KHR Au.fic [805918] The Last SNOWDROP : 03


: KHR Fanfiction [Au]
: 805918 
: Comedy ???
: PG



คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][185980] ความหวังครั้งสุดท้าย....




.
.
.
.
.






ไอ้บ้านนี่มันอะไรกันฟะ  เดินเท่าไหร่ๆก็หาทางออกไม่เจอซักที ไม่รู้ว่าจะสร้างให้มันเป็นเขาวงกตกันไปหาพระแสงอะไร เดี๋ยวพ่อก็บรึ้มมันซะให้ราบเป็นหน้ากลอง จะได้ไม่ต้องมาเดินวนไปวนมาอยู่แบบนี้...นึกแล้วมันก็ให้หงุดหงิด....แม้แต่คนที่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดอย่างไอ้บ้ายามาโมโตะ มันก็ยังพาเขาเดินหลงทางมาแล้ว!!!...



เซ่อซ่าปัญญาอ่อนอย่างไอ้บ้านั่น ซักวันเขาจะถีบมันตกระเบียงให้ไปเป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นหัวกะโหลกที่แดดิ้นอยู่ก้นหุบเหวนั่นให้จงได้ ....ร่างบอบบางของนายน้อยโกคุเดระยืนหมุนรอบตัวเป็นวงกลมอยู่สองสามรอบ ก่อนที่จะเดินกระทืบเท้าปึงปังไปตามระเบียงทางเดินอย่างที่ดูก็รู้ว่ากำลังอารมณ์เสียสุดๆ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองไปรอบกาย...บ้านหลังน้อยใหญ่ต่างตั้งเรียงรายอยู่เป็นกลุ่ม บ้านทุกหลังเชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน...พื้นดินดีๆมีก็ไม่รู้จักไปสร้าง มาสร้างคร่อมหุบเขาทำบ้าอะไรก็ไม่รู้ บรรพบุรุษของไอ้พวกนี้เป็นนกหรือยังไงถึงได้ชอบสร้างบ้านอยู่บนต้นไม้แบบนี้....



เหงื่อไหลซึมอยู่บนหน้าผากมน มือบางเริ่มจะสั่นเล็กน้อย เป็นเวลากว่าสองชั่วยามแล้วที่ร่างบางต้องมาเดินวนไปวนมาหาเป้าหมายไม่เจอซักที...ขาเรียวเริ่มจะหมดแรงทรงตัวหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลม ร่างกายที่เคยยืนตัวตั้งตรงสง่างามเริ่มโอนเอนไปมา ....ไม่ไหวแล้ว....หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอซักที....ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่ซะด้วยสิ...หรือว่าเขาจะต้องมาหมดแรงตายอยู่ตรงนี้.....สติเริ่มเลือนราง สีขาวและประกายดาววิ้งวับลอยอยู่รอบๆตัว ร่างบางๆเริ่มเอนไปข้างหน้าเรื่อยๆ เรื่อยๆ....



โป๊ก!!!!  โอ้ยยยย



เสียงร้องสองเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพียง นายน้อยโกคุเดระยกมือขึ้นกุมหน้าผาก ความเจ็บจากการไปกระแทกอะไรเข้าซักอย่างทำเอาน้ำตาเล็ดออกมาจนต้องปิดตาเอาไว้ข้างหนึ่ง อีกข้างเปิดมองคนตรงหน้า เตรียมแหกปากด่าเต็มที่



เดินให้มันดู....ทาง.......     แต่แล้วสิ่งที่นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองเห็นนั้นก็ทำให้ไม่อาจละสายตาจากไปได้.....



เจ้า....เป็นอะไรมากหรือเปล่า    น้ำเสียงนุ่มนวลถูกส่งมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น   มือบางสั่นระริกยกขึ้นจับมือเล็กของอีกคนที่ยื่นมาให้อย่างเป็นมิตร...



นี่แหละ...สิ่งที่ข้าค้นหามาตลอดสองชั่วยาม...



นี่แหละ...สิ่งสวยงามที่หาอะไรมาเปรียบมิได้...



นี่แหละ........




......ปลาทูน่าย่างซอสเกรียมกำลังดีสีน้ำตาลไหม้!!!




งั่ม!!!



ว๊ากกกกกกกกกก      เสียงร้องโหยหวนของคนที่ถูกมองว่าเป็นอาหารดังกึกก้องทั่วป่า มือเล็กพยายามสะบัดปากของร่างบางผมสีเงินที่งับเข้าเต็มที่พร้อมน้ำลายที่หยดแหมะๆ  นัยน์ตาสีมรกตไม่ได้รับรู้อะไรอีกแล้ว มองเห็นแต่เพียงอาหารชั้นดีที่สวรรค์ทรงโปรดมาแก่คนหลงทางเช่นเขา........




....................................................................................................................................................




เอ่อ....โกคุเดระคุง....สินะ....     นัยน์ตากลมโตสีน้ำตาลไหม้แสดงอาการหวาดระแวงเต็มที่ เมื่อเหลือบมองไปยังร่างบอบบางอีกคนที่นั่งเอาแขนพาดโต๊ะกินข้าวอย่างหมดสภาพ นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แล้วก็ยังสยองไม่หาย มือเล็กเผลอลูบมืออีกข้างที่มีผ้าพันแผลพันเอาไว้อย่างหวาดๆ



ข้า...ซาวาดะ  สึนะโยชิ....ยินดีที่ได้รู้จักและนี่ก็บ้านของข้าเอง     ร่างเล็กขยับออกห่างจากคนที่ค่อยๆเงยหน้ามองตนด้วยสายตาวิ้งวับพร้อมน้ำลายหยดน้อยที่มุมปาก



ทูน่าซูชิ...งั้นหรอ....ไปเอามาสิ ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว....เดินหาห้องครัวมาตั้งแต่เช้าในที่สุดก็เจอจนได้นะ     สภาพโฉมงามที่เขาล่ำลือกันนี่มันช่างอนาถแท้ในสายตาของร่างเล็กผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ยังคงหวาดระแวงว่าเจ้าตุ๊กตาราคาแพงนี่จะกระโดดมางับตนอีกเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จึงได้ถอยห่างออกมายืนคุยด้วยซะไกลลิบ…..ไหนว่า Ball Joint Doll…นี่มันตุ๊กตาชักกี้ผีสิงมากกว่าไม่ใช่เร๊อะ!



ไม่ได้สิ....ก่อนอื่นต้องไปหาอะไรมาให้เจ้าคนตรงหน้านี่กิน....ใช่...เจ้ายังหิวตายไปตอนนี้ไม่ได้นะ....ไม่งั้นก็ไม่มีคนเข้ามาในป่าสายหมอกเพื่อตามหาเจ้าสิ แล้วแผนการหาสามีใหม่ของข้าก็เหลวหมดน่ะสิ....ไม่ได้...ข้าไม่ยอม!!!!



แล้วด้วยจิตมุ่งมั่นอันแรงกล้า ร่างเล็กๆจึงเดินผ่านตัวบ้านซึ่งเรียบโล่งไร้สิ่งของใดๆ นอกจากผนังด้านหนึ่งที่เต็มไปด้วยตู้ยาโกโรโกโสหลายตู้เท่านั้น ไปยังห้องครัวเก่าๆที่อยู่ด้านข้าง ปล่อยให้นายน้อยโกคุเดระผู้หิวโหยนั่งเอาคางเกยโต๊ะน้ำลายย้อยต่อไป....



โครกกกก.....



เสียงท้องน้อยๆร้องดังสนั่นหวั่นไหว จนเจ้าของต้องเปิดเปลือกตาที่กำลังเคลิ้มฝันถึงทูน่าตัวโตน่ากินให้มาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง....นัยน์ตาสีมรกตกวาดมองไปทั่วบริเวณ มีอะไรที่มันพอจะยัดลงกระเพาะในระหว่างรอทูน่าย่างซอสได้บ้างไหมเนี่ย...แล้วสายตาก็ไปปะทะเข้ากับ กาน้ำชาหน้าตาไม่น่าไว้วางใจใบหนึ่งกับถ้วยชาที่ปากมีรอยบิ่นอย่างน่าสงสัย...แต่ด้วยความหิวจัด มือบางสั่นระริกจึงยื่นออกไปรินน้ำชาในกาลงใส่ถ้วย...กลิ่นของชาช่างหอมเย้ายวนไม่สมกับสภาพภาชนะที่ใส่เลยแม้แต่น้อย......สงสัยจะจนของแท้นะเนี่ย.....



มือบางสั่นระริกจากอาการหิวโหย ค่อยๆยกน้ำชาขึ้นหาริมฝีปากสีเรื่อขึ้นเรื่อยๆ จากแรงสั่นทำเอาน้ำชากระฉอกหกไปทั่วโต๊ะ เสียงดังฟู่ๆและควันสีชมพูประหลาดๆลอยล่องขึ้นมา แต่คนหิวจนตาลายก็มิได้สนใจมันเลยสักนิด



อย่ากิ๊น!!!!”    ร่างเล็กๆในชุดกิโมโนสั้นสีขาวตุ่นๆวิ่งพรวดพราดออกมาจากในครัว แล้วสไลด์ตัวพร้อมตะเกียบในมือคีบถ้วยชาออกไปจากมือของนายน้อยโกคุเดระได้อย่างน่าระทึก...จะปัดถ้วยทิ้งก็ไม่ได้....ก็นี่มันเป็นถ้วยชาที่เหลืออยู่เพียงใบเดียวภายในบ้าน.....ถ้ามันแตกไป ก็คงอีกนาน....กว่าจะซื้อใบใหม่ได้...แล้วแผนการลอบฆ่าของเขาจะสำเร็จได้ยังไงล่ะ ถ้าไร้ซึ่งถ้วยคู่หูผู้ซึ่งร่วมทุกข์ร่วมโศกกันมานานใบนี้



คึหึหึ....นั่นมันชาแห่งความรักที่สึนะโยชิคุงทำเอาไว้ให้ข้านะครับ...ถ้าเจ้าอยากกินบ้างก็ไปหายามาโมโตะคุงดีกว่านะ ข้าเห็นเขาหิ้วข้าวสารอาหารแห้งมาหลายกระสอบเลยทีเดียว...     จะเอามาเลี้ยงคนหรือเลี้ยงหมูก็ไม่รู้นะครับนั่น...รู้แต่ว่าเขาจะไม่มีวันทำแบบนั้นกับสึนะโยชิคุงที่รักเด็ดขาด...สิ่งที่เขานำกลับมานั้นเขามั่นใจว่ามีคุณค่าทางสารอาหารเพียงพอ จะกินให้ตายยังไงก็ไม่มีผลต่อร่างเล็กกะทัดรัดหอบหิ้วง่าย(?)แบบนี้แน่นอน......นี่ข้าหวังดีกับเจ้าจริงๆนะ......



งั้นหรอ.....    เสียงตอบรับนั้นช่างล่องลอย ร่างบอบบางของนายน้อยโกคุเดระยอมเดินจากไปแต่โดยดี โดยมีเป้าหมายที่กระสอบข้าวสารอาหารแห้งแทน.....



แต่ว่านะ....ลืมอะไรไปหรือเปล่า ?....



กว่าจะเดินมาถึงที่นี่ก็หลงทางมาแล้วร่วมสองชั่วยาม...แล้วให้เดินกลับไปด้วยสภาพแบบนั้น........



อ่า...มุคุโร่....กลับมาเหนื่อยๆ นั่งก่อนสิ เดี๋ยวข้ารินน้ำชาหอมชื่นใจให้นะ   ใบหน้าน่ารักแย้มยิ้มให้ราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆ หารู้ไม่ว่าภายในใจนั้นเกิดซับนรกวิ่งคู่กันมาอย่างกับแย่งกันเข้าเส้นชัย.....จะกลับมาทำไมให้ข้าต้องเหนื่อยเนี่ยห๊ะ  ถ้าไม่นั่งก็ไปนอนในโลงนู่นเลย เดี๋ยวข้าจะเอาชาพิษกรอกปากเจ้าเอง ไอ้หัวสับปะรด!



มือเล็กที่ยังคงถือตะเกียบคีบถ้วยชา ค่อยๆวางถ้วยลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม แล้วค่อยๆรินน้ำชาให้ร่างสูงโปร่งด้วยท่าทางนุ่มนวลอ่อนโยน นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้สบมองกับนัยน์ตาสองสีเล็กน้อยก่อนที่จะทำท่าเอียงอายพร้อมกับแก้มใสที่แดงระเรื่อ....มือของมุคุโร่ค่อยๆบรรจงวางรอบมือเล็กที่จับถ้วยชาอยู่...มือเล็กค่อยๆเลื่อนออกไปด้วยท่าทางขวยเขิน.......ดูยังไงๆนี่มันก็ฉากในฝันของการ์ตูนตาหวานชัดๆ



ขอบคุณครับ...เจ้ารักข้าขนาดนี้ ข้าคงมีชีวิตอยู่ได้อีกหลายหมื่นปีเลยทีเดียว    ร่างสูงโปร่งยกชาหอมหวานขึ้นดอมดม ท่ามกลางความลุ้นระทึกที่ปกปิดไว้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับฟากฟ้าสดใส........แต่ข้าอยากให้เจ้ามีชีวิตอยู่แค่วันนี้ก็เกินพอแล้วแหละ...รีบๆดื่มเข้าไปซะ!



อืม....ข้ารู้สึกว่ามีกลิ่นอะไรไหม้ๆมารบกวนกลิ่นหอมๆนี่อยู่นะครับ    แค่นั้นแหละ วิญญาณแม่บ้านก็พุ่งปรี๊ดมาเข้าสิงในร่างเล็กทันที  สึนะโยชิหันหลังวิ่งตรงไปยังห้องครัวโดยที่ไม่ต้องทักกันรอบสอง....ปลาย่างของข้า! อาหารที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่าอาหาร ในรอบสองเดือนของข้า.....ไม่นะ!!!



คึ หึ หึ...น่ารักจริงๆเชียว....ว่าแต่...น้ำชาวันนี้จะเปลี่ยนสีดอกไม้เป็นสีอะไรน้า     หลังจากร่างเล็กๆหายลับไปยังห้องข้างๆ มือบางก็ยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนที่นัยน์ตาสองสีจะจ้องเขม็งไปยังแจกันดอกไม้บนหลังตู้ยา มือบางค่อยๆเทน้ำชาที่เหลืออยู่ในถ้วยลงในแจกัน ดอกไม้สีเหลืองค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงสดแล้วเหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็ว.....ว้าว....ยอดเยี่ยมไปเลยที่รักของข้า....ในที่สุดเจ้าก็เปลี่ยนดอกไม้สีเหลืองเป็นสีแดงได้แล้ว...สมกับฉายา บุปผามรณะ ของเจ้าจริงๆสึนะโยชิคุง...ไม่ว่าจะทำอะไรออกมา ดอกไม้ก็ตายเรียบ....ข้าละภาคภูมิใจในตัวเจ้าเสียจริง คึหึหึ....



เจ้าของผมสีไพลินนั่งหัวเราะ หึ หึ อมยิ้มอยู่ที่โต๊ะผุๆตัวเดียวในบ้าน โดยมีรังสีอำมหิตจากปลาทะเลสายพันธุ์ปิรันย่ามองมาอย่างเคียดแค้น....ปลาย่างของข้า!!!...นอกจากจะไหม้ไม่เหลือชิ้นดี กลับออกมาแทนที่จะได้เห็นไอ้หัวสับปะรดนี่นอนตายน้ำลายฟูมปาก แต่ไหงมันยังนั่งทำท่าอย่างกับพระเอกเกาหลีได้อยู่แบบนี้ล่ะฟะ



คิดแล้วมันก็แค้น....ทำไมมันหนังเหนียวตายยากตายเย็นแบบนี้ ในอดีตกาลอันไกลโพ้น...เขาไม่น่าหลวมตัวหนีตามมันมาเลยให้ตายเถอะ...



กฎของกองโจรนั้นไม่ตายตัว ใครหมายตาอะไรไว้ก็จงหยิบสิ่งนั้นมา.....กฎแบบนี้มือใครยาวสาวได้สาวเอาแท้ๆ แค่หยิบเพชรพลอยมาครั้งละเม็ดสองเม็ด แค่นั้นมันก็รวยเห็นๆ...แต่แล้วทำไมซินเดอเรล่าผู้น่าสงสารอย่างเขาถึงได้ยากจนข้นแค้นแบบนี้น่ะหรือ....



ทั้งๆที่ไอ้หัวสับปะรดนี่มันก็ออกปล้นมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง....แต่ทว่าสิ่งที่มันหยิบติดมือกลับมานั้น...



มันมีแต่สับปะรด สับปะรด แล้วก็สับปะรดน่ะเซ่!!!



เมื่อก่อนข้าก็เคยเชื่อมั่นในรักแท้....แต่กับเรื่องจริงแล้วมันไม่ใช่....ใครว่ารักแท้กินไม่ได้.....มันไม่ใช่.... เพราะว่ารักแท้...กินแต่สับปะรดต่างหากละโว้ย!!!




.................................................................................................................................




ที่นี่มันที่ไหนกัน....สวรรค์...หรือว่านรก......



รู้งี้ข้ารอกินทูน่าย่างซอสซะก็ดีหรอก ช่วงเวลาสามชั่วยามที่หายไปมันคงทำให้เขาหิวตายแล้วก็โดนไอ้โจรใจหยาบโยนร่างกายอันบอบบางลงไปเป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่นหัวกะโหลกที่แดดิ้นอยู่ก้นหุบเหวนั่นแทนไอ้บ้ายามาโมโตะไปแล้วสินะ...ทำไมข้าเกิดมาช่างอาภัพนัก...ทูน่าก็ยังไม่ได้กินตายไปแล้วศพก็ไม่สวยแถมไม่มีอีแร้งซักตัวมาเหลียวแลอีกต่างหาก....



ร่างบางของนายน้อยโกคุเดระนั่งแหมะน้ำตาไหลพรากอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่เจ้าตัวคิดว่าเป็นประตูสู่นรก เสียงร้องไห้โฮพร้อมกับเสียงกระเพาะครวญครางให้โครกครากทำเอาคนที่อยู่ในบ้านถึงกับต้องรีบโผล่หน้ามาดู ....วันนี้เสียงฟ้าร้องแปลกๆแหะ....หว๋า....



โกคุเดร๊า~ เป็นอะไรไปน่ะ ข้าไม่อยู่แค่ครึ่งวัน เจ้าถึงกับจะขาดใจตายเลยหรอ โถๆแม่ทูนหัว ข้ากลับมาให้เจ้าซบอกแล้ว มามะ     ร่างกายสูงใหญ่รีบถลาเข้าไปโอบกอดร่างบอบบางอย่างเนียนๆ.....ยังโชคดีที่คนที่โผล่ออกมาดูนั่นคือว่าที่สามีทาสของเจ้าตัวเอง...ถ้าเป็นคนอื่นมาเห็นเข้าคง........เอ่อ.......



เจ้า....เจ้าบ้ายามะโมโตะสินะ...มาเจอกับเจ้าแบบนี้ ที่นี่คงเป็นรกละสิ...นี่เจ้าล่วงหน้ามารอข้างั้นหรอ ไม่ดีใจเลยซักนิด     นายน้อยโกคุเดระยังคงน้ำตาไหลพราก....ทูน่าก็ไม่ได้กิน จะตายทั้งทียังอุตส่าห์มีเนียนตามมาผจญอีกแน่ะ แล้วมือบางก็ดึงชายแขนเสื้อกิโมโนของยามาโมโตะขึ้นมาป้ายน้ำมูกที่มันกำลังไหลย้อยลงไป...อืม...อย่างน้อยๆก็มีกระดาษชำระใช้ในนรกละวะ.....



หะ...ข้ายังไม่ตายนะ ถึงจะบาดเจ็บอยู่ก็เหอะ    นี่เกิดคลื่นกระแทกอะไรขึ้นกับโฉมงามของเขาเนี่ย...สภาพถึงได้น่ารักบัดซบขนาดนี้.....แถมเจอหน้ากันก็แช่งกันซะงั้น



เจ้ายังไม่ตาย?....งั้นข้าก็กำลังมาเข้าฝันเจ้าอยู่สินะ....ดีเลย...ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว พรุ่งนี้เจ้าทำบุญให้ข้าด้วยข้าวสารอาหารแห้งกระสอบเท่าคฤหาสน์สองชั้นเลยนะ เข้าใจใช่ไหม!”    มือบางคว้าคอกิโมโนของอีกฝ่ายเขย่าไปมา



ดะ...เดี๋ยวนะ...โกคุเดระ...เจ้าเองก็ยังไม่ตายนะ ดูสิ ข้าหอมแก้มเจ้าแบบนี้ ....จุ๊บ....เจ้ายังรู้สึกอยู่ใช่ไหมล่ะ     สัมผัสจั๊กจี้ที่แก้มนิ่มเริ่มทำให้ร่างบางนิ่งไป



เอ่อ.......จะว่าไป....    มือบางยกขึ้นลูบแก้มใสของตัวเอง....ถ้าตายแล้วทำไมแก้มมันร้อนจี๋อย่างงี้อ่ะ....



อ่ะ ที่แก้มมันอาจจะไม่ค่อยรู้สึกอะไร งั้นต้องทำอย่างอื่น   แล้วปลาหมึกกลับชาติมาเกิดก็เริ่มเลื้อยไปทั่วลำตัวบาง  มือใหญ่สอดเข้าไปในสาปเสื้อกิโมโน อีกมือถลกชายกิโมโนขึ้นเรื่อยๆ สัมผัสจากมือหยาบที่ต้นขาขาวทำเอาคนถูกเนียนสะดุ้งโหยง....ไม่รู้ตัวไม่ได้แล้ว!!!



เฮ้ย!!! หยุดเลยนะ ไอ้ตัวเนียน ข้ารู้แล้ว!!! ข้ายังไม่ตาย แต่ข้ากำลังจะหิวตายถ้ายังไม่ได้กินอะไรอีกภายในสองวินาทีนี้ เพราะงั้น เจ้านั่นแหละ ไปเอาของกินมา!”    ขาเรียวยันโครมออกไป ทำเอาคนไม่ทันระวังตัวหงายหลังลงไปนอนเหม่อมองฟ้า....เหลือบตามามองคนสวยใจร้ายที่ยืนชี้นิ้วสั่ง....อ่า...แผนเนียนขั้นเทพที่ 1 ล้มเหลว....งั้นคงต้องงัดแผนสำรองออกมาใช้....



โอ๊ย...อูย....เจ็บจัง....ข้าบาดเจ็บอยู่นะโกคุเดระ...ดูสิ มีเลือดออกมาด้วย...เจ้าต้องประคองข้าเข้าไปทำแผลให้อย่างนุ่มนวล แล้วป้อนข้าวป้อนน้ำข้าสิถึงจะถูก    ต่อให้เป็นซึนเดเระแค่ไหน แต่เมื่อเห็นชายหนุ่มที่รัก(?)บาดเจ็บเจียนตายก็จะต้องรีบวิ่งเข้ามาดู โอบกอดให้กำลังใจ มองมาด้วยใบหน้าหวานซึ้งมีหยาดน้ำตาคลออย่างเป็นห่วงเป็นใย  มือเล็กๆนั่นต้องค่อยๆลูบแผลของเขาอย่างแผ่วเบา แล้วน้ำตาก็จะค่อยๆไหลลงมาด้วยความสงสารเขาจับใจ จากนั้นก็จะช่วยประคองเขาไปนั่งบนเตียงแล้วทำแผลให้อย่างนุ่มนวลแต่ก็เข๊อะเขินเล็กน้อย ตัวบางๆนั่นก็จะต้องค่อยๆโอบรอบตัวเขาเพื่อพันผ้าพันแผลให้ ความใกล้ชิดอันหอมหวานก็จะค่อยๆสร้างบรรยากาศอันดึงดูดให้เราแนบชิดกัน แล้วเขาก็ล้มลงบนเตียงพร้อมกับดึงตัวบางๆนั่นตามให้มาทาบทับ จากนั้นเสียงนุ่มนวลก็จะถามเขาอย่างเป็นห่วงว่า แผลเจ้าจะไม่เป็นไรหรอ ข้าก็จะส่ายหน้าปฏิเสธ ว่าความเจ็บแค่นี้มันเทียบไม่ได้กับความทรมานใจที่ข้าจะไม่ได้กดเจ้าไม่ได้หรอก ใบหน้าเนียนใสก็จะแดงระเรื่อ แล้วหลังจากนั้นเราก็จะ....จะ.....โอ๊ย....โรแมนติกสิ้นดีเลยแผนนี้



แผลเท่าแมวข่วนแบบนี้...เจ้านั่นแหละ...ที่ต้องป้อนข้าวป้อนน้ำข้า!!! ข้าหิวจนจะเขมือบบ้านได้ทั้งหลังแล้ว!!!”     ……….ฟิ้ววววว.....เสียงแอฟเฟ็คใบไม้ร่วงปลิวผ่านหน้าไป เพื่อไว้อาลัยแด่แผนสำรองที่ล้มเหลวไม่เป็นท่า.......สงสัยว่าข้าจะเจอกับซึนขั้นเทพเข้าให้ซะแล้ว......



เถียงกันไปก็เท่านั้น เพราะจนแล้วจนรอด ร่างสูงใหญ่ก็เป็นฝ่ายต้องยอมจำนนต่อฤทธิ์พระราชินีที่ร่างบางเปล่งออกมา 



นี่...ข้าได้ข่าวมาละ ว่าตอนนี้ฮิบาริ เคียวยะรู้แล้วนะว่าเจ้าอยู่ที่นี่    มือใหญ่ตวัดมีดทำครัวอย่างชำนาญ แร่เนื้อปลาสดๆออกมาเรียงอย่างสวยงาม อีกคนก็ยังนั่งกินเอากินเอาราวกับไปตายอดตายอยากที่ไหนมานับพันปี ทั้งๆที่ห้องครัวมันก็ไม่ได้อยู่ห่างจากตัวบ้านเลยสักนิด...



ช่างหัวมันสิ...    ตะเกียบในมือบางยังคงคีบนู่นคีบนี่เข้าปากไม่ได้หยุด



งั้นแปลว่าเจ้าจะอยู่กับข้าที่นี่ เจ้าจะไม่ทิ้งข้าไปหาฮิบาริใช่เปล่า...    ดวงตาสีเปลือกไม้หันมามองใบหน้าเนียนใสด้วยประกายวิ้งวับ....ถ้าเจ้ารักข้าขนาดนั้น ข้าจะยินยอมพร้อมใจพลีกาย เอ๊ย...พลีชีพเพื่อปกป้องเจ้าหญิงของข้า ถึงแม้ว่าจะต้องสู้รบกับบุคคลอันตรายอย่างเจ้าของแผ่นดินสีดำนั่นก็เถอะ....



อื้อ.......เอาข้าวมาอีกซิ....     ว่าแต่...เจ้าหญิงนี่มันรับรู้แน่ๆแล้วใช่ไหมว่าเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่นี่มันคืออะไร......




.................................................................................................................




ม้าเร็วขบวนเล็กมุ่งหน้าฝ่าประตูเมืองเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เหล่าทหารมากมายที่วิ่งตามล้อมจับต่างบาดเจ็บระเนระนาด เมื่อคนที่อยู่บนหลังม้าไม่มีอารมณ์จะมาออมมือเพื่อเห็นแก่หน้าของอีกฝ่าย ม้าสีดำสนิทสง่างามวิ่งขวบแบบไม่ได้หยุดพักมาเป็นเวลากว่าสองวันแล้วและบัดนี้มันยังคงวิ่งตะบึงผ่านถนนปูด้วยแผ่นหินภายในตัวเมือง เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุดของเมืองซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา แลเห็นปราสาทแบบญี่ปุ่นสูงสง่าอยู่รำไร ตัวปราสาททั้งหลังตั้งแต่ฐานหินจนกระทั้งยอดหลังคาล้วนเป็นสีขาว ขาวสะอาดปราศจากมลทินใดๆไม่เหมือนกับคนที่อยู่ภายใน ที่สีขาว...มิได้บอกถึงจิตใจ...สีขาว....เป็นเพียงรูปลักษณ์ภายนอกเพียงเท่านั้น



ไม่นานม้าสีดำสนิทก็ค่อยๆชะลอฝีเท้าลง เมื่อประตูหินหนาหนักสีขาวบริสุทธิ์มองเห็นอยู่ตรงหน้า...



ปราสาทกล้วยไม้ขาว....ดินแดนต้องห้ามสำหรับคนที่ไม่อยากตายและผู้ชายหน้าตาดี.....



ร่างเพรียวแต่แข็งแกร่งในชุดผ้าคลุมสีดำสนิทกระโดดลงมาจากหลังม้า ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่คิดที่จะขออนุญาตเช่นเคย ทหารยามที่พยายามเข้ามาห้ามต่างลงไปกองกับพื้นทันทีด้วยทอนฟาที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ เหล่าผู้ติดตามเพียงไม่กี่คนรีบก้าวเท้าเดินตามเจ้านายของตนเข้าไป ถึงจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางแต่ทว่าก็ไม่มีใครกล้าบ่น เมื่อใบหน้าคมของเจ้าเมืองนามิโมรินั้นไม่เคยเปลี่ยนจากเดิมเลยแม้แต่น้อย......น่าขนพองสยองเกล้าสุดๆ......



ทหารในชุดสีขาวอีกมากมายเข้ามาขัดขวาง แต่ทว่าทอนฟาไร้ชีวิตนั่นก็มิได้ปราณีใครเลยแม้แต่น้อย ยังคงบุกทะลวงเพื่อให้ถึงตัวคนที่ต้องการพบให้เร็วที่สุด



เร็ว.....ต้องหาให้พบให้เร็วกว่านี้ ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่ทันการ.....



เห๋....มาหาข้าถึงที่นี่ มีอะไรหรอฮิบาริคุง...   น้ำเสียงนิ่งเหมือนจะอารมณ์ดีชวนให้ขนลุกทันทีที่เอ่ยออกมา ร่างสูงโปร่งของใครบางคนยืนพิงเสาสีขาวขนาดมหึมาด้วยท่าทางไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับเสียงโหยหวนของบรรดาลูกน้องที่ล้มตายอยู่เบื้องหน้า



ฮิบาริ  เคียวยะ เจ้าของแผ่นดินสีดำหยุดเดินทันที   ร่างสูงโปร่งของเจ้าของแผ่นดินสีขาวค่อยๆเยื้องย่างเดินออกมาจากเงาของเสา แสงแดดที่ส่องกระทบแทบจะกลืนกินร่างนั้นให้หายไปกับบรรยากาศโดยรอบ  ร่างกายสง่างามในยูคาตะสบายๆสีขาวทั้งตัว แขนขาใบหน้าแม้แต่เส้นผมก็ยังเป็นสีขาวบริสุทธิ์ จะมีอยู่ที่เดียวที่มีสีที่แตกต่าง...นัยน์ตาสีอเมทิสและรอยใต้ตารูปร่างแปลกสีดำสนิท........เบียคุรัน.........



เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ข้ามีเรื่องเร่งด่วนกว่าที่ถ้าไม่รีบสะสางเดี๋ยวนี้แล้วข้าจะต้องค้างคาใจไปจนวันตายแน่ๆ   พูดจบร่างเพรียวแข็งแกร่งก็เดินดุ่มๆเข้าบ้านคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาตเลยสักนิด เจ้าของบ้านผมสีขาวได้แต่มองตามตาปริบๆ ....นี่ไม่คิดจะบอกที่มาที่ไปข้าหน่อยรึ ว่าทำไมเจ้าถึงได้มาเดินเข้าเดินออกบ้านข้าหน้าตายเฉยแบบนี้เนี่ย



เครื่องส่งสัญญาณภาพบ้านเจ้าอยู่ที่ไหน    สายตาคมกริบสอดส่องมองหาตู้สี่เหลี่ยมชนิดหนึ่ง



ถ้าหมายถึงโทรทัศน์ละก็อยู่ทางนี้....    (เฮ้ย!...นี่มันญี่ปุ่นสมัยไหนวะ มีโทรทัศน์ด้วย...=[]=..) มือใหญ่ชี้ไปยังห้องอีกห้องที่อยู่ถัดไป เจ้าของแผ่นดินสีดำนามฮิบาริ เดินเข้าไปจัดแจงเปิดเจ้าตู้สี่เหลี่ยมแล้วนั่งจุ้มปุกจ้องเขม็งไปยังภาพแอ็คชั่นที่กำลังฉายอยู่นั่นโดยไม่มีทีท่าว่าจะสนใจบุคคลภายนอกที่มองตาค้างอยู่หน้าห้องนั่นเลยแม้แต่น้อย



Jibbo Jibbo jip~bo Man~….
เสียงเพลงเปิดตัวสุดเร่าร้อนดังขึ้น พร้อมกับผู้พิทักษ์โลกขบวนการห้าสีที่ออกมาวาดแข้งวาดขา ก่อนจะประสานมือรวมร่างเป็นนกยักษ์ถือทอนฟาเพื่อปราบเหล่าอธรรม ห้าต่อหนึ่งไงๆก็ชนะใสๆ  เสียงเพลงค่อยๆเบาลงพร้อมคำประกาศชื่อเรื่องอันห้าวหาญ……“จิ๊บแมน นกเหลืองพิทักษ์โลก  ตอนที่ 18 ....เจ้าเหล่าผู้ร้าย ต้องตายด้วยเจอขย้ำ!!!



คือว่า ขอประทานอภัยด้วยนะขอรับ ท่านเบียคุรัน....แต่นายท่านของเราติดขบวนการผู้พิทักษ์เรื่องนี้มาก ถ้าวันไหนไม่ได้ดูจะต้องลงแดงตายแล้วหายไปอาละวาดฟาดคนไม่ยั้ง...มันน่ากลัวสุดๆเลยขอรับ....     คุซาคาเบะลูกน้องคนสนิทของเจ้าของแผ่นดินสีดำอธิบายปรากฏการณ์ตรงหน้าให้แก่เจ้าของแผ่นดินสีขาวฟังด้วยใบหน้าที่มีเหงื่อหยด ด้วยความภาคภูมิใจในตัวเจ้านายของตนอย่างสุดขีด(ความกลัว)...



เบียคุรันหันหน้าเข้าไปมอง เจ้าคนผมสีดำสนิทในชุดดำสนิทที่นั่งจ้องจอภาพตาไม่กระพริบพร้อมด้วยริมฝีปากที่แสยะยิ้ม ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ หึ หึ...เหมือนชอบใจอะไรบางอย่างแล้ว ก็ต้องรีบละสายตาออกมานอกห้องก่อนที่ความน่าสยองขวัญจะครอบงำจิตใจที่ขาวบริสุทธิ์ของตน(?) .....นี่พวกเจ้ารีบควบม้าบึ่งมาถึงนี่ แล้วฟาดคนของเขาตายไปตั้งไม่รู้กี่คนต่อกี่คนนี่เพื่อที่จะรีบมาดู ไอ้การ์ตูนพรรณนั้นเนี่ยนะ....



มุคุโร่ที่รัก....เจ้าเลี้ยงน้องชายของเจ้ามาด้วยอะไร....เอาหญ้าผิดประเภทให้กินหรือว่าอย่างไรกัน.....ถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ได้เนี่ย....



เอ่อ...ในระหว่างที่นายท่านกำลังดู จิ๊บแมน อยู่...ข้าจะขอเล่ารายละเอียดคร่าวๆให้ฟังก่อนนะขอรับ...    คุซาคาเบะเริ่มทำหน้าที่คนสนิทที่ดี



คือว่า นายท่านต้องการให้ท่านเบียคุรันนำทางพวกเราเข้าไปในป่าสายหมอก เพื่อไปตามตัวท่านหญิงที่ถูกส่งตัวมาจากตระกูลโกคุเดระที่ถูกกลุ่มกองโจรแห่งป่าสายหมอกลักพาตัวไปน่ะขอรับ....โดยสิ่งแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ ก็คือสิ่งที่ท่านเบียคุรันต้องการมาโดยตลอด.....เอ่อ....พี่ชายของนายท่านน่ะขอรับ      เฮ้อ...กว่าจะสำนึกได้ว่าต้องออกตามหาตัวเจ้าหญิงที่หายไป ก็เล่นเอาม้าทั้งโรงเก็บเนื้อตัวสะอาดสะอ้านไร้เห็บมาเกาะแกะ....แล้วนี่กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้ยอมยกท่านพี่ชายให้เค้าไปซะได้ก็แทบแย่...ไม่รู้ว่าอยากจะเก็บเอาไว้ฟาดเองหรือยังไงหรือว่าจะเป็นเด็กติดพี่ก็ไม่รู้ละ...แต่ลูกน้องคนสนิทอย่างเขาก็ได้ปรึกษากับเหล่าขุนนางทั้งหลายแล้วว่า....นี่คือโอกาสอันดีที่จะทำให้สองพี่น้องนี่จะไม่ต้องกลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งได้อย่างเด็ดขาด....นึกถึงความหลังอันน่าสยองแล้วมันก็ชวนขนลุก.....ช่างเป็นพี่น้องที่รักกันปานจะฆ่ากันตายจริงๆ เจอหน้ากันทีไรก็เป็นต้องวิ่งเข้าไปกอดกันจนบ้านเมืองพังเป็นแถบๆ....สงสารคนต้องตามซ่อมอย่างพวกเขาบ้างเถ๊อะ....



อ๋า...อย่างั้นเองหรอ...ตกลงข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง     ได้ยินดังนั้นคุซาคาเบะก็แทบน้ำตาร่วงด้วยความซาบซึ้งใจ....หมดทุกข์หมดโศกกันซักทีนะ พวกกรมช่างประจำเมืองของเรา



ไปกันได้รึยัง    น้ำเสียงนิ่งสนิทของฮิบาริ  เคียวยะดังขึ้นที่หน้าประตูห้อง....จบแล้วรึไอ้ขบวนการห้าสีนั่นน่ะ.....



ชีวิตพี่ท่านจะเป็นยังไงกันนะ ถ้าไม่มีคุซาคาเบะผู้ซื่อสัตย์อยู่เคียงข้าง....ชาตินี้จะมีวันพูดคุยกับชาวบ้านเค้ารู้เรื่องไหมเนี่ย......



.
.
.
.
.
.
.


งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป....


ใครจะได้กดหรือใครจะโดนกด....

.
.
.
.
.



โปรดติดตามตอนต่อไป ไป ไป......




โอกกกก...หมู่นี้มีเรื่องให้คิดจนรั่วไม่ค่อยออก....แฝดน้องเสร็จนานแล้ว มัวแต่รอแฝดทางนี้นี่แหละเลยเอามาลงช้าไปนิดดดดด
ขอประทานอภัยด้วยนะคะ.....T^T....

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์และผู้ที่ติดตามอ่านทุกท่านเลยนะคะ
อ่า.....ในที่สุด....เม้นต์ฝั่งนี้ก็เท่ากับฝั่งโน้นแล้ว ....เย้ๆ...

อ่ะ...แต่ว่าขอไปตอบเม้นต์ที่ฝั่งโน้นนะคะ ส่วนใครที่เม้นต์เอาไว้ที่นี่ ก็อย่าลืมตามไปอ่านด้วยล่ะ เพราะว่าข้าพเจ้าตอบของทุกคนนั่นแหละ…^ ^....



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น