KHR AuS.Fic HBD.Yama [8059] --- Heart of DEMON : หัวใจราชันย์ ---


---  Heart of DEMON : หัวใจราชันย์ ---


: KHR Fanfiction Au
: 8059
: Period Romance Dark Fantasy Angst 
: NC-17 ++


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ







นานๆทีจะได้เห็นราชันย์แห่งรัตติกาลนอนหลับนิ่งสนิทขนาดนี้


นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าคมที่ยังคงหลับใหลไม่รู้สึกตัว...จริงๆแล้วเขาก็ไม่ใช่คนตื่นสาย แต่ทว่าเกือบทุกครั้งที่ลืมตาขึ้นมาก็มักจะถูกนัยน์ตาสีเปลือกไม้นั่นจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว....นี่จึงเป็นโอกาสอันหาได้ยากที่เขาจะได้เป็นฝ่ายมองอีกฝ่ายยามหลับแบบนี้บ้าง


เอ๊ะ?! แล้วจะอยากมองไปทำไมกันล่ะ?


ใบหน้าสวยสะบัดไปมากับความคิดของตัวเอง รู้สึกอายขึ้นมาจนใบหน้าเริ่มจะร้อนผ่าว


เขาตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากโบสถ์  ร่างสูงใช้เวลาเป็นวันๆไปกับการนอนหลับเพื่อรักษาบาดแผลที่แผ่นหลังซึ่งยังไม่ค่อยจะหายดี...นอกจากนั้นช่วงนี้ก็ยังไม่ได้กินอะไรเข้าไปอีก.....อย่างน้อยเขาก็ควรจะตอบแทนที่ชายผู้นั้นเคยดูแลเขายามป่วยไข้บ้าง


ร่างบอบบางตัดสินใจเดินไปยังธารน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนัก ถึงจะไม่เคยจับปลาเป็นเรื่องเป็นราว แต่เขาก็พอจะรู้วิธีอยู่บ้าง...เพราะร่างสูงผู้ซึ่งเป็นปีศาจคงไม่อาจหายด้วยผักหญ้าเหมือนกับเขา...เพราะเช่นนั้นเนื้อสัตว์เพียงชนิดเดียวที่เขาคิดว่าพอจะหาไปให้ได้ก็คงมีแต่ฝูงปลาตรงหน้าที่แหละ


แล้วเขาก็เพิ่งจะเข้าใจวันนี้เองว่าชาวประมงต้องมีความอดทนมากขนาดไหน มือบางยกขึ้นปาดเหงื่อหลังจากเหลือบมองปลาขนาดกลางในกระป๋องที่ยังคงดิ้นไปมา เขาใช้เวลาไปกว่าค่อนวันกว่าจะจับมันมาได้ ใบหน้าใสอมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงหน้าของคนที่เขาจะเอามันไปให้  มือยกประป๋องขึ้นก่อนจะก้าวเท้าออกเดินกลับเข้าไปในป่ามุ่งหน้าไปยังโบสถ์ร้าง


โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาไม่ประสงค์ดีของใครบางคนกำลังจับจ้องมองอยู่......








กลิ่นคาวเลือดทำให้เจ้าของจมูกที่ไวกว่ามนุษย์ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ นัยน์ตาสีเปลือกไม้เหลือบมองหาร่างบอบบางไปทั่วห้องก่อนจะรีบลุกขึ้นมาจากเตียง เพราะในสถานที่นี้ไม่น่าจะมีกลิ่นเลือด แล้วยิ่งร่างบางๆนั่นไม่อยู่ในสายตาก็ยิ่งกังวล ร่างสูงใหญ่ของซาตานเดินโงนเงนไปตามทางเดิน ยิ่งเข้าใกล้ห้องครัวกลิ่นคาวเหล็กก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น  ใบหน้าคมสะบัดหันไปหันมาเพื่อหาต้นตอของกลิ่น แล้วในที่สุดก็มองเห็นแผ่นหลังบางยืนอยู่หน้าเตาถ่านเก่าๆ


มือรีบคว้าไปที่ไหล่บางก่อนจะหมุนตัวอีกฝ่ายกลับมาพร้อมกับมองสำรวจไปทั่วลำตัวบาง


“ มีอะไรหรอ?”


“ ข้าได้กลิ่นเลือด...”         แต่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่เห็นรอยเลือดบนเสื้อผ้าของร่างบาง


“ อ๋อ....มาจากนี่ไง....”        แล้วมือบางก็ผายไปยังปลาย่างที่ถูกเสียบไม้อยู่ที่เตา


“ ฉันไปจับมาให้...เป็นปีศาจคงไม่ชอบกินผักใช่ไหมล่ะ...”       ในขณะที่พูดใบหน้าสวยก็เสไปอีกทาง ร่างสูงใหญ่ได้แต่อึ้งในสิ่งที่อีกฝ่ายทำให้ ทั้งๆที่เจ้านักบุญนี่แทบไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต แต่กลับไปจับปลามาให้เขา รอยยิ้มอบอุ่นเผยอยู่บนใบหน้าของซาตานก่อนที่ริมฝีปากจะจูบแผ่วเบาลงไปที่ริมฝีปากสีระเรื่อของคนที่ไม่ทันตั้งตัว


“ นี่....แต่ปีศาจเค้าไม่เอาปลามาย่างก่อนกินหรอกนะ หึหึ”        เอ่ยออกไปด้วยความเอ็นดู คนตรงหน้าหันกลับมาส่งสายตาดุก่อนจะกลับไปย่างปลาต่อ  ค่ำคืนอันสงบสุขกำลังจะผ่านพ้นไปอีกคืนแล้วอย่างนั้น.....ใช่หรือไม่....










ท่อนแขนแข็งแรงกำลังโอบกอดร่างกายและแผ่นหลังของเขาเข้าไปแนบชิดแผงอกกว้างของตัวเอง....คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ร่างสูงหลับสนิท...ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากร่างกายของปีศาจนั้นทำให้ไม่อยากจะลืมตาตื่น แต่ทว่าเสียงกอกแกกของอะไรบางอย่างก็ทำให้เขาอดที่จะลุกไปดูไม่ไหว


ตะเกียงถูกจุดขึ้นก่อนจะถือมันเอาไว้ในมือ แสงสลัวๆพาดผ่านไปยังผนังหินของโบสถ์ นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองฝ่าความมืดเข้าไปยังด้านในของโบสถ์ที่มืดสนิท ความจริงจะมีสัตว์หรือใครเข้ามาได้มันก็ไม่แปลก ในเมื่อผนังนั้นพังทลายจนเหลืออยู่แค่สองฝั่งเท่านั้น...ไร้การป้องกันโดยสิ้นเชิง


หรือจะเป็นเพราะมีร่างสูงใหญ่อยู่ข้างกายตลอดเวลาก็ไม่รู้นะ เขาถึงได้ไม่รู้สึกว่ามันไม่ปลอดภัย


เสียงหอบหายใจดังแผ่วเบามาจากด้านหลังแท่นทำพิธีเก่าๆที่ไม่ได้ใช้มานาน ตะเกียงถูกยกขึ้นส่องไปที่มุมมืดนั้นทันที


ใครบางคนยกท่อนแขนขึ้นบังหน้าเมื่อแสงตะเกียงสาดส่องไปกระทบ เท่าที่นัยน์ตาสีมรกตเห็น คนตรงหน้านั้นเป็นเด็กหนุ่มที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ร่างกายที่ทรุดนั่งอยู่กับพื้นนั้นเต็มไปด้วยเลือด ทั้งใบหน้าซีดเซียวและเสียงหอบหายใจทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่าคนตรงหน้ากำลังบาดเจ็บ!


“ ไม่ต้องกลัวนะ...อยู่นิ่งๆ...ฉันจะช่วยรักษาให้เท่าที่จะทำได้ ทำใจดีๆไว้นะ”      มือบางยกขึ้นเพื่อให้อีกฝ่ายใจเย็นๆ บาดเจ็บมาขนาดนั้นถ้าจะไล่ไปหรือไม่ยอมช่วยเหลือก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย


ร่างบอบบางเดินเข้าไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลที่พอจะหาได้ในห้องแล้วผลุนผลันวิ่งออกมา และนั่นก็ทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้เปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ


คนเจ็บถูกพยุงมาอยู่ใต้คบไฟอันใหญ่ขึ้น บาดแผลนั้นมีไม่มากเท่าปริมาณเลือดที่เห็นจากภายนอก ทำให้คนรักษาเบาใจไปได้ว่าคนตรงหน้าคงจะไม่เป็นอะไรมาก


“ ถ้ายังไงก็พักอยู่ที่นี่ไปจนกว่าจะหายก็แล้วกันนะ”       ใบหน้าสวยยิ้มให้คนที่ไม่รู้จัก คนคนนั้นได้แต่มองมาด้วยสายตาลุกลี้ลุกลน


“ อะ เอ่อ....คุณ...พักอยู่ที่นี่คนเดียวหรอ?...เอ่อ...ขอบใจที่รักษาแผลให้นะ”      


“ ไม่เป็นไร....ส่วนที่นี่...ความจริงก็ยังมีอีกคนอยู่ด้วย....”        และนั่นมันก็ทำให้ประกายตาวูบไหวในดวงตาของเด็กหนุ่มคนนั้น ถึงแม้จะติดใจอยู่บ้างแต่ร่างบางก็พยายามคิดในแง่ดีว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บมาขนาดนี้ก็คงจะหวาดกลัวและระแวงไปหมด


“ ไปเก็บตัวอะไรมาอีกแล้วล่ะ...”         เสียงทุ้มต่ำของคนที่คิดว่ายังหลับอยู่ดังขึ้นที่ผนังโบสถ์ด้านที่ติดกับเรือนพักให้ใบหน้าของคนทั้งสองหันไปมอง ใบหน้าสวยนั้นยิ้มน้อยๆก่อนจะส่ายหน้าแล้วทำตาดุ


“ คนเค้าบาดเจ็บมาน่ะ เราต้องช่วยเค้าสิ”       ร่างสูงใหญ่ของราชันย์แห่งรัตติกาลเองก็มีผ้าพันแผลพันเต็มแผงอก เสื้อเชิ้ตสีดำคลุมไหล่เอาไว้เพียงแค่นั้น นัยน์ตาสีเปลือกไม้จ้องมาที่คนมาใหม่อย่างไม่ไว้ใจ  และอาจจะเป็นเพราะอยู่ใกล้ ร่างบางจึงมองเห็นว่าแว่บหนึ่ง ดวงตาของผู้มาใหม่กลับมีประกายกร้าวจนน่ากลัว  ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ...


“ หึ...เจ้าเองก็อย่าลืมสิ...เพราะเข้าไปช่วยคนสุ่มสี่สุ่มห้า เจ้าถึงต้องมาอยู่กับข้าแบบนี้ไง”       เป็นความจริงที่เขาอาจจะใจดีเกินไป แต่จากที่เป็นอยู่ตอนนี้เขากลับไม่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี...


“ ท่านเองก็มานั่งนี่ก่อน”        ใบหน้าสวยส่ายหน้าช้าๆก่อนจะเรียกให้ร่างสูงใหญ่เดินมานั่งลงที่เก้าอี้ยาวโบสถ์


“ ดูเค้าให้หน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวจะไปหาอะไรมาให้เค้ากินหน่อย”       ร่างบางบอกร่างสูงเอาไว้ก่อนที่จะเดินออกไปยังเรือนพัก  ถ้วยเซรามิกเก่าๆถูกตัดซุปอุ่นๆใส่มาจนเต็มก่อนที่ร่างบอบบางจะเดินออกมาอีกครั้ง


แต่แล้วประกายแวววาวของอะไรบางอย่างก็กระทบเข้ากับดวงตา และเมื่อมองเห็นชัดว่ามันคืออะไร ถ้วยซุปในมือก็หลุดร่วงลงพื้นจนแตกกระจาย


ราวกับทุกอย่างกำลังหยุดนิ่ง....แม้แต่เสียงที่เปล่งออกไปก็ไม่ได้ยิน.....


คมมีดแวววับในมือของเด็กหนุ่มคนนั้นกำลังพุ่งไปยังแผ่นหลังของร่างสูงที่ยังคงไม่รู้สึกตัวบนเก้าอี้....


และตอนนี้ร่างบอบบางก็กำลังวิ่งเข้าไปขวางเอาไว้....


ภายในใจได้แต่ตะโกนก้อง...ร้องออกไปว่าขอให้ทันทีเถิด.......


จะมานึกเสียใจว่าทุกอย่างมันเป็นเพราะความใจดีของเขา มันก็สายเกินไปเสียแล้ว.....




ฉึก!!!!




เสียงมีดปักลงไปบนผิวเนื้อและกลิ่นคาวเลือดปลุกให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ลืมขึ้นมาอีกครั้ง....


ทำไม.....มันเกิดอะไรขึ้น.......?


นัยน์ตาสีเปลือกไม้เบิกกว้าง....


ทำไมร่างบอบบางถึงได้ถลามาอยู่ที่แผงอกของเขา...แล้วทำไมที่ช่องท้องถึงได้มีมีดเสียบทะลุ....ทำไมเลือดสีแดงถึงได้ไหลทะลักออกมาไม่ได้หยุด.....


ทำไม.....?


“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!   


เสียงตะโกนก้องมาพร้อมกับลมสีดำสนิทที่พวยพุ่งออกมารอบทิศทางอย่างบ้าคลั่ง สองแขนรองรับร่างที่ล้มพับลงไปต่อหน้าต่อตา นัยน์ตาสีมรกตปิดสนิทเช่นเดียวกับสองแขนบางที่ตกลงข้างกายอย่างไร้เรี่ยวแรง  ภาพที่เห็นทำเอาหัวใจของซาตานแทบจะฉีกออกเป็นชิ้นๆ  ความเศร้าโศกเสียใจที่ไม่อาจปกป้องคนที่รักได้ผสมปนเปไปกับความโกรธที่กำลังพุ่งถึงขีดสุด ยิ่งเลือดอุ่นๆไหลรดสองมือมากเท่าไหร่ ความคุ้มคลั่งของราชันย์แห่งรัตติกาลก็มีมากขึ้นเท่านั้น


ไอ้เด็กนั่นคงจะทำทีเป็นบาดเจ็บเพื่อจะเข้ามาสังหารเขา แล้วทำไมถึงเป็นร่างบางที่ต้องมารับบาปนี้แทนเขา


เสียงโห่ร้องจากภายนอกทำให้นัยน์ตาสีเปลือกไม้ที่กำลังจะคุมสติไม่อยู่เหลือบไปมอง กลุ่มคนกำลังกรูกันเข้ามา ในมือนั้นมีอาวุธครบมือ...นี่มันคงจะสืบจนรู้ว่าเขาและร่างบางมาหลบอยู่ที่นี่....ทั้งๆที่เขาไม่ได้ไปทำร้ายหรือไม่ได้เข้าไปยุ่งกับพวกมันแล้ว มันก็ยังไม่คิดที่จะหยุดกันใช่ไหม?


ได้.......


แล้วพวกเจ้ามนุษย์โง่เขลาจะได้รู้ว่า โทษฐานของการทำให้ราชันย์แห่งรัตติกาลพิโรธนั้นเป็นเช่นไร.....


“ อึก...ฮื่อออ...ฮึ่ม....”       เสียงคำรามในลำคอและสายลมอำมหิตทำให้เด็กหนุ่มที่เป็นคนลงมือถึงกับตัวสั่นงันงก ร่างทั้งร่างทรุดนั่งลงด้วยดวงตาตกตะลึง ชายร่างสูงที่ดูเหมือนมนุษย์ธรรมดาในตอนแรก ในตอนนี้นั้นกำลังตัวแข็งเกร็งราวกับกำลังสะกดกลั้นอะไรบางอย่างอยู่ เล็บสีดำงอกยาวออกมาจนแหลมคม เส้นผมที่เคยสั้นกลับยาวขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าคมดูสมกับที่เป็นปีศาจเมื่อเขี้ยวสีขาวทั้งบนล่างกำลังงอกยาวออกมาจนละมุมปาก นัยน์ตาสีเปลือกไม้ดุดันจนไม่อาจเรียกได้ว่ามีแววเช่นมนุษย์อีก


สายลมสีดำคมกริบพุ่งอย่างไร้ทิศทางและตัดผ่านทุกอย่างจนพังไม่เหลือชิ้นดี พลังมหาศาลที่แผ่ออกไปรอบๆทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน จนชาวบ้านที่คิดจะเข้ามาทำร้ายกลับวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น เสียงร้องโหยหวนหวาดกลัวมันไม่เพียงพอที่จะดับเพลิงพิโรธในใจของซาตานได้อีกต่อไป



พวกมันต้องถูกลงโทษ....



ต้องถูกลงโทษอย่างสาสมและทรมานที่สุด....




ให้สมกับที่มันบังอาจมาพรากหัวใจของราชันย์แห่งรัตติกาลไป!!!





เปรี้ยง!!!!





สายฟ้าฟาดผ่านอากาศมาทั้งๆที่ไม่มีอะไร เป็นสัญญาณที่เหล่าปีศาจต่างรู้กันดีว่ายามนี้ไม่ควรจะเข้าไปใกล้ จึงมีเพียงมนุษย์ผู้มีจิตใจร้ายกาจกว่าปีศาจเท่านั้นที่ยังคงวิ่งหนีตายกันโดยที่ไม่รู้ว่าตนนั้นถูกเครื่องหมายแห่งความตายตีตราเอาไว้เรียบร้อยแล้ว


ลมสีดำสนิทพัดรุนแรงราวกับพายุจนแผ่กระจายปกคลุมไปทั้งหมู่บ้าน ร่างสูงใหญ่ที่โอบอุ้มร่างบอบบางเอาไว้ในอ้อมแขนโผบินขึ้นไปยังยอดหอคอยของโบสถ์ที่อยู่สูงเสียดฟ้า ก่อนที่จะเพ่งมองไปยังหมู่บ้านที่อยู่ไกลๆนั่น ด้วยสายตาเย้ยหยันและเย็นชา


เขาจะไม่ใช้สายลมสีดำจัดการกับพวกมัน....เพราะพวกมันต้องได้รับอะไรที่ร้ายกาจกว่านั้น!


“ ออกมา!!!       และแค่สิ้นสุดเสียงคำสั่ง ไฟบรรลัยกัลป์ จากก้นบึ้งของห้วงแห้งรัตติกาลก็แทรกผ่านสายลมสีดำที่กำลังปกคลุมอยู่ทั่วทั้งหมู่บ้านออกมา เปลวเพลิงที่ร้อนราวกับอยู่ในนรกแต่ก็ไม่ได้แผดเผาให้มอดไหม้ในทีเดียว  แต่มันจะค่อยๆเผาผลาญอย่างช้าๆจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก เผาให้ตายอย่างทรมานที่สุด


ทั่วทั้งหมู่บ้านกลายเป็นกองเพลิงไปในพริบตา เสียงร้องโหยหวนดังก้องระงมแต่ใบหน้าคมที่ยังคงจ้องมองอยู่ก็ยังคงเย็นชาไม่ได้รู้สึกรู้สากับเสียงร้องขอความช่วยเหลือแม้แต่น้อย


“ ดูสิ....ข้าเผาพวกมันจนหมดแล้ว...จากนี้ไปจะไม่มีใครมาทำร้ายเจ้าได้อีกแล้วนะ....”


สายตาที่ก้มลงมองร่างเย็นเฉียบในอ้อมแขนนั้นเต็มไปด้วยแววอ่อนโยนแตกต่างจากที่มองกองเพลิงตรงหน้าลิบลับ น้ำใสๆหยดลงจากปลายคางไปยังใบหน้าสวยที่แน่นิ่ง


“ จะไม่มีใคร....ทำร้ายเจ้าได้...อีกแล้ว.....”      


เสียงสั่นเครือกระซิบอยู่ที่ใบหูซึ่งไม่อาจได้ยินสิ่งใดได้อีกต่อไป อ้อมแขนกระชับกอดร่างที่ตนโอบอุ้มอยู่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยน้ำตาแนบชิดใบหน้าที่เริ่มจะซีดเซียวของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน





ร่างกายของเจ้าช่างเปราะบางและอ่อนแอ  อีกทั้งยังบอบช้ำง่ายราวกับดอกไม้....

รู้ไหม....ว่ามันยากมากสำหรับปีศาจอย่างข้า....

ยากมาก....ที่จะทะนุถนอมกอบกุมอุ้มชูดอกไม้อ่อนแออย่างเจ้า...โดยที่ไม่เผลอขยี้มันจนแหลกคามือ….

แต่ถึงจะรู้ว่ายากแค่ไหน...ถึงจะแทบเป็นไปไม่ได้อย่างไร....

ข้าก็ยังอยากจะ....รักเจ้า.....





ปีกสีดำขยับโผบินลงมายังพื้นดินอีกครั้ง ร่างบอบบางที่ไร้ซึ่งลมหายใจถูกวางลงบนเตียงที่เต็มไปด้วยขนนก มือใหญ่ประคองใบหน้าสวยเอาไว้ก่อนจะจดจำทุกรายละเอียด


เวลาของข้ามันยาวนานจนเกินไป.....ยาวนานจนรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเจ้า เวลาที่ข้ามีความสุขที่สุดในชีวิต มันช่างสั้นเสียจริงๆ


สั้นเสียจนช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้...ข้าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป....


ในเมื่อข้าเคยบอกกับเจ้าเอาไว้แล้ว....ว่าชีวิตนี้ข้าจะมอบให้แก่เจ้า...


หากเจ้าจะไป ก็จงเอามันไปด้วยเถิด....






ก้มลงมองที่สองมือ....ร่างกายนี้ต่อให้เหลือแค่เลือดเพียงสองสามหยด มันก็สามารถคืนชีพกลับมาได้ตลอดเวลา ไม่ว่าอะไรก็ไม่อาจทำให้ปีศาจตายได้ง่ายๆ


แต่ก็ใช่ว่าปีศาจจะไม่มีวันตาย....และเขาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชาของพวกมัน ต้องรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว.....ว่าจะตายได้อย่างไร





มือปลดไม้กางเขนที่ลำคอระหงสวมอยู่ออกมา....อาวุธเพียงชิ้นเดียวที่จะสามารถปลิดลมหายใจของปีศาจเช่นเขาได้....มันไม่ใช่ไม้กางเขนอย่างที่ร่างบางคิด...มือหมุนที่ขั้วรอยตัดของกางเขนแล้วค่อยๆดึงแท่งเงินยาวแค่คืบที่ถูกซ่อนไว้ภายในอีกชั้นออกมา....มันไม่ใช่ไม้กางเขน


แต่มันคือ “ลิ่มเงิน”   


ซึ่งเอาไว้ตอกที่กลางหัวใจของปีศาจเช่นเขา




“ ข้าจะมอบชีวิตของข้า.....ให้เจ้า....”

“ นั่นรวมถึงช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของข้าด้วย...”




ลิ่มเงินถูกยกขึ้นไปจ่อที่ตำแหน่งของหัวใจที่ด้านซ้ายของแผ่นอกกว้าง แล้วค่อยๆกดมันลงไปจนมิดก่อนที่จะดึงออกมาอย่างช้าๆ เลือดสีดำไหลทะลักออกมาจากรูเล็กๆ ความเจ็บปวดแล่นลิ่วไปทั่วทั้งร่างกายจนหายใจแทบจะไม่ออก แต่ถึงกระนั้นมือใหญ่ก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว


มือสั่นระริกค่อยๆเคลื่อนลิ่มเงินซึ่งชโลมไว้ด้วยเลือดสีดำจากหัวใจของเขาไปจ่อไว้ที่หัวใจของร่างบางที่หยุดเต้นไปนานแล้ว  ค่อยๆกดมันลงไปอย่างเชื่องช้า ให้เลือดจากหัวใจของเขาตรงเข้าไปผสมผสานกับเลือดจากหัวใจของร่างบอบบาง


ตึก!!


พลังอะไรบางอย่างทำให้ร่างของเขาทั้งสองกระตุกวูบ


สติที่มีค่อยๆดับหายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่ใบหน้าและร่างกายสูงใหญ่จะเอนลงไปซบอยู่ที่ร่างกายบอบบาง เสียงหัวใจเต้นดังแว่วมาจากที่ไกลๆ ความอบอุ่นของอะไรบางอย่างที่รู้สึกได้ก่อนสติจะดับวูบไป ทำให้ใบหน้าคมยิ้มออกมาน้อยๆ


“ ทั้งชีวิตและเวลาที่เหลืออยู่ของข้า...ขอฝากมันไว้ที่เจ้า....”











เสียงนกร้องยามเช้าทำให้นัยน์ตาสีมรกตค่อยๆลืมขึ้นมาอีกครั้งอย่างเชื่องช้า....


เมื่อคืนนี้...ราวกับว่าตกอยู่ในความฝันอันยาวนาน....


แต่ก่อนที่จะได้มองไปรอบกาย ความหนักอึ้งที่โถมทับอยู่บนร่างกายก็ทำให้ต้องก้มหน้าลงไปมอง ใบหน้าคมหลับสนิทกำลังซบอยู่ที่แผ่นอกของเขา ความทรงจำของเมื่อค่ำคืนที่หวนกลับมาทำให้ร่างบอบบางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จับสำรวจไปตามร่างกายของคนที่ยังหลับสนิท


.....อุ่น.......


ร่างกายของซาตานยังอบอุ่นอยู่....


นัยน์ตาสีเปลือกไม้เปิดขึ้นมาอย่างงัวเงีย ค่อยๆยันกายลุกขึ้นมาเมื่อมองเห็นใบหน้าตื่นตะลึงของร่างบาง นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้างอย่างต้องการคำตอบ เพราะอย่างน้อยคนตรงหน้าก็คงจะรู้ตัวอยู่บ้างว่าตนเองไม่น่าจะมีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้


“ ฉัน....ยังเป็นมนุษย์อยู่...ใช่ไหม?”


“ ใช่....เจ้ายังเป็นมนุษย์...และข้าก็ยังเป็นปีศาจ....ทุกอย่างยังเหมือนเดิม....”


“ เพียงแต่ว่า....”


“ ช่วงชีวิตอันยาวนานที่เหลืออยู่ของข้ามันกลายเป็นของเจ้า...เพราะแบบนั้นเจ้าถึงยังมีชีวิตอยู่....และหากเจ้าตายเมื่อไหร่ ชีวิตที่ข้าฝากเจ้าไว้ก็จะตายไปด้วย นั่นหมายความว่าหากเจ้าตายข้าก็มีชีวิตอยู่ไม่ได้...”       นัยน์ตาสีมรกตมองมาด้วยแววเต็มตื้น ยามที่กำลังจะถูกความตายพรากให้จากกันถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายสำคัญแค่ไหน ร่างบอบบางโผเข้าไปในอ้อมแขนแข็งแรงที่รอรับอย่างอบอุ่น ใบหน้าคมก้มลงจูบที่ขมับ กดจูบซ้ำไปซ้ำมาราวกับว่าต้องการจะย้ำกับตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป


“ แล้วแบบนี้...ฉันจะมีชีวิตอยู่อีกแค่ไหนกัน....”


“ เท่าช่วงชีวิตหนึ่งของมนุษย์เท่านั้นแหละ”      และคำตอบของเขาก็ทำเอาร่างบางดันตัวเองออกมาจ้องหน้าด้วยแววตาตกตะลึง


“ งั้นก็หมายความว่า ท่านเอาช่วงชีวิตที่ยาวนานของท่านมาทิ้งไปกับเวลาสั้นๆของมนุษย์แค่นี้น่ะสิ”        นัยน์ตาสีมรกตรู้สึกผิดและกังวลจนเขาเผลอยิ้ม มือใหญ่ยกขึ้นไปลูบหัวสีเงินเบาๆก่อนจะขยับหน้าผากไปชนกัน


“ ช่วงเวลาที่ยาวนานแต่หากไม่มีเจ้าอยู่ด้วย มันก็ไม่มีความหมาย....”


“ ข้าก็แค่รักเจ้า....เจ้ามนุษย์ตัวน้อยผู้อ่อนแอ...”       


ใบหน้าสวยแดงระเรื่อชวนมอง สายตาที่หลุบต่ำลงราวกับจะยอมรับว่ารู้สึกเช่นเดียวกันและให้สัญญาว่า ความอบอุ่นจากอ้อมแขนนี้จะขอรักษาไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่











กลิ่นไหม้และเศษซากแห่งชีวิตลอยคละคลุ้งอยู่รอบๆร่างกาย สองมือบางกอบกุมกันอยู่ที่หน้าอกก่อนจะสวดส่งผู้คนทั้งหมู่บ้านเป็นครั้งสุดท้าย ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาควรจะเป็นฝ่ายขอโทษหรือเปล่าก็ตาม


" ไปอยู่ที่อื่นกันเถอะ...ไปให้ไกลจากที่นี่...ไปในที่ที่จะไม่มีใครรู้ว่าข้าคือปีศาจและเจ้าคือนักบุญ...ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กัน"      เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นจากเบื้องหลัง ในเมื่อร่างสูงยังทิ้งทุกอย่างได้เพื่อเขา เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องยึดติดกับที่นี่


ใบหน้าสวยหันกลับไปพยักหน้าให้ช้าๆ


มือใหญ่เอื้อมมือออกมากอบกุมมือบางเอาไว้  แต่ก่อนที่จะได้ก้าวเดินไปพร้อมกัน เงาดำทะมึนของใครบางคนก็ก้าวเข้ามาขวางทางเอาไว้เสียก่อน


แกร่ก....


เสียงขึ้นไกปืนดังขึ้น และโดยที่ไม่มีเสียงกล่าวเตือน...



ปัง ปัง ปัง!!



ร่างสูงใหญ่ที่สัญชาตญาณดีกว่ามนุษย์รวบร่างบางที่อยู่ข้างๆก่อนจะพลิกตัวหลบกระสุนเงินที่สาดเข้ามาแบบไม่บอกไม่กล่าว ใบหน้าคมแสยะยิ้มเมื่อเห็นคู่ปรับเก่า.......เอ็กโซซิส


ห่ากระสุนยังคงกระหน่ำเข้ามาโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ใบหน้านิ่งๆกับนัยน์ตาสีดำคมกริบมองตรงมาอย่างไม่ได้รู้สึกรู้สาว่าตนกำลังจะฆ่าคนอยู่ ปลอกกระสุนร่วงกราวแต่ก็ดูเหมือนเป้าหมายจะยังคงหลบได้ดีเพราะยังไม่มีแผลที่ทำให้ถึงชีวิต


แต่ด้วยร่างกายที่ยังไม่ค่อยจะฟื้นสภาพดีนัก แล้วยังต้องหอบร่างบอบบางหนีไปด้วย จึงมีกระสุนหลายนัดที่เฉียดไปตามแขนขาให้เลือดไหลเป็นทางได้บ้าง


ท่ามกลางซากปรักหักพัง เท้าจึงก้าวพลาดทำให้ร่างของทั้งคู่ล้มลงไปที่พื้นดิน ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงหันกระบอกปืนแล้วย่างเท้าก้าวขาเข้ามาด้วยไออำมหิต


"ขอร้องละ....อย่าทำอะไรเค้าเลย..."         ร่างบอบบางขยับกายไปบังร่างสูงเอาไว้ สองแขนยกขึ้นกางกั้นเพื่อปกป้องคนสำคัญ นัยน์ตาสีมรกตที่เต็มไปด้วยแววขอร้องอ้อนวอนทำให้ร่างที่กำลังย่างสามขุมเข้ามาหยุดชะงัก


" หึ....เลือด....กลายเป็นสีแดงไปแล้วสินะ"       ปืนที่ยกขึ้นจ่อหัวอดีตซาตานลดระดับลง นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นมองไปตามรอยแผลบนร่างสูงใหญ่ ดูท่าทางไม่ค่อยจะสงสัยเท่าไหร่


“ ฉันไม่จำเป็นต้องสู้กับแกอีก...”        มือแกร่งเก็บปืนทั้งสองกระบอกลงไปในฝักที่สายคาดเอว แล้วออกเดินจากไปท่ามกลางความงุนงงของคนทั้งคู่ แต่ยังไม่ทันที่จะลับสายตา ใบหน้านิ่งสนิทก็หันกลับมาพร้อมกับเอ่ยถาม


“ ปีศาจที่รับตำแหน่งซาตานต่อจากแกเนี่ย....มีดวงตาสองสีใช่หรือไม่”         และเมื่อร่างสูงใหญ่พยักหน้ารับออกไป  ใบหน้านิ่งสนิทกลับแสยะยิ้มราวกับถูกใจอะไรบางอย่าง มันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่าขนลุกจนทั้งคู่ที่นั่งอยู่ตรงนี้รู้สึกเลยละว่า...ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นดั่งศัตรูของคนผู้นี้


ที่เหลือก็....ปล่อยให้ไปจัดการกันเองก็แล้วกัน.....











" ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าคนคนนั้นจะยอมปล่อยเรามาง่ายๆแบบนี้..."         ใบหน้าสวยเอ่ยออกมาด้วยยังสงสัยอยู่เล็กน้อย เพราะเท่าที่รู้ เอ็กโซซิสสีดำคนนั้นไม่เคยปล่อยให้ปีศาจตนไหนรอดจากมือไปได้


" อ๊ะ...อื้อ!"         จู่ๆคนที่ยืนอยู่ด้วยกันก็จับไหล่บางหันแล้วประทับริมฝีปากลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เรียวลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างเอาแต่ใจนั้นทำให้รู้สึกว่าร่างสูงกำลังไม่พอใจ


" หึ....ถึงเจ้านั่นจะไม่ปล่อยเรามาแต่ฝ่ายที่ตายต้องไม่ใช่ข้าหรือเจ้า....เลิกพูดถึงมันได้แล้ว"          .....หวง.....อย่างนั้นหรอ?


ใบหน้าสวยยิ้มออกมาน้อยๆ ก่อนจะเหม่อมองไปยังท้องฟ้าสดใส  ชีวิตที่กำลังจะเริ่มต้นใหม่นั้นจะดำเนินไปด้วยดีไหมนะ เขาได้แต่ภาวนาว่าเรือที่กำลังลอยละล่องอยู่กลางท้องทะเลลำนี้จะไปขึ้นฝั่งในแผ่นดินที่น่าอยู่


สองมือใหญ่สอดเข้ามากระชับเอวบางให้ขยับแนบชิดร่างกายของตัวเอง ใบหน้าคมขยับเข้าคลอเคลียใบหน้าสวย ความอบอุ่นอ่อนโยนนั้นราวกับแสงตะวัน....ไม่น่าเชื่อว่ามันจะมาจากร่างกายของราชันย์แห่งรัตติกาล


ริมฝีปากกดจูบลงไปที่หน้าผากมน ก่อนจะกระซิบคำสัญญาสุดท้ายที่จะให้แก่กันเอาไว้....



“ ข้าจะอยู่กับเจ้า ไปจนแก่เฒ่า....”


“ แล้วเราจะตายพร้อมๆกัน....”



.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


Heart of DEMON

END






ไชโยโฮ่ร้อง ยะฮิ้วววววว...

ในที่สุดก็ได้เขียนคำว่า END แล้วเว้ยเฮ้ยยยยย หลังจากที่หมู่นี้ไม่ค่อยจะได้เขียนคำนี้ซักเท่าไหร่ แหะแหะ

แต่ก่อนจะเวิ่นอะไร ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมอยู่นะคะ เห็นภาพตามข่าวแล้วรู้สึกเห็นใจมากๆเลยค่ะ ปีนี้น้ำมันมากจริงๆ ที่บ้านใหญ่(?)ของข้าพเจ้าเองก็ท่วมมาตั้งแต่เมื่อกลางปีแล้วเช่นกัน ท่วมแล้วท่วมอีกจนแม่ปลงไปนานละ ตอนนี้น้ำเหล่านั้นก็กำลังไหลลงมาที่ภาคกลางแทน ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อกันนะ มีอีกหนึ่งกำลังใจอยู่ตรงนี้ค่ะ  ระหว่างนี้ไอ้เราก็ไปเตรียมป้องกันบ้านเล็ก(?)ทางนี้ก่อน คือ...พื้นที่รอบบ้านทั้งสามด้านถูกประกาศเป็นเขตเสี่ยงไปแล้ว....= =”...แล้วบ้านตรูอยู่ตรงกลางนี่มันถือว่าเสี่ยงไหมนะ?


สำหรับรวมเล่ม       [ประกาศ] รวมเล่ม KHR Fanfiction [รัตติกาลไม่หวนกลับ : หมายเลขหนึ่ง]    ตอนนี้จำนวนหน้าทะลุ 400 หน้าไปแล้วค่ะ อยากจะเป็นลม....อยู่ดีๆมันเพิ่มมาจากไหนอีก70หน้าฟ๊ะ Heart of DEMON!!


ไหนๆก็ไหนๆละ...ขอซักหน่อย ในฐานะที่ฟิกเรื่องนี้ยังไงก็ตั้งใจแต่งให้เนียน....HAPPY  BIRTHDAY  YAMA!!!....ถึงจะย้อนหลังไปน๊าน นานก็เหอะ....^ ^....ไม่ได้ใส่เลขตอนเอาไว้อ่ะนะ แต่มีทั้งหมด 3 ตอน ก็อย่าลืมเปิดดูกันให้ครบเน้...

ไปดีกว่า...หมู่นี้รู้สึกไม่ค่อยจะสดใสเลยน้า.....

ปล.Sekai ichi Hatsukoi ซีซั่น 2 มาแล้วนะ *w*




                                            ครึ ครึ จากเพลงเปิดและเพลงปิดค่ะ *w*
















บทส่งท้าย....



“ โกคุเดระ ฮายาโตะ!          ร่างบอบบางหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกแตกๆภายในบ้านร้างแห่งหนึ่ง เสื้อคลุมสีดำของนักบวชถูกถอดออกแล้วเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่คนบนเกาะแห่งนี้เรียกว่า กิโมโน

“ หื๋อ?”        ร่างสูงใหญ่นั้นดูจะเข้ากันกับฮากามะสีดำสนิทไม่น้อย มือขยับดาบยาวคมกล้าออกมาจากฝักพรางจ้องมองสีเงินแวววาวนั้นอย่างไม่วางตา

“ ชื่อของฉันยังไงล่ะ....ถ้าอยู่ที่นี่ก็ต้องมีชื่อที่เหมือนๆกับคนของที่นี่ใช่ไหมล่ะ....ส่วนของท่านก็.....”

“ ยามาโมโตะ ทาเคชิ....เป็นไง?”

“ ไม่มีปัญหา....แต่ว่าตอนนี้ข้าชักจะหิวขึ้นมาแล้วสิ”          มือใหญ่เริ่มเลื้อยไปเกาะแกะโอบิสีแดงเลือดนกที่เพิ่งจะถูกผูกอยู่ที่เอวบางได้ไม่นาน

“ เดี๋ยวสิ! ฉันเพิ่งจะใส่มันไปเองนะ จะแกะออกมาทำไม?! แล้วท่านก็กินอาหารแบบมนุษย์ได้แล้วไม่ใช่หรือไงกันเล่า...นี่....บอกให้ปล่อยไง....อื้อ....”

แต่ดูเหมือนเสียงห้ามนั้นจะไม่ได้ผล ปีศาจที่ยังคงหิวกระหายก็ยังคงเป็นปีศาจที่หิวกระหายอยู่วันยังค่ำ…..





จบบริบูรณ์...





4 ความคิดเห็น:

  1. เฮ้อออออออ อ่านจบแล้วถอนหายใจ โล่งอก
    แบบว่า อ่านตอนสุดท้ายนี้ตั้งกะต้น ร้องเฮ้ย ไปไม่รู้กี่รอบ =[]=
    เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรืออย่างไรกันเนี่ยยย
    จริงที่ว่า มนุษย์น่ากลัวว่าปีศาจซะอีก โฮกกกกก

    ไอ้เราก็คิดว่า เด็กหนุ่มที่บาดเจ็บมาจะเป็นตัวละครอะไรซะอีก ทีแท้ก็ =[]=
    มันน่านัก ทำคุญบูชาโทษฯ ชิ โกรธแล้วนะ โฮกกกกก ยามะจัดการฆ่าให้หม๊ดดด
    หักมุมสองรอบสามรอบแล้วเนี่ย ก็ไม่เชิงหักมุม
    แต่มันยังไม่จบมันยังไปได้อีกทั้งๆที่บทส่งให้ไปทางนี้ แต่ก็ยังไปต่อได้อีก ^^b

    ตั้งกะไม้กางเกงกุมชะตาชีวิตนั่น และทั้งๆที่นึกว่าไปพร้อมๆกัน
    แต่ก็มีเงื่อนไขของไม้กางเขนอันนั้นอยู่อีก อร๊ายยยยยยย
    ของประจำตระกูลสำหรับใช้เมื่อเจอคนที่จะมอบชีวิตให้สิน๊า โฮกกกกก

    และอีกนิดนึกว่าจะแอบมีหนุ่มน้อยผมน้ำตาลตาโตอะไรโพล่มาซะอีก คึหึหึ
    ทีแท้เป็นเอ็กโซซิสหนุ่มผมดำ คู่กัดกัน กับปีศาจตาสองสีนี่เอง กร๊ากกกก
    เข้าคู่มากทีเดียว ล่ากันมันส์เลยทีนี้ ใครจะตกหลุม..เสน่ห์?ก่อนกันฟร่ะนั่น ฮา

    ตอนแถมท้ายนั่น ชีวิตที่เหลืออยู่ คงจะมีความสุข กันดีเน้อ >///<
    ดูแลลูกสาวมี๊ให้ดีดีนะยะ คุณปีศาจรูปหล่อ จ้องจะกินก๊กตล๊อดดดอ่ะ

    ปล. น้ำตาซึมตอนกำลังพีคสูงสุด และอมยิ้มโล่งอกในเวลาถัดมา
    ตอนก่อนหน้าก็หวานซ๊าาาา ไม่บันยะบันยัง ตอนแรกๆก็เลือด?กระฉูดด
    ครบทุกรสชาติ จริงๆแฮะเรื่องนี้ ฮะฮะ

    ยามะนิสัย AU จริงๆ ส่วนก๊ก ยังคงออริไว้อยู่บ้าง ^^
    ยามะจะเท่ห์ไปไหนว๊า ก๊กน่าร๊ากกเกินไปแล้วน๊าาาา

    จำนวนหน้าแบบนั้น โอ้ ได้ไบเบิ้ลมาสะสมเพิ่มอีกหนึ่งวางคู่กับผองเพื่อน

    ----------

    โซนบ่นเรื่อยเปื่อย ช่วงนี้งานรุมเร้า T^T ไม่ว่างดูเมะที่โหลดมาเลย เศร้าใจมาก แวะมาอ่านอันนี้จบ ก็ง่วงนอนมากๆเลยค่ะ เหมือนเวลาทำงานมากขึ้น(ก็แน่ละสิ) รอสักพักอะไรๆคงจะเข้าที่มากกว่านี้ คงจะมีเวลาอู้บ้างอะไรบ้างละน๊าา ไม่ได้แวะไป5P แต่ก็อ่านๆอยู่น๊าา เดี๋ยวว่างๆจะไปเม้าท์เน้อ

    โอยาสุมิ๊~~

    ตอบลบ
  2. เป็นยังไงล่ะ เป็นยังง้ายยยยยยย ไอ้เด็กไม่รู้จักกตัญญูรู้คุณ โดนเพลิงพิโรธปิศาจหน้าหล่อเข้าไปเป็นง้ายยยยยยยยย!!
    สมควรล่ะ ที่จะโกรธจัด ก็มีดดันทะลุท้องซะขนาดนั้น แถมหัวใจยังหยุดเต้นไปแล้วด้วย อยากบอกว่า หัวใจอิชั้นก็หยุดเต้นไปด้วยแล้วค่าาาาา โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก หนูก๊ก!! T[]T เห็นแน่นิ่งไปแล้วใจหาย กลัวจริงๆ ว่าจะไม่ฟื้น กลัวว่ายามะมันจะฆ่าตัวตายตามเหมือนโรมิโอและจูเลียต (เห้ย ไม่ใช่) กลัวว่าจะไม่แฮปปี้ ทั้งที่ผ่านอะไรมาด้วยกันแท้ๆ

    แต่สุดท้ายก็รอดสินะ ชีวิตต่อชีวิต ลมหายใจต่อลมหายใจ เสียสละชีวิตเพื่อที่จะอยู่ด้วยกัน ตายด้วยกัน ซึ้งสุดยอด โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    อิอิ มาเจอเอ็กซ์โซซิสผมดำในตอนท้าย คึหึหึหึ ได้รับรู้ข่าวดีๆแล้วสินะคะ อร๊ายยยยยยยย จะไปตามล่าราชันย์รัตติกาลคนใหม่ ใครจะชนะก่อนกันเนี่ย อยากรู้ คุณมุเองดูท่าจะเป็นพวกชอบลองของซะด้วย อิอิ มีภาคต่อมั้ยพี่กวาง อยากอ่านง่ะ ^[]^

    เรื่องนี้ อยากบอกว่า เป็นฟิคที่อ่านแล้ว ซึมซับความเป็นแฟนตาซีดาร์กๆได้อย่างงดงามค่ะ จิ้นภาพตามแล้วมันสวยมาก

    คาร์แร็กเตอร์ ชอบยามะและก๊กแบบนี้ เหมาะสมลงตัวค่ะ หนูก๊กน่ารักมวากกกกกกกกกก ยามะก็เท่มวากกกกกกกกกก มันหล่อมากเลยอ่ะ

    ขอบคุณพี่กวาง สำหรับฟิคหนุกๆค่ะ ไอ้คำว่า END โต้ก็อยากเขียนมันใจจะขาดแล้วเหมือนกันพี่ โฮกกกกกกกกกกกกกกกก สู้ต่อไปทาเคชิ!

    จำนวนหน้ารวมฟิค สุดยอดมากเลยค่ะ >.

    ตอบลบ
  3. โอยยยยยยย หมดแรงจะพิมพ์แล้วค่ะ
    (แต่ก็มีแรงอ่านนะ)

    เอาเป็นว่าขอด่าไอ้เด็กบ้านั่นก่อนซักทีนะค้ะ เลววววววววววที่สุดดดดดด!!!
    คนอุตส่าห์ช่วยชีวิต แต่มันกลับทำอย่างนี้ลงคอได้ยังไง!!!
    ที่แท้ก็เป็นพวกของไอ้ชาวบ้านงี่เง่านั่นเอง ลอบกัดชัดๆ
    งืมมมมมๆ อยากจะร้องไห้~ ก๊กเอาตัวไปบังยามะ โถๆ นี่ก็หลงรักยามะเข้าแล้วสินะ
    กัดปากจนเลือดแทบออกเลยค่ะ ในขณะที่มืออีกข้างก็ทุบโต๊ะสนับสนุนให้ยามะมันฆ่าล้างผลาญไอ้พวกชาวบ้านพวกนั้นให้หมด
    ยามะทำเพื่อก๊กขนาดนี้ ต่างคนต่างเสียสละ อ่านแล้วซึ้งค่ะ!!!~

    แต่ในที่สุดเมะเนียนก็ต้องมีการเสียสละเพื่อก๊กสินะ ท่านแมนมาก ขอคำนับ ยอมแลกชีวิตที่ยาวนานเพื่อให้ก๊กฟื้นขึ้นมา
    ก็อย่างนี้แหละ ไม่มีกีกแล้วมันจะไปมีความหมานอะไร๊!!!
    ยามะเท่มากกกกกกกกกกกกกค่า คนอ่านนั่งอมยิ้ม

    ตอนแรกเราคิดว่าท่านฮิจะกลายเป็นศัตรูตัวร้ายที่ต้องมาสู้กับยามะซะแล้ว
    แต่ผิดคาดนะเนี้ย แสดงว่ายามะกลายเป็นคนแล้วใช่ไหมค้ะ
    ถึงเวลาที่พวกท่านจะไปเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่แล้วสินะ
    ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่แวบนึงข้าน้อยแอบจิ้นคู่ท่านมุกับท่านฮิ(โดนเตะออกนอกบล๊อก)

    โครงเรื่องสุดยอดมากค่ะ เค้าเพิ่งจะมานึงได้ตอนจบว่าตลอดทั้งเรื่องไม่ได้มีการกล่าวถึงชื่อจริงๆของสองคนนี้เลยซักนิด
    แต่มีการเอาชื่อของทั้งคู่มาใช้ในตอนจบ เข้าท่าๆ ยกโล่ให้เลยค่า!

    และต่อไปนี้ทั้งคู่ก็จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกานนนนนนนนนน
    เฮ้อ โล่งอกจริงๆที่มันจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง~ ตอนแรกคิดว่าจะจบแบบไม่สวยซะแล้ว งืมมมมมมมมมมม

    ตอบลบ
  4. เป็นเรื่องที่อ่านแล้วได้หลากหลายอารมณ์มากๆค่ะเหมือนละครมากเลยฉันชอบที่คุณแต่ง...ส่วนเรื่องประภาคารก็สนุกสุขเศร้าจนฉันน้ำตาไหลสองรอบค่ะเก่งจริงๆเอาใจช่วยนะคะ

    ตอบลบ