมากๆๆเลย แต่ไอ้หมี(?)ที่มันบอกว่ามันบาดเจ็บพิการ(?)มันถลามาคว้าช็อกโกแลตคืนไปซะอย่างนั้น #จิ๊จ๊ะ(?)

      และเหนือสิ่งอื่นใด ช็อกโกแลตที่อร่อยที่สุดในโลกนั้นน่ะะะะะะ โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ไหวจะทน > ____ < แค่เวอร์ชั่นแรกว่าไม่ชอบกินของหวานจนต้องป้อนกันทางปากก็สครีมแล้ว มาเจอเวอร์ชั่นอร่อยที่สุดในโลก ก็พอดีเอลวินมาเก็บศพ #เราจะระราน(?)เอลวินจนกว่าจะจบการเม้นท์ 555555555 #ขอบ้างจิ(?)เวอร์ชั่นอร่อยที่สุดในโลกง่ะเก๊าก็อยากกิน(?)ง่ะ > _ <

      ไอ้หมี!!!!!!!!!!!! เอ็งหัดดูพ่อตา(?)ไว้เป็นตัวอย่างบ้างสิฟ่ะ(?) ไม่ใช่ว่าได้แค่ช็อกโกแลตแล้วพอใจ มันใช้ไม่ได้(?)เข้าใจมั้ยยยย 5555555 #ตกลงมันต้องการอะไร

      ฮืออออออออ ขอครวญอีกรอบ เป็นฟิคสมวันวาเลนไทน์จริงจัง > ___ <
      เค้าดีใจที่ได้อ่านมากๆๆจริงๆ รักฟิคกวางซามะมากๆๆจริงๆๆค่ะ
      สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังอย่างแรง(?)ด้วยนะคะ
      รูปหนูก๊กขับเฟอร์รารี่พร้อมดงดอกไม้นั้นมันโฮกมากกกกกกก ชอบมากๆๆๆๆ
      รักษาสุขภาพด้วยนะคะกวางซาม๊า~ <3 <3 <3

      ลบ
  6. Glide 14

    อรั้ง พี่กวางขา!!!
    ตอนนี้คู่ก๊กน้อยกับพ่อหมีใหญ่น่ารักมากอะ อบอุ่นหัวใจจริง ๆ เค้ารู้นะ ว่าใจจริงเนียนน่ะไม่อยากแค่จูบที่หลังมือ อยากจะดึงมากอดเลยด้วยซ้ำ อ้าก! แล้วออร่าจากบ้านพ่อตานี่มันอะไรคะ จะหวงลูกสาว?รุนแรงเกินไปแล้วนะ ยก ๆ ให้เค้าไปเถอะ ลุ้นมานานแล้วนะ หิหิ

    แล้วก็หนุเอเลน วางใจได้แล้วน๊า เรื่องป๋าของตัวเองน่ะ หิหิ // ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นฮันซี่เลยค่ะ พี่กวางบรรยายซะสวยเกินไป 555 ...นึกภาพตอนเอเลนตะโกนว่าเค้าเป็นของผมนะ! คือแบบ มันเป็นอะไรที่ซาบซึ้งแทนป๋ามากค่ะ ตอนงอนง้อกันนี่น่ารักน๊า แอบกลัวรถพังนิด ๆ ตอนป๋าปา ...นึกภาพป๋าตอนกำลังจะโยน... (((>_<)))

    ช็อคโกแลตที่อร่อยที่สุดสำหรับป๋า มันเป็นอย่างนี้เองสินะ!!!! ฟินไปไกล ♥♥♥

    สู้ ๆ นะคะพี่กวาง อิอิ

    ตอบลบ
  7. สารภาพว่าไม่ได้ตามอ่านนานมากกกกกกก
    จนเรื่องจบแล้ว
    รู้สึกอนาถตัวเองทันที

    ตอนนี้คือทั้งเขินทั้งฟินอ่ะ
    และขำเอเลนด้วย
    น้องดูสนุกกับการได้ตามส่องยามะกับก๊กดีนะคะ
    บอกเลยค่ะว่าคนอ่านแอบอิจฉาและอยากจะสิงร่างน้องทันที เผื่อจะได้ตามติดคู่นั้นแบบใกล้ชิดมั่ง

    แล้วนั่นอะไรล่ะหนูเอเลน
    หึงใครไม่หึง
    ผู้หญิงคนนั้นดันเป็นเจ๊ฮันซะงั้น
    ทีนี้ล่ะโดนล้อยันลูกบวชแน่
    เอ้ย
    รีไวล์กับเอเลนคงมีลูกไม่ได้
    เอาเป็นว่าต้องโดนล้อไปตลอดชีวิตแทนละกัน
    แถมตอนที่ท่านตามน้องนี่น่ารักมาก
    และทีเด็ดมันอยุ่ตรงนี้ " นายเกลียดฉันหรือเปล่า?” //ทุบหมอนรัวๆ
    ถ้าน้องเกลียดท่านคงไม่ยอมกลายร่างเป็นช็อกโกแลตให้หรอกค่ะ//ซับเลือดแป๊บเพราะมโนมากไป

    ตอบลบ