: KHR Fanfiction [Au]
: 805918
: Comedy ???
: PG
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......
.
.
.
.
.
“ จะบอกว่า.....เจ้าไม่ใช่ตุ๊กตา...แต่เป็นท่านหญิงที่ 1 แห่งตระกูลโกคุเดระ ที่กำลังจะถูกส่งตัวไปบรรณการเจ้าเมืองนามิโมริ ?” ร่างบางพยักหน้าแทนคำตอบให้กับชายร่างสูงผมสีดำตรงหน้า บางทีถ้าลองใช้มารยาหญิงหลอกล่อไอ้พวกโง่นี่ให้ตายใจว่าเขาเป็นเพียงหญิงสาวอ่อนแอไม่จำเป็นต้องคุมขัง แล้วค่อยชิ่งหนีอีกทีก็คงมิสาย
“ ใครจะไปเชื่อ....ดูยังไงๆ....เจ้าก็เป็นตุ๊กตาชัดๆ” โง่กว่านี้มีอีกไหม....
“ มีแต่เจ้าคนเดียวนั่นแหละที่ปัญญาอ่อนพอที่จะเชื่อว่าข้าเป็นตุ๊กตาน่ะ ไอ้โจรโง่” ไม่ตะคอกเปล่า มือบางๆของคนตัวเล็กกว่ายังจับจมูกเป็นสันของร่างสูงบีบแล้วจับโยกไปมา นี่ขบวนผู้คุ้มกันของเขามันไร้น้ำยาถึงขนาดโดนไอ้เอ๋อตรงหน้านี่เล่นงานจนกระเจิงได้เลยหรอวะ
“ โอ๊ยๆๆ” แล้วมือหนาของคนร้องโอดโอยก็เนียนจับมือบางที่บีบจมูกตัวเองอยู่ ที่ร้องๆไปน่ะ....เจ็บจริงหรือเปล่าก็หาได้มีใครรู้ไม่.....มืออีกข้างก็จับหมับเข้าให้ที่เอวบางๆที่ถูกเน้นสัดส่วนด้วยโอบิสีเลือด
“ พอก่อนๆ....นี่เจ้าอายุเท่าไหร่กันแน่....ทำไมยังไม่มีหน้าอก” ชะเฮ้ย!!!....โดนมันเนียนจับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ฟะ....ร่างบางรีบเด้งตัวออกห่างไอ้โจรเอ๋อเนียนตรงหน้าทันที....สายตามองไปยังคนที่นั่งหัวเราะปัญญาอ่อน ตรงหน้าอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ......
“ คึ หึ หึ .......บอกความจริงมาเถอะครับ....” ชายรูปร่างโปร่งบางอีกคนเอ่ยขึ้น หลังจากยืนพิงประตูบานเลื่อนฟังบทสนทนาของคนทั้งคู่อยู่พักใหญ่
“ ว่าเจ้าน่ะ......ไม่ใช่ท่านหญิง....แต่ต้องเรียกว่า..........”
“ ตุ๊กตาฮินะ สินะครับ....” ชิ้งงงงงงง………………………………………………………….
นี่ข้าหลงมาอยู่ ณ ดินแดนแห่งหนไหนกัน ท่านแม่!!!!
“ ไอ้พวกบ้า!!! ข้าคือนายน้อยสุดจะแมนแอนด์แฮนซั่มของตระกูลโกคุเดระต่างหากละเฟ้ย จำใส่กะโหลกชะโงกดูเงา(?)เอาไว้เลยนะโว้ย!!!” และแล้วร่างบอบบางที่หน้าไม่ให้แต่ใจรักจะแมนก็ตบะแตก ลุกขึ้นมายืนชี้หน้าด่าเรียงตัวอย่างสะใจ...แต่.....
เอ่อ.....ความลับแตกไปแล้วไม่ใช่รึนั่น......งานนี้มีอึ้งกันไปจนถึงสามนาที.....
“ อ่ะ....ถ้างั้นคงต้องพาไปพิสูจน์ ว่าเจ้าจะแมนแอนด์แฮนซั่มจริงๆรึเปล่า” อยู่ดีๆคนที่อยู่ในโหมดเนียนอึ้ง ก็ลุกขึ้นยืนและยกร่างบางๆของท่านหญิงโกคุเดระขึ้นพาดบ่า ขายาวก้าวออกไปจากห้อง
...............................................................................................................
ก้าบ...ก้าบ...ก้าบ....เป็ดอาบน้ำในคลอง...ตาก็จ้องแลมอง...เพราะในคลองมีหอยปูปลา.....
น้ำเสียงปัญญาอ่อนและเพลงกล่อมเด็กอนุบาลที่มันร้องทำให้เส้นเลือดขมับบนหน้าผากมนกระตุกถี่ยิบ....ไอ้ที่แกมองอยู่น่ะมันไม่ได้เรียกว่าหอยปูปลาโว้ย...แต่มันเป็นรูปร่างสุดเซ็กซี่ของฉันต่างหาก!!!
ก็แล้วทำไมเขาต้องมาโชว์เรือนร่างแสนเย้ายวนให้ไอ้บ้านี่ดูด้วยน่ะหรอ.....ใครจะไปรู้เล่า!! จู่ๆมันก็จับเขามาโยนโครมลงไปในอ่างอาบน้ำกว้างนี่จนสภาพไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำเลยซักนิด...คิดแล้วมันก็แค้น...
ยัง....มันยังคง ก้าบ ก้าบ ก้าบ...ต่อไป....หนอย.....
ด้วยความหมั่นไส้ในน้ำเสียงกวนประสาทและรอยยิ้มสดใสของอีกฝ่าย มือบางสองข้างจึงวักน้ำสาดขึ้นไปยังร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ริมขอบอ่างไม่มีหยุด
“ อ๋า....เดี๋ยวสิ...เปียกหมดแล้ว....” มือใหญ่ที่ยกขึ้นมาป้องกันหน้าตัวเองคว้าหมับเข้ามาที่ข้อมือบางของคนที่อยู่ในอ่าง ทำให้การสาดน้ำอย่างสะใจของร่างบางจำต้องหยุดลง
“ เจ้า...อยากให้ข้าอาบน้ำด้วยก็ไม่บอกนะ...คราวหลังบอกดีๆสิ ทำเสื้อผ้าเปียกแบบนี้เดี๋ยวข้าก็โดนดุหรอก” ไม่ว่าเปล่า ไอ้บ้าที่คิดเองเออเองก็จัดแจงถอดเสื้อผ้าแล้วโดดลงน้ำมาหน้าตาเฉย
“ แก๊...จะลงมาทำม๊าย ไอ้โรคจิต ถอยไปนะ” มือบางยกขึ้นชี้หน้าด่า
“ คำก็โรคจิต สองคำก็ไอ้บ้า...ข้าก็มีชื่อของข้านะ” จู่ๆใบหน้าบานเป็นจานเชิงก็ทำหูลู่หางตก ทำเอาคนที่ตะโกนด่าปาวๆถึงกับอึ้งไปเล็กน้อย
“ ในเมื่อเจ้าชื่อสุดสวย งั้นเรียกข้าว่าสุดหล่อก็แล้วกัน” ผลั๊วะ!!! กำปั่นเล็กๆของนายน้อยแห่งโกคุเดระสอยเข้าที่ปลายคางอย่างแม่นยำ พ่อสุดหล่อถึงกับลงไปนอนนับเดือนนับดาวที่ก้นอ่างทันที
“ สุดสวยบ้าอะไรกัน...ข้าต่างหากสุดหล่อน่ะ ลงไปเป็นผีก้นอ่างแล้วก็อย่าลืมมองเงาตัวเองในน้ำบ้างนะโว้ย ชิ...” หลังจากที่คิดว่าสลัดปลิงทะเลตัวยักษ์ได้แล้ว ร่างบางที่กำลังจะหันหลังกลับก็ถูกเรี่ยวแรงมหาศาลฉุดดึงให้หงายหลังลงไปในน้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง ริมฝีปากบางสำลักน้ำออกมาเป็นฟองน้ำลอยขึ้นไปด้านบน พยายามแหวกว่ายขึ้นจากน้ำแต่ก็ทำไม่ได้เนื่องจากอะไรบางอย่างจับกุมแขนเล็กเอาไว้แน่น ใบหน้าคมของอีกคนค่อยๆเคลื่อนมาอยู่ตรงหน้า นัยน์ตาทั้งสองคู่สบตากัน ฟองอากาศจากริมฝีปากของทั้งคู่พวยพุ่งขึ้นไปยังผิวน้ำเบื้องบน มือใหญ่โน้มต้นคอของร่างบางให้ใบหน้าสวยยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าคมของตน อากาศที่แทบจะหมดลงในร่างกายถูกเติมเต็มจากริมฝีปากของอีกฝ่าย แต่ไม่เพียงอากาศอย่างเดียวที่ถ่ายเทมาให้แต่ยังมีลิ้นร้อนที่ตามเข้ามารุกไล่กวาดต้อนสติให้กระเจิดกระเจิง....
“ แฮ่ก...แฮ่ก.....เจ้า!!!” ใบหน้าเนียนใสของนายน้อยแห่งโกคุเดระแดงก่ำ ทั้งหายใจไม่ทัน ทั้งโกรธ ทั้งอาย ถ้อยคำด่านับล้านวิ่งวุ่นอยู่ในหัวที่เส้นไหมสีเงินเปียกลู่แนบลำตัวบาง
“ ยามาโมโตะ ทาเคชิ....”
“ เรียกข้าสิ....โกคุเดระ”
“ ถ้าไม่เรียกข้าจะจูบเจ้าอีก แล้วถ้าไม่ยอมเรียกอีกข้าจะปล้ำเจ้า แล้วถ้า....” (เฮ้ย....ตัดๆๆๆ ไปฉากต่อไปเลย ยามะฝั่งนี้นี่มันเนียนนอกบทสุดๆ)
............................................................................................................................
กลิ่นคาวเลือดลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง บานประตูเลื่อนและแผงกันฝนทุกบานถูกปิดสนิท ความมืดทะมึนอัดแน่นอยู่ภายในห้องราวกับว่ามีวิญญาณพยาบาทสิงสู่อยู่มานับร้อยปี
ครืดดดดดด....
ประตูบานเลื่อนบานหนึ่งค่อยๆถูกเปิดออกพร้อมๆกับรังสีอำมหิต ขุ่นควั่กที่ล้นทะลักออกมาจากภายในห้อง แสงเทียนรำไรส่องให้เห็นร่างกายเพรียวแข็งแกร่งในชุดสีดำสนิทนั่งหันหลังให้ ใบหน้าขาวซีดค่อยๆหันกลับมาช้าๆ นัยน์ตาสีดำสนิทแฝงแววอาฆาตมาดร้ายจ้องเขม็งมายังผู้บุกรุกราวกับวิญญาณที่เจอตัวฆาตกรที่ซ่อนศพของตนไว้ใต้เสื่อทาทามิ(?) คุซาคาเบะที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกน้องคนสนิทแทบเข่าทรุดเมื่อเห็นสภาพของเจ้านาย มือใหญ่สอดเข้าไปในสาปเสื้อกิโมโนกุมผ้ายันต์เอาไว้แน่น....นะโมตัสสะ ภะคะวะโต...จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด....ปกติก็น่ากลัวจะตายอยู่แล้ว ไม่น่าเชื่อว่ายังมีผีห่าซาตานที่ไหนกล้ามาเข้าสิงด้วย....
“ เจอรึยัง...” น้ำเสียงเย็นๆเอ่ยออกมา พาเอาคุซาคาเบะสะดุ้งโหยง มือกำผ้ายันต์จนแทบจะหลอมเป็นก้อนเดียวกัน
“ ยะ...ยังเลยครับ” คุซาคาเบะลอบมองเหล่าศพที่ถูกมือแกร่งข้างนั้นขยี้จนตายคามืออย่างหวาดผวา ตั้งแต่รับใช้เจ้านายคนนี้มาตั้งแต่เด็กก็เพิ่งเคยเห็นคนตรงหน้าโกรธจนน่าขนลุก(?)ขนาดนี้
“ ไปเอาม้ามา” เสียง แซก แซก....เหมือนกับเสียงมือเน่าเปื่อยที่พยายามแหวกกอหญ้าขึ้นมา ดังมาจากเบื้องหลังเงาดำทะมึนของผู้เป็นนาย เล่นเอาคุซาคาเบะแทบลมจับ แต่คำสั่งที่ได้รับกลับสร้างความสงสัยยิ่งกว่า
“ ท่านจะไปไหนหรือขอรับ” ขอร้องละคุณท่าน...ออกไปฟาดคนข้างนอกยังน่ากลัวน้อยกว่ามานั่งให้ผีเข้าอยู่ในนี้ เป็นล้นพ้น...คุซาคาเบะได้แต่ภาวนาในใจให้เจ้านายของตนตอบออกมาว่าจะไปที่ไหนก็ได้ ถึงจะเป็นสุดขอบเหวเขาก็ยินดีจะตามไป
“ เจ้าไม่เห็นรึไงว่าฮิเบิร์ดมันไม่มีเห็บให้ข้าบี้แล้ว”
“ ข้าให้เวลาเจ้าครึ่งชั่วยาม ถ้าข้าไม่เห็นม้าของข้า....สัตว์เลี้ยงบนหัวเจ้า........” สายตาคมกริบเหลือบมองไปยังกองซากศพตัวเล็กตัวน้อยที่กองอยู่กับพื้นเสื่อ เห็นแค่นั้นคุซาคาเบะก็รีบลุกออกจากห้องไปโดยเร็ว...โอ้...คุณท่านช่างน่ากลัวจับจิตจริงๆ.....
คุซาคาเบะรีบตรงดิ่งไปยังคอกม้า....ท่านหญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่...ถึงทำให้เจ้าเมืองนามิโมริสุดโหดคนนั้นเป็นกังวลได้มากขนาดนี้...จนต้องมานั่งบี้เห็บแก้เครียด....ซึ่งถือเป็นอาการขั้นหนักสุด....เพราะปกติเวลาคุณท่านโมโหก็แค่ออกไปฟาดคนเล่น แต่นี่...มันเป็นสิ่งลี้ลับเกินจะบรรยายจริงๆ
อืม.....แต่ทางที่ดี รีบออกไปตามหามันจะไม่ดีกว่ารึ ?
………………………………………………………………………………..
“ โอ้ย!!! เบาๆหน่อยสิวะ ไอ้บ้านี่” ร่างบอบบางของนายน้อยโกคุเดระหันไปแว้ดใส่อีกคนทันที ที่หวีไม้ในมือใหญ่ดึงเอาเส้นผมให้พันกันจนยุ่งเหยิงจนเจ็บมาถึงรากผม ใบหน้าคมของยามาโมโตะได้แต่หัวเราะอย่างปลงตก....ที่เขาเก็บมานี่มันตุ๊กตาหรือว่าราชินีกันแน่....
“ ก็ข้าไม่เคยหวีผมให้ใครนี่นา” น้ำเสียงสดใสถูกเปล่งออกมาพร้อมกับมือที่ยังคงพยายามอย่างมากในการสางผมให้อีกฝ่าย
“ ช่วยไม่ได้ เจ้าต้องรับผิดชอบ ที่ทำให้เส้นผมอันนุ่มสลวยของข้าต้องพันกัน เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้ไป เจ้า!!! ต้องเป็นคนหวีผมให้ข้า!!!” หลังจากออกคำสั่งเสร็จใบหน้าสวยก็เชิดขึ้น คนที่นั่งอยู่ข้างหลังได้แต่ยิ้มผสมเหงื่อตก....โทษกันซะงั้นนะที่รัก.....
กว่าที่เส้นไหมสีเงินจะเรียงตัวสวยก็กินเวลาไปร่วมชั่วโมง ....ไอ้ฝ่ายเจ้าของผมก็นั่งไม่อยู่สุขเลยซักนิด ส่วนไอ้ฝ่ายหวีก็คอยแต่จะเนียนไปหวีอย่างอื่น....
มือใหญ่ของยามาโมโตะขยับมาจับคอเสื้อกิโมโนของร่างบางตรงหน้าให้เข้าที่เข้าทาง ดูท่าทางอนาคตจะลำบากซะแล้ว ในเมื่อเจ้าตุ๊กตาตัวสวยตรงหน้าดูท่าทางว่าจะทำอะไรเองแทบไม่เป็นเลยสักนิด...นี่ข้าจะต้องกลายมาเป็นสามีทาสซะแล้วหรือนี่...
“ นี่เจ้า....กำลังคิดเรื่องอัปมงคลอะไรอยู่” นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องเขม็งมายังใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับกำลังจ้องจับผิด
“ ถอยไป ข้าจะนอนแล้ว” มือบางผลักร่างสูงให้พ้นออกไปจากฟูกนอน ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนยึดพื้นที่ทั้งหมดของฟูกเอาไว้คนเดียว
“ อะไรล่ะ...นั่นมันที่นอนของข้านะ” ดูเหมือนจะเกิดสงครามแย่งดินแดนขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะหมดแรงจนผล็อยหลับไป เสียงลมหายใจสม่ำเสมอดังขึ้นไม่นานนัก นัยน์ตาสีเขียวมรกตก็ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งอย่างช้าๆ
มือบางค่อยๆยกแขนแกร่งที่พาดลำตัวของตนอยู่ออกไปอย่างแผ่วเบา หันไปมองใบหน้าคมที่กำลังหลับสนิท ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาช้าๆ ร่างกายบอบบางค่อยๆลุกออกจาฟูกอย่างเงียบเชียบ แล้วเดินตรงไปยังประตูบานเลื่อน
ใบหน้าสวยหันกลับไปมองร่างสูงที่นอนอยู่บนฟูกอีกครั้ง ....ไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย....หลังจากมองสลับไปสลับมาระหว่างประตูสู่อิสระ กับ คนที่พันธนาการเขาไว้อยู่นาน...ในที่สุดนายน้อยแห่งโกคุเดระก็ตัดสินใจได้เสียที มือบางยกขึ้นไปแตะประตูบานเลื่อนก่อนจะออกแรงเปิดมันออกอย่างช้าๆ
“ นั่นเจ้ากำลังจะไปไหน” น้ำเสียงที่เคยสดใสเสมอของคนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับนิ่งสนิท มือใหญ่จับแขนเล็กแน่น อีกมือเลื่อนประตูให้ปิดลงดังเดิม
“ เจ้า!!! ตื่นมาก็ดีเลย พาข้าไปห้องน้ำหน่อยซิ” อ้าว...นี่ไม่ได้คิดจะหนีไปไหนหรอกเร๊อะ....
“ ห้องน้ำ?” ร่างสูงถึงกับงง เมื่อร่างบางตรงหน้าไม่ได้กำลังทำอย่างที่ตนคิด
“ ยังจะมาทำหน้าโง่...รีบๆพาไปเร็วๆ มันจะราดอยู่แล้วเนี่ย...ข้าอุตส่าห์เดินวนเวียนอยู่หน้าประตูตั้งนานทำไมเจ้าไม่ตื่นห๊ะ” ถ้อยคำเอาแต่ใจ แต่กลับทำให้ร่างสูงหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเดินนำร่างบางออกไปจากห้อง
“ ก็ข้านึกว่าเจ้ากำลังจะหนีไปน่ะสิ”
“ หนี? ทำไมข้าต้องหนีด้วยล่ะ” เอ่อ....ดูตามสถานการณ์แล้ว...เป็นใครมันก็ต้องคิดจะหนีทั้งนั้นไม่ใช่เร๊อะ พ่อคุณ
“ ฮะ ฮะ...ไม่หนีก็ดีแล้วละ...เพราะว่าข้างนอกน่ะ มีหมียักษ์ด้วยนะ ตัวงี้สูงกว่าภูเขาไฟฟูจิอีก” ไอ้บ้า...ใครเชื่อก็ปัญญาอ่อนแล้ว ร่างบางได้แต่คิดอยู่ในใจ....ว่าแต่ทำไมหมอนี่ถึงคิดว่าเขาจะหนีกันนะ ในเมื่ออยู่ที่นี่ก็ออกจะสบายดีนี่นา มีคนแต่งตัวให้ มีคนหวีผมให้ มีคนพาไปห้องน้ำตอนกลางคืนด้วย สบายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แล้วจะหนีไปทำไมล่ะ?
......เอ่อ....หนูก๊ก......นี่ไม่ได้ดูเลยใช่ไหมว่าอีกฝั่งนึงเค้าเป็นยังไง.........
.......................................................................................................................
สายหมอกบางๆโอบล้อมร่างกายโปร่งราวกับเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เกิด ดวงตาสองสีทอดมองไปไกลแสนไกล...เส้นผมยาวสีน้ำเงินเข้มที่ถูกมัดอยู่ด้วยเชือกสีดำเส้นเล็กโบกสะบัดคลอเคลียไปกับสายหมอก สิบกว่าปีแล้วสินะที่อยู่ที่นี่ ถึงจะไม่ใช่บ้านที่กำเนิดเกิดมาแต่ความผูกพันนั้นก็มากมายเกินกว่าจะทำใจให้จากลาไปได้....
มือเรียวยื่นออกไปข้างหน้าทำท่าไขว่คว้าอากาศ ราวกับพระเอกหนังเกาหลีมายืนทำซึ้งในฉากสารภาพรักกลางสายฝน แต่แทนที่จะเป็นสาวเจ้ายื่นร่มส่งมาให้ กลับกลายเป็นเสียงดังโครม! พร้อมกับถ้วยชาใบสวยที่ลอยหวืดผ่านหน้าหล่อๆนั่นไป สายน้ำชากลิ่นหอมดอกไม้สาดเป็นทางไปกระทบลงที่พื้นไม้ที่ร่างโปร่งเหยียบอยู่.....
“ อ่า...อยู่ที่นี่เองหรอ มุคุโร่” ร่างเล็กๆของเจ้าของใบหน้าน่ารักกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลไหม้นอนพังพาบอยู่บนพื้นไม้กระดาน ไม่ห่างจากกองน้ำชาที่หกเลอะเทอะนัก
“ อย่าออกมาเดินสะดุดหัวทิ่มอยู่ตรงนี้สิครับ เดี๋ยวน้ำในแก้วนั่นกระเด็นมาโดนผมข้าเสียทรงหมดก็แย่น่ะสิ” ยื่นมือออกไปจับตัวอีกคนให้ลุกขึ้นมายืนแต่โดยดี ก่อนที่จะเหลือบตาลงไปมองพื้นไม้กระดานที่กำลังถูกน้ำชากลิ่นหอมหวานกัดเซาะจนใกล้จะทะลุ(?)
“ แล้ว....มีอะไรหรือครับ สึนะโยชิคุง” รอยยิ้มละไมถูกส่งไปให้คนข้างๆที่ขนแขนเริ่มลุกเกรียว นัยน์ตาสองสีหวานเชื่อมถูกส่งมาให้โดยที่ไม่ได้รับรู้เล้ย ว่าคนได้รับมันผืนขึ้นจนคันยิบๆไปทั่วทั้งหลังแล้ว!
“ ข้าชงชากลิ่นใหม่มาให้เจ้าลองชิมน่ะ พอดีเมื่อวานข้าเพิ่งไปเจอดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ด้านหลังภูเขา ถ้าข้าจำไม่ผิด มันเป็นสมุนไพรที่หายากมากๆเลยนะ แต่น่าเสียดายที่มันหกไปหมดแล้ว....” ใบหน้าน่ารักสลดหดหู่ลงก้มหน้าอย่างผิดหวัง....ใช่....เขากำลังผิดหวัง....
ต้องโทษไอ้เจ้าหัวสับปะรดนี่แหละ ที่มันจนแสนจน จนไม่มีเงินมาซ่อมพื้นบ้านที่เก่าผุพังจนมันเงิงออกมาทำให้ร่างกายที่อ่อนแอของเขาสะดุดล้ม จนเป็นเหตุให้ชาที่อุตส่าห์เคี่ยวมาตั้งครึ่งค่อนวันหกหมด ....แกรู้ไหมว่ากว่าฉันจะไปหาดอกเห็ดที่มันขึ้นปีละครั้ง กินแค่เสี้ยวเดียวก็ตายสนิทแบบนั้นมาได้มันลำบากขนาดไหน....อุตส่าห์ทำมาเพื่อแกโดยเฉพาะกินๆแล้วก็รีบตายๆไปซะ ไอ้เจ้าพืชไร่ไร้น้ำยา ข้าจะได้ไปหาคนใหม่ ที่หล่อกว่าเจ้า สูงกว่าเจ้า เมะกว่าเจ้า และสำคัญที่สุด รวยกว่าเจ้า ซะที!!!
“ ช่างเถอะ....เอ่อ....ได้ยินมาว่า ยามาโมโตะพาใครมาด้วยงั้นหรือ” ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอบอุ่น พร้อมกับคำถามเรียบง่ายต่างกับในใจลิบลับ
“ ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน...ว่านั่นเค้าเรียกว่า ตุ๊กตาฮินะ หรือว่า Ball Joint Dollกันแน่....”
“ Ball Joint Doll !!!” เสียงอุทานเล็กๆราวกับสาวน้อยอ่อนแอ แต่ในใจกลับลิงโลด....หึ หึ ....ถ้าเป็นตุ๊กตาที่แพงขนาดนั้น คงจะมีแต่บรรดาเจ้าเมืองเท่านั้นแหละที่จะหามาเล่นได้ และถ้าพูดถึงเจ้าเมือง...ชื่อๆหนึ่งก็ลอยขึ้นมาในหัวทันที....ถ้าเป็นคนที่หวงของไม่บันยะบันยังแบบนั้นคงต้องตามมาทวงคืนเป็นแน่.....หึ หึ....ไอ้หัวสับปะรด งานนี้แกเสร็จฉันละ.........
คนทั้งโลกจะเป็นยังไงก็ช่าง...มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ข้าจะรีบถีบหัวส่ง.........ไอ้สับปะรดเน่าเก่าเก็บ.........
.
.
.
.
.
.
.
งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป....
ใครจะได้กดหรือใครจะโดนกด....
.
.
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป ไป ไป......
คราวนี้แต่งแฝดอีกฝั่งนึงก่อนค่ะ แล้วมารั่วเสื่อมตามทีหลัง...ฮะ ฮะ....
ทางฝั่งนู้นมีตอบเม้นต์ด้วยค่ะ เอ้า...ถ้าใครอยากให้มาตอบเม้นต์ที่ฝั่งนี้บ้างก็ช่วยกันเม้นต์เข้าล่ะ
ตอนไหนฝั่งไหนเม้นต์เยอะกว่าก็จะจรลีไปตอบที่ฝั่งนั้นละ ยกให้เรื่องนี้เรื่องเดียวเลยนะ ที่จะตอบเม้นต์ทุกตอน!!!
ขอบคุณมากๆนะค้าที่ติดตามกันมาโดยตลอด...^ ^...แต่งเรื่องนี้นี่มันสนุกจริงๆ
มันแบบว่า....แต่งไปก็คิดไป ว่าถ้าคนนี้ไม่ทำแบบนี้แต่ไปทำแบบนั้นมันจะเป็นไง
หรือว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ แต่คนที่อยู่ในเรื่องมันดันนิสัยไม่เหมือนกันมันจะเป็นไง....
อืม....มีหลายคนถามว่าไม่งงหรอที่แต่งออกมาคู่กันแบบนี้....
ถ้าจะบอกว่า ปกติแล้วเป็นพวกชอบคิดอะไรสองทางแบบนี้อยู่แล้วนี่จะหาว่าข้าพเจ้าเป็นคนแปลกไหมน้า...555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น