: KHR Fanfiction Au
: 185980 1006927 XSD
: Drama
: NC-17
คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ
: ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......
[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....
.
.
.
.
สมการสามเส้า ของพวกเขาสามคู่
กับความรักของคน 9 คน กับความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนใน 9 ด้าน
กับความต้องการและความปรารถนาที่จะครอบครองบุคคลอันเป็นที่รัก
สุดท้าย.......
ดอกไม้แห่งความหวังจะเบ่งบานแย้มยิ้มให้แก่....ผู้ใดกัน
กับความรักของคน 9 คน กับความรู้สึกและเหตุผลของแต่ละคนใน 9 ด้าน
กับความต้องการและความปรารถนาที่จะครอบครองบุคคลอันเป็นที่รัก
สุดท้าย.......
ดอกไม้แห่งความหวังจะเบ่งบานแย้มยิ้มให้แก่....ผู้ใดกัน
By : K_Guardian_7
.
.
.
.
.
.
.
……ที่นี่....ที่ไหนกัน.......
นัยน์ตาสีน้ำแข็งที่พร่าเลือนค่อยๆแจ่มชัดขึ้นทีละน้อย มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่จะสามารถขยับได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวด ส่วนร่างกายที่เหลือราวกับไม่ใช่ของตนเอง แค่คิดที่จะขยับความปวดร้าวก็แล่นลิ่วเข้ามาครอบงำแทบทุกส่วน เหลือบมองไปที่ลำตัวของตนเองนั้นเต็มไปด้วยผ้าพันแผลแต่ก็ไม่มีอาภรณ์ใดปกปิดร่างกายเอาไว้อีก เส้นผมสีเงินที่เคยมัดอยู่เสมอมาถูกปล่อยให้แผ่สยายไปเต็มหมอน....ไม่เอา....อย่าปล่อยมัน...อยากจะมัดเอาไว้...มัดไว้ให้แน่นไม่ให้หลุดลุ่ยออกมาแม้สักเส้น....เพราะมันทำให้คิดถึง....อีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่มักจะปล่อยให้เส้นไหมสีเงินนี้พลิ้วไสวไปตามสายลมอิสระ.....
“ อ๊ะ!...” ใบหน้าสวยมีแววตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงมือของใครสักคนที่ลูบไล้เส้นผมของตนอย่างแผ่วเบา ทั้งๆที่ไม่สามารถที่จะเงยหน้ามองได้แต่เขาก็รู้ดี ว่ามือคู่นี้เป็นของใคร....
“ ทำไม....ทำไมแกไม่ฆ่าฉัน” ริมฝีปากที่เคยอวบอิ่มกลับซีดเซียวเม้มปากก่อนที่จะกัดฟันพูดอย่างแค้นเคือง...เจ็บใจ...ที่ไม่สามารถเด็ดหัวชายคนนี้ได้....และยิ่งเจ็บใจมากกว่า เมื่อรู้ว่าคนที่จับเขามาคือชายคนนี้.....ชายที่เขาสาบานว่าจะเกลียดยิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิต
“ ..........” ถึงแม้จะไม่มีเสียงใดตอบกลับมา แต่สัมผัสที่เส้นผมก็ยังคงอยู่ มือใหญ่ยังคงลูบไล้มันอย่างทะนุถนอม......
“ เอามือของแกออกไปจากผมของฉัน!” เสียงตะโกนกร้าวออกมาจากคนที่ยังทำไม่ได้แม้แต่จะขยับตัว นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเพลิงแค้นและเกรี้ยวกราดราวกับฉลามคลั่งนั่นทำให้นัยน์ตาสีแดงเพลิงหยุดมอง....ไอ้ฉลามสวะของเขาก็เคยมีแววตาแบบนี้....แต่มันไม่เคยมอบแววตาเคียดแค้นแบบนี้ให้เขาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
“ ฉันจะบอกแกไว้เลยนะว่า...ถ้าตอนนี้แกไม่ฆ่าฉัน...สักวันฉันจะฆ่าแก!”
“ อยากจะทำอะไรก็เชิญ....แต่สิ่งเดียวที่แกจะไม่สามารถหลีกหนีไปได้ชั่วชีวิต...... คือฉัน!...” จากเคยลูบไล้อย่างอ่อนโยน มือใหญ่กลับกระชากเส้นไหมสีเงินให้ใบหน้าที่แสนคิดถึงเงยหน้ามาสบตา แววตาที่มีแต่ความเคียดแค้นเบิกกว้างขึ้น
ฉันจะไม่ถาม...ว่าทำไมแกถึงทำกับฉันแบบนี้...
เพราะแค่มองเข้าไปในดวงตาสีโลหิตของแก ฉันก็เข้าใจมันได้ดี....
สิ่งที่แกทำ...สิ่งที่แกต้องการ...มันไม่ใช่ฉัน....ไม่ใช่....
ถึงแม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะเหมือนกันจนแทบจะเป็นคนคนเดียวกัน...
แต่คนที่รักแกจนยอมทิ้งได้แม้แต่ชีวิต....กับคนที่เกลียดแกจนไม่คิดเรื่องอื่นนอกจากปลิดชีวิตแกให้สิ้น....
ก็ไม่มีทางที่จะเป็นคนคนเดียวกันได้....
เป็นไม่ได้แม้แต่ตัวแทนของคนคนนั้นอย่างที่แกต้องการ…
......................................................................................................................................................
“ ออกมาได้แล้วมั้ง...บุปผามรณะ...เจ้าคงไม่คิดหรอกนะว่าดอกไม้เล็กๆของเจ้าจะทำอะไรข้าได้....”
ใช่...ดอกไม้ดอกเล็กๆที่มีเพียงแค่หนามก้านเล็กๆ แต่ทว่ามันกลับทิ่มแทงหัวใจของเขาจนกลายเป็นแผลเหวอะหวะ
ที่ข้างหลังต้นไม้ใหญ่ที่ดอกไม้สีไพลินของเขาพักพิงอยู่ยามสลบไสล ค่อยๆปรากฏเงาร่างของใครคนหนึ่ง ร่างกายเล็กๆที่ดูอ่อนแอและบอบบาง ใบหน้าน่ารักและดวงตาเป็นประกายสดใสราวกับท้องฟ้าที่ไร้ราคี...ดอกไม้เล็กๆที่ดูไร้พิษภัยไร้พิษสงใดๆ ดอกไม้ที่ได้แต่แต่งแต้มโลกใบนี้ให้สดใส....แต่ใครจะรู้....ว่าแท้ที่จริงแล้ว....
“ ไม่ได้เจอกันเสียนานนะ สึนะโยชิคุง” ใช่...ไม่ได้เจอและไม่คิดที่จะอยากเจอด้วย...คนที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะฉุดรั้งดอกไม้สีไพลินที่ควรจะเป็นของเขากลับไป
“ สมใจเจ้าหรือยังล่ะ...ที่พี่น้องเขาตัดขาดกันแบบนี้น่ะ” ใบหน้าสบายๆยังคงพูดด้วยด้วยรอยยิ้ม ต่างกับภายในจิตใจที่นึกชิงชังมากมายนัก ร่างเล็กๆตรงหน้าค่อยๆเดินออกมาจากม่านหมอกเพื่อเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่กลัวเกรง....ใช่สิ....มุคุโร่คุงสลบไปแล้วแบบนี้...บุปผามรณะคนนี้ก็คงไม่ต้องปิดบังธาตุแท้ของตนเองเอาไว้อีก
“ ข้าควรจะถามเจ้ามากว่าไม่ใช่รึ ท่านเจ้าของแผ่นดินสีขาว ผู้ซึ่งไม่เคยลงมือทำสิ่งใดคอยแต่จะเก็บผลประโยชน์ที่คนอื่นเค้าทำเอาไว้” นัยน์ตาสีน้ำตาลนิ่งสนิทจ้องตอบกลับมาอย่างที่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า เป็นบุปผามรณะที่ดูแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนที่เจอกันเมื่อสมัยก่อนราวกับเป็นคนละคน....ความรักและความต้องการที่จะเหนี่ยวรั้งคนที่เจ้ารัก...มันทำให้จากดอกไม้เล็กๆที่แสนจะบอบบาง กลับกลายเป็นดอกไม้มรณะได้ขนาดนี้เชียวหรือ....
“ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ...เจ้าแน่ใจหรือ...ว่าข้าไม่ต้องทำสิ่งใด...” ถึงแม้ว่าใบหน้าหล่อเหลากำลังหัวเราะ แต่ดวงตาสีอเมทริสกลับหม่นหมอง
“ แค่ต้องถูกมองว่าเป็นดั่งอสรพิษร้ายเจ้าเล่ห์แทนเจ้านี่ไม่ถือว่าข้าทำสิ่งใดเลยเช่นนั้นหรือ...”
“ มันไม่มีสิ่งใดเจ็บปวดเกินกว่าคนที่ข้ารักมองว่าข้าเลวร้าย ทั้งๆที่จริงแล้ว...คนที่ทำเรื่องเลวร้ายทั้งหมดนั้นคือเจ้า...คนที่เขากลับมองว่าคือคนที่แสนดี” ใช่...มันเจ็บปวด...เจ็บปวดมาก...เมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองรักและทุ่มเทให้ได้ทุกอย่างกลับเลือก...ที่จะหันหลังเดินไปจากเขา เพื่อไปปกป้องใครอีกคน...ทั้งๆที่รู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอย่างที่ดวงตาสองสีนั่นมองเห็น แต่มิอาจเอ่ยปากห้ามอะไรได้....
“ อย่าพูดเหมือนกับว่าเจ้ารู้!!!” ร่างเล็กๆที่เคยที่เคยสงบนิ่งมาตลอดเผลอตวาดออกมา ราวกับมีคำพูดใดทิ่มแทงลงไปในจิตใจ
“ คนอย่างเจ้า...คนอย่างเจ้า...คนที่แย่งเขาไปอย่างเจ้า จะมารู้อะไร!” สองมือเล็กกำหมัดแน่น...ตั้งแต่เกิดมา ถึงไม่ดีพร้อมแต่ก็ไม่เคยเสียใจที่ได้เกิดมาในแบบที่เป็น จนกระทั่งเมื่อถึงวันนั้น...วันที่มุคุโร่จำต้องเดินจากเขาไป...ถึงได้เพิ่งรู้ เพิ่งได้น้อยใจในความต่ำต้อยและอ่อนแอของตัวเอง...เพิ่งจะรู้ว่าตัวเองนั้นทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่เฝ้ามองคนที่รักเดินจากไป....ถึงจะเอื้อมมือไขว่คว้าสักเพียงใดก็มิอาจเอื้อมถึง....
“ ว่าข้าเฝ้ารอเขากลับมา...รอ...รอทั้งๆที่ไม่มีหวัง....รอจนกระทั่งข้ารอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว” ใช่....คนที่ได้เขาไปอย่างเจ้าไม่มีวันรู้หรอก...ว่าข้าต้องหลั่งน้ำตาแทบเป็นสายเลือดยามเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะไม่กลับมาหาข้าอีกแล้ว...
“ เจ้าก็เลยยอมแลก...ยอมเสี่ยงด้วยชีวิตของเจ้า...เพื่อทำให้มุคุโร่คุงกลับไปหาเจ้า โดยไม่สนใจทั้งฮิบาริ เคียวยะ หรือแม้กระทั่งอีกหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตายอย่างนั้นสินะ” น้ำเสียงที่เคยพูดสบายๆกลับแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง...มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ไม่มีใครรู้....มีเพียงเขาและร่างเล็กๆตรงหน้านี้เท่านั้นที่รู้ดีอยู่แก่ใจ
เพราะเรื่องนี้....จะให้มุคุโร่รู้ไม่ได้เด็ดขาด....
“ เจ้ายอมเสนอตัวเป็นตุ๊กตาตัวแทน โดยไม่ให้ฮิบาริคุงรู้....ทำราวกับว่านั่นคือคำสั่งจากเขาที่สั่งให้เจ้าไปตาย....เพื่อให้มุคุโร่คุงหนีจากข้าแล้วไปช่วยเจ้าออกมา....” น้ำเสียงนั้นช่างเชือดเฉือนจนคนที่ถูกไล่ต้อนถึงกับสั่นสะท้าน
“ คนที่ทรยศต่อคำสัญญาของสองพี่น้องคู่นั้นคือเจ้า...เจ้าต่างหากสึนะโยชิ....เจ้ารู้..ว่าถ้าฮิบาริ เคียวยะรู้เรื่องว่าคนที่จะมาเป็นตุ๊กตาตัวแทนคือเจ้า เขาคงไม่มีวันยอม....เจ้ารู้...ว่าถ้าเจ้าไม่เอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง มุคุโร่คุงก็อาจจะไม่กลับไปช่วยเจ้า อาจจะไม่กลับไปหาเจ้า....แล้วเจ้าก็รู้....ว่าถ้ามิโกะผู้ซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวแทนโดนลักพาตัวไป ท่านหญิงที่กำลังป่วยหนักคนนั้นก็จะตายทันที....เจ้ารู้...ว่าสิ่งที่เจ้าทำมันจะสร้างความบาดหมางถึงขั้นตัดขาดสายสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นมาได้อย่างยากเย็นของสองพี่น้องนั่น”
“ มุคุโร่คุงคิดว่านั่นคือคำสั่งของฮิบาริ เคียวยะ จึงโกรธที่เขาไม่รักษาสัญญาว่าจะดูแลเจ้า จนไม่ยั้งคิดว่าการไปลักพาตัวเจ้าออกมามันส่งผลถึงชีวิตของหญิงสาวผู้ซึ่งไม่รู้เรื่องด้วยเลยแม้แต่น้อย....จากนั้นฮิบาริคุงก็แค้นมุคุโร่คุงที่เป็นต้นเหตุทำให้พี่สาวที่เขารักต้องจากไป....เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวของเจ้ามิใช่หรือสึนะโยชิคุง” เจ้าของแผ่นดินสีขาวยังคงไล่ต้อนจนถึงที่สุด บีบคั้นให้อีกฝ่ายยอมรับในการกระทำเลวร้ายของตัวเอง ไล่ต้อนให้ความรู้สึกผิดมันจุกขึ้นไปถึงลำคอจนแทบจะหายใจไม่ออก
มือเล็กของสึนะโยชิกำแน่น ลำตัวเล็กๆสั่นสะท้าน...สิ่งที่กระทำลงไปก็รู้ว่าเลวร้าย...แต่พอได้มาฟังจากปากของคนอื่น โดยเฉพาะคนตรงหน้านี้ด้วยแล้ว ความรู้สึกผิดมันก็ยิ่งถาโถมเข้ามาในจิตใจราวกับคลื่นทะเลบ้าคลั่ง....ถ้าเพียงแค่....ข้าจะมีทางเลือกอื่นบ้าง.......
ใช่....ถ้าเพียงแค่...คนอย่างเจ้าจะไม่เข้ามายุ่งกับมุคุโร่ของข้า.....
“ หึ...ข้ารู้ว่าข้าผิด...แต่คนที่รู้เรื่องทุกอย่างอย่างเจ้า กลับปล่อยให้มุคุโร่ทำตามสิ่งที่ข้าวางแผนเอาไว้...เจ้าเองก็ไม่ได้ต่างไปจากข้านักหรอก...แล้วจะมาบอกว่าเจ้าต้องแบกรับความเกลียดชังเอาไว้ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรได้อย่างไรท่านเจ้าของแผ่นดินสีขาว” ข้าจะไม่ยอมเจ้าอีก...ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม...แม้แต่เรื่องที่ข้าก่อขึ้น...ข้าก็จะไม่ยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวหรอก...
“ แผนที่เจ้าวางเอาไว้...นั่นก็คือปล่อยให้ข้าทำทุกอย่างให้เสร็จสิ้นแล้วค่อยมาแย่งมุคุโร่ไปจากข้าอีกครั้งอย่างนั้นมิใช่หรือ”
“ เท่านี้มุคุโร่ก็จะเป็นของเจ้าโดยสมบูรณ์แบบ โดยไม่ต้องมีทั้งข้าและฮิบาริมาคอยกวนใจเจ้าอีกต่อไปอย่างนั้นใช่ไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้ที่ประกายแห่งความแข็งกร้าวกลับมาอีกครั้ง จ้องตอบกลับไปยังดวงตาสีอมเทริสอย่างมิได้กลัวเกรงอีกต่อไป
“ ฮะ ฮะ ฮะ ถูกที่ว่าข้ารู้แผนของเจ้าและก็ตั้งใจจะปล่อยให้เจ้าทำต่อไป แต่ก็ผิดตรงที่ว่าข้าไม่ได้รู้มันมาตั้งแต่ต้น...ข้าเพิ่งรู้หลังจากที่ท่านหญิงผู้นั้นเสียชีวิตไปแล้ว หรือก็คือหลังจากที่พวกเจ้าสองคนหนีเข้าไปในป่าสายหมอกแล้วนั่นแหละ”
“ งั้นรึ....” ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มเย็นมาให้อีกคนที่ยืนประจันหน้ากันอยู่.....แต่ไม่ว่าเจ้าจะรู้ตอนไหน ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกมุคุโร่และฮิบาริอย่างเด็ดขาด!
“ โอ๊ะ! เจ้านี่มันขี้โกงจริงๆ” จู่ๆร่างสีขาวก็กระโดดหลบอะไรบางอย่างที่โผล่ขึ้นมาจากผืนดิน ดอกไม้สีเหลืองมากมายเบ่งบานขึ้นมาราวกับเป็นภาพลวงตา กลิ่นหอมที่ลอยฟุ้งไปทั่วทำให้เบียคุรันต้องรีบเอามือปิดจมูก...ถ้าสูดดมเข้าไปละก็....
“ หลอกให้ข้ายืนคุยกับเจ้า ทั้งๆที่ตัวเองเริ่มหว่านเมล็ดดอกไม้พวกนี้....หึ...” ดวงตาสีอเมทริสเหลือบมองไปรอบกาย ดอกไม้หลากสีพากันเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เถาวัลย์เลื้อยเข้าหาร่างสีขาวราวกับอรสพิษร้ายหมายจะกำจัดเหยื่อ...
“ ข้าว่าเจ้าโชคดีนะเบียคุรัน...ที่กำลังจะได้ตายอยู่ในกรงดอกไม้ที่สวยงามพวกนี้” นัยน์ตาสีน้ำตาลไหม้นิ่งสนิทจ้องมองอีกคนที่กระโดดหลบดอกไม้ที่เขาสร้างขึ้น ถึงแม้ว่ามือนั่นจะกวัดแกว่งดาบสีขาวฟาดฟันจนกลีบดอกปลิวกระจายไปทั่ว แต่มันก็ไม่ได้รวดเร็วไปกว่าดอกไม้ของเขาที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและกำลังห้อมล้อมร่างสูงโปร่งนั่นอยู่
ร่างสีขาวกระโดดหลบไปเรื่อยๆ ราวกับว่ากำลังสนุกที่ถูกดอกไม้มรณะเหล่านั้นไล่ตาม ใบหน้ายิ้มแย้มสบายๆส่งมาให้ร่างเล็กๆราวกับจะยั่วยุ แต่ดวงตาสีน้ำตาลไหม้กลับมองไปอย่างนิ่งสงบ ปริมาณดอกไม้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากระเรื่อยิ้มร้ายออกมา....อีกไม่นานดอกไม้พวกนี้ก็จะโอบล้อมเจ้าจนไม่มีแม้แต่ที่ที่เจ้าจะหายใจ!
แต่แล้วสิ่งที่คาดการณ์เอาไว้กับสลายหายไปเมื่อจู่ดาบสีขาวที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้กลับกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วและรุนแรง จนดวงตาสีน้ำตาลไหม้ถึงกับเบิกกว้าง ดอกไม้ที่คิดว่าจะปลิดชีวิตของอีกฝ่ายได้ในไม่ช้ากลับถูกตัดขาดด้วยเพลงดาบนั้นจนไม่เหลือแม้แต่เศษผง...ไม่จริง....
เบียคุรันละสายตาจากดอกไม้ที่ค่อยๆสลายหายไปแล้วพุ่งตรงมายังร่างเล็กที่ยืนนิ่งอยู่ แต่ก่อนที่จะถึงตัวปราการดอกซากุระหลงฤดูนับพันก็พุ่งตรงเข้ามาขัดขวาง...ช่างเป็นดอกไม้ที่น่าหงุดหงิดเสียจริง....
ในเมื่อเป็นแบบนี้ก็มีแต่ต้องเป่ามันให้เป็นผงไป....
ร่างกายสีขาวขยับหลบดอกซากุระที่พุ่งตรงเข้ามาหาอย่างรวดเร็วเพื่อรอจังหวะโต้กลับ โดยที่ยอมละสายตาไปจากม่านหมอกและดอกไม้ที่อันตรายที่สุด
“ อึก....เจ้า.....” ความเจ็บแปลบแล่นลิ่วขึ้นมาจากบริเวณหน้าท้อง กลิ่นคาวเลือดเข้มข้นรุนแรงกว่ากลิ่นดอกไม้ที่ลอยอยู่รอบๆตัวหลายเท่านัก ร่างเล็กๆที่ขยับเข้ามาอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้กำลังกดมีดสั้นเล่มหนึ่งให้จมลึกลงไปในร่างกายของเขามากขึ้น ก่อนที่จะกระชากมันออกไปอย่างไม่ใยดี เลือดสีแดงสดพุ่งทะลักออกไปจากร่างกายของเขา จนสิ่งที่เป็นสีขาวถูกย้อมไปด้วยสีแห่งชีวิต...ก่อนที่ร่างจะค่อยๆทรุดลง มือก็คว้าไปที่แขนเล็กๆที่กำลังจะเดินออกห่าง
“ เจ้าน่ะ...มัวแต่ระแวงดอกไม้ของข้า...จนหลงลืมไปว่า...ตัวข้าเองก็เคลื่อนที่ได้เหมือนกัน” แขนเล็กสะบัดมือของเขาออก ใบหน้าที่มองมานั้นเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน...แผลแค่นี้....แผลแค่นี้...ทำไมข้าถึงได้ขยับตัวแทบไม่ไหว....มืออีกข้างที่เคยกุมปากแผลอยู่ยกขึ้นมาอย่างสั่นเทา....เลือด...กลายเป็นสีดำ....
....ยาพิษ.......
“ ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแย่งมุคุโร่ไปอีก....ไม่มีวัน....” เสียงของดอกไม้อ่อนแอดอกนั้นแว่วเข้ามาในหัวก่อนที่ร่างทั้งร่างจะล้มลงไปสู่พื้นดิน...กลีบดอกไม้หลากสีพากันปลิวว่อนราวกับจะร่วมไว้อาลัย....
ไม่....ข้าจะไม่ยอมตาย....
ไม่....มุคุโร่ต้องเป็นของข้า...ของข้าเท่านั้น.....
สายตาอันพร่าเลือน มองเห็นรางๆว่า ดอกไม้ที่น่ารังเกียจนั่นกำลังพาคนที่เขารักมากที่สุด คนที่สำคัญที่สุดของเขาไป...ถึงวันนี้ข้าจะแพ้เจ้า...แต่ข้า...ไม่มีวันปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด มือที่สั่นเทาเอื้อมเข้าไปในอกเสื้อ ก่อนที่ดอกกล้วยไม้สีขาวดอกหนึ่งจะถูกหยิบออกมาแล้วสลายหายไปกับอากาศตรงหน้า.....
ข้าจะไม่มีวัน ปล่อยเจ้าไป.....ไม่มีวัน!
มือที่ยังคงขยับไหวกำดอกไม้ที่อยู่บนพื้นแน่น...ข้าเกลียดดอกไม้ที่มีสีเหลือง...เพราะมันทำให้นึกถึงเจ้า สึนะโยชิ!
.............................................................................................................................................
จิตสังหารกลุ่มก้อนใหญ่ค่อยๆเลือนหายไปแล้ว นั่นคือเรื่องเดียวที่สามารถรับรู้ได้จากตรงนี้ ที่ซึ่งห่างไกลจากการปะทะมากมายนัก มือใหญ่ข้างหนึ่งยังคงกระชับดาบคู่ใจมั่น ส่วนอีกข้างยังคงกอบกุมมือบางของร่างที่นั่งหลับตาพริ้มซบอยู่ที่ไหล่ของเขา เวลาผ่านไปนานแค่ไหนกันแล้วนะ...ไม่รู้เลย...ว่านภาทมิฬจะจัดการขับไล่ผู้บุกรุกไปได้หรือไม่
ใบหน้าคมก้มลงไปหาใบหน้างดงามที่ยังคงไม่รู้สึกตัว ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ...เจ้ายังคงหลับได้ทั้งๆที่อยู่ในสภาวะคับขันเช่นนี้...ยังคงหลับได้ในอ้อมแขนของข้า นั่นแปลว่าเจ้าเชื่อมั่นในตัวข้าอย่างนั้นใช่หรือไม่ โกคุเดระ....เชื่อมั่นว่าข้าจะปกป้องเจ้าได้ เชื่อมั่นว่าเจ้าจะไม่มีอันตรายใดๆยามเมื่ออยู่ข้างกายข้า....
....ขอบใจนะ....
ริมฝีปากแนบลงไปที่หน้าผากใส เนิ่นนาน...ราวกับจะประทับรอยจารึกเอาไว้ให้มากที่สุด...ลมหายใจอุ่นร้อนที่ปะทะบนใบหน้าทำให้ดวงตาสีเขียวมรกตค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ
รอบกายนั้นมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องไปทั่วป่าสายหมอก ดวงตาที่เพิ่งลืมขึ้นมาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีเปลือกไม้ที่อยู่ชิดใกล้ มิอาจรู้ได้ว่าด้วยมนต์ตราของจันทราหรือว่าสิ่งใดกัน ที่ค่อยๆดึงดูดใบหน้าของทั้งสองเข้าหากันเรื่อยๆ จนลมหายใจแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ ข้ารักเจ้า....” ร่างสูงเอ่ยแผ่วเบาก่อนที่จะแนบริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากแดงอิ่มของอีกฝ่าย นายน้อยแห่งโกคุเดระได้แต่นิ่งสนิทราวกับถูกสะกด จูบที่แสนอ่อนโยน...ไม่เรียกร้อง ไม่รุนแรง...มีแต่ความรู้สึก “รัก” ที่มอบให้มา ทำเอาหัวใจที่คิดอยู่เสมอว่าเป็นของตนเองเต้นระรัวราวกับว่ามันมิใช่ของตนเองไปเสียแล้ว.....แล้วมันจะเป็นของใครกันล่ะ?
“ ข้าก็......” เอ่ยออกมาได้เพียงนิด ใบหน้าที่ร้อนผ่าวแดงระเรื่อก็รู้สึกอายเกินกว่าจะพูดต่อไปได้ จึงทำเพียงแค่ก้มหน้าหนีอีกฝ่าย
“ เจ้าไม่พูดก็ไม่เป็นไร...เพราะข้าจะเป็นฝ่ายพูดแทนเจ้าเอง...โกคุเดระ....ข้ารักเจ้า...” ใบหน้าคมก้มลงไปคลอเคลียที่แก้มใสพร้อมเอ่ยกระซิบให้ใบหน้าเนียนแดงมากกว่าเดิม มือใหญ่ของยามาโมโตะดึงร่างบางๆเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน แผ่นหลังกว้างเอนพิงกับโคนต้นไม้ใหญ่ ใบหน้าคมกดจูบระเรื่อยไปตามแก้มใส ลากไล้ไปจนถึงลำคอระหงหอมกรุ่น กดจูบหนักหน่วงเพื่อเน้นย้ำรอยแดงที่ตนเคยสร้างเอาไว้ให้ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม.... ” ข้ารักเจ้า”.....
“ อะ...” เสียงครางเล็กๆลอดออกมาจากริมฝีปากสวย เมื่อเรียวขาภายใต้กิโมโนตัวยาวรู้สึกได้ถึงฝ่ามือสากที่ลูบไล้อยู่แผ่วเบา ร่างของนายน้อยโกคุเดระถูกจับให้นั่งคร่อมอยู่บนลำตัวแข็งแกร่ง อ้อมแขนกว้างโอบรัดไปได้ทั้งลำตัว
“ ข้ารักเจ้า....” ถ้อยคำพร่ำกระซิบคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา ราวกับจะตอกย้ำให้จำขึ้นใจ ว่ามีใครคนหนึ่งรักเขายิ่งกว่าชีวิต รักจนยอมแลกได้ทุกอย่าง และรักจนยอมทิ้งได้ทุกสิ่ง อ้อมแขนเล็กโอบกอดไปรอบลำคอของยามาโมโตะ....ในเมื่อเจ้าให้ข้าได้ทุกสิ่ง แล้วจะมีสิ่งใดกันเล่า ที่ข้ามอบให้เจ้าไม่ได้....
ลมหายใจเริ่มจะติดขัดหอบน้อยๆเมื่อมือใหญ่แสนอบอุ่นลากผ่านผิวเนื้อเนียนละเอียด ความรู้สึกร้อนระอุที่พุ่งพล่านอยู่ทั่วร่างกายนี้มันคืออะไรกัน ทั้งๆที่ร้อนราวกับไฟแต่กลับทำให้ร่างกายอ่อนระโหย คอกิโมโนถูกแหวกออกตั้งแต่เมื่อใดก็มิได้ใส่ใจ รับรู้เพียงแต่ความรู้สึกแปลกประหลาดยามเมื่อริมฝีปากของอีกคนทาบทับไปบนผิวเนื้อ
“ ยะ.....ยามาโมโตะ” เสียงแผ่วเบาติดขัดที่เรียกชื่อตนนั้นราวกับสิ่งที่ช่วยเรียกสติ ....เจ้ามันน่าหลงใหลจนข้าแทบจะห้ามใจไม่อยู่....แต่ยามนี้...คงจะดีกว่าถ้าข้าไม่ทำอะไรเจ้า
“ เจ้านอนพักเถอะโกคุเดระ” ฝ่ามือที่เคยลูบเรียวขานุ่มยอมละออกมาแต่โดยดี มืออีกข้างกดร่างบอบบางให้นอนลงมาแนบชิดกับร่างกายแข็งแกร่งของตน แล้วกอดไว้หลวมๆ พยายามอย่างหนักที่จะสะกดอารมณ์ความต้องการบางอย่างลงไป....
“ .....ข้า.....” ใบหน้าสวยเหมือนจะเอ่ยสิ่งใด แต่แล้วก็เปลี่ยนใจแล้วซุกใบหน้าลงบนแผ่นอกอบอุ่น ก่อนที่จะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน....
ข้าขออยู่ตรงนี้...อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าตลอดไปได้ไหม...ยามาโมโตะ....
ข้าขออยู่ตรงนี้...ตรงที่ที่มีเจ้าอยู่ในอ้อมแขนของข้าตลอดไปได้ไหม....โกคุเดระ....
ข้าขออยู่ตรงนี้...ตรงที่ที่มีเพียงข้าและเจ้า มีเพียงเราสองคน....ได้ไหม...พระผู้เป็นเจ้า...
.....................................................................................................................................................................................
นกน้อยต่างส่งเสียงทักทายซึ่งกันและกันยามเมื่อเช้าวันใหม่เริ่มคืบคลานเข้ามา ท้องฟ้าที่เคยมืดสนิทกลับมีแสงพระอาทิตย์สาดระเรื่อ ใบหน้าที่เคยหลับพริ้มอยู่ท่ามกลางอ้อมอกที่อบอุ่นค่อยขยับไหวเล็กน้อย ดวงตาสีเขียวมรกตเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ กลิ่นไอของชายอีกคนที่อยู่เคียงข้างกันมาทั้งคืนยังคงลอยอยู่รอบๆตัว รวมไปถึงไออุ่นที่ยังมิได้จางหายไป แต่ร่างที่เคยกอดเขาเอาไว้กลับไม่อยู่เสียแล้ว...
“ ยามาโมโตะ....” น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยเรียกอีกคนเบาๆ เพราะรู้ว่าชายผู้นั้นจะไม่มีทางทิ้งตนไปไหนเป็นแน่ ดวงตาสีมรกตเหลือบมองไปรอบๆพร้อมกับค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นนั่ง กิโมโนตัวนอกสีน้ำเงินเข้มที่คลุมร่างกายเอาไว้ค่อยๆหลุดออกจากไหล่....กิโมโนตัวนอกของยามาโมโตะ....
สองมือจับกิโมโนที่ยังคงมีกลิ่นกายของอีกฝ่ายเอาไว้แนบอก...มันช่าง....อบอุ่น....
เจ้าคงไม่ได้ทิ้งข้าไปหรอก...ข้ารู้....เจ้าคงไปดูลาดเลาหรือไม่ก็ไปเอาผลไม้มาให้ข้าตกใจเล่น...ข้าเชื่อเจ้า...ข้าเชื่อ....
ใบหน้าสวยอมยิ้มน้อยๆเมื่อนึกถึงอีกคน สองแขนกระชับกิโมโนสีเข้มเข้ากับแผ่นอกบางให้แนบแน่นยิ่งกว่าเดิม แว่วเสียงฝีเท้าเหยียบใบไม้เดินใกล้เข้ามา...ว่าแล้ว...ว่าเดี๋ยวเจ้าก็ต้องกลับมาหาข้า....ใบหน้าเนียนหันไปมาเพื่อมองหาที่มาของเสียงด้วยประกายตาสดใส ที่พุ่มไม้ไม่ไกลออกไปมีใครบางคนอยู่ที่นั่น รอยยิ้มถูกแต่งแต้มบนใบหน้าของนายน้อยแห่งโกคุเดระเพื่อต้อนรับการกลับมาของคนที่รอคอย....
พุ่มไม้แหวกออกเรื่อยๆ...เรื่อยๆ....คนคนนั้นกำลังเดินเข้ามาหาข้าเรื่อยๆ...เรื่อยๆ....
ในขณะที่มองเห็นชายกางเกงฮากามะสีเข้มก้าวออกมาจากพุ่มไม้ เสียงสดใสของนายน้อยแห่งโกคุเดระก็เอ่ยทักออกไป....
“ กลับมาแล้วหรอ...ยามะ...........” เสียงเอ่ยทักออกไปค่อยๆจางหาย...เมื่อนัยน์ตาสีเขียวมรกตมองเห็นชายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน....
ไม่ใช่.....
ชายคนนั้นไม่ใช่ยามาโมโตะ....
ไม่ใช่.....
แต่เป็นใครอีกคนที่รู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด.....
“ ฮิบาริ......เคียวยะ........”
นัยน์ตาสีมรกตเบิกกว้าง ความตกใจไม่อาจสู้ความรู้สึกอบอุ่นที่ราวกับถูกกอดเอาไว้ด้วยอ้อมแขนที่มองไม่เห็น เพียงแค่สบตากับดวงตาคมกริบสีดำสนิทคู่นั้น ร่างกายก็ราวกับไม่สามารถจะถอนตัวออกมาได้ เหมือนเป็นคนที่เคยคุ้น เคยรู้จักกันมานานแสนนาน....
“ ฮายาโตะ.....” เสียงแผ่วเบาหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากของร่างแกร่ง เมื่อสองตาพบว่าใครคือคนที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกโหยหาและห่วงใยล้นทะลักออกมาจากทุกส่วนของร่างกาย มือที่เคยจับแต่ทอนฟาเปื้อนเลือดค่อยๆยกขึ้นไป อยากจะไขว่คว้าคนตรองหน้าเข้ามากอดเอาไว้ ...ความคิดถึงความรัก ความรู้สึกทุกอย่างที่มอบให้คนตรงหน้าไหลออกมาจากส่วนที่อยู่ลึกที่สุด....
ดีใจ....ในที่สุดข้าก็หาเจ้าจนพบ.....
“ ฮายาโตะ....” แม้จะอยากพูดมากกว่านี้ อยากบอกความในใจและความรู้สึกของตนให้ร่างบอบบางตรงหน้ารับรู้ แต่ความเต็มตื้นที่พุ่งขึ้นมาจนจุกแน่นไปหมดก็ทำให้ไม่สามารถจะเอ่ยอะไรออกไปได้ มีเพียงใบหน้าอ่อนโยนที่ไม่เคยเผยให้ใครเห็นเท่านั้นที่มอบให้แก่นายน้อยแห่งโกคุเดระ....ดอกไม้ดอกน้อยๆที่เป็นดั่งความรักและความหวังของข้า...คนที่สำคัญที่สุดสำหรับข้า....โกคุเดระ ฮายาโตะ....
เนิ่นนานที่ร่างสองร่างเพียงแค่นิ่งค้าง และมองเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ไร้คำพูด ไร้ซึ่งเสียงใดๆ มีเพียงความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านกันและกันโดยที่ไม่ต้องสัมผัส
ร่างแข็งแกร่งเจ้าของแผ่นดินสีดำค่อยๆขยับกายช้าๆ เดินเข้าไปหาร่างของนายน้อยแห่งโกคุเดระที่ทำได้เพียงแค่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ความอบอุ่นอ่อนโยนรายล้อมไปทั่วร่าง มือใหญ่ค่อยๆเอื้อมไปยังใบหน้าที่แสนคิดถึง ดวงตาสีดำสนิทสะกดให้ร่างที่อยากจะขัดขืนจำต้องนิ่งสนิท
ปลายนิ้วสัมผัสกับผิวแก้มเนียนนุ่ม ก่อนที่จะลากไล้ไปยังริมฝีปากสีแดงสดที่เผยอออกเล็กน้อย....ใช่เจ้าจริงๆ...ฮายาโตะ....คนที่ข้ารักแสนรัก...ใบหน้านี้ ริมฝีปากนี้ ร่างกายนี้ที่ข้าเฝ้ามองมานานแสนนาน เฝ้ารักเฝ้าทะนุถนอมฟูกฟักเจ้ามาเป็นเวลานานนับสิบปี ....ใช่เจ้าจริงๆ....ฮายาโตะของข้า.....
แต่ก่อนที่ความโหยหาจะเข้าครอบงำ ก่อนที่มือทั้งสองจะดึงร่างบอบบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขน....
ดวงตาสีดำสนิทก็เหลือบไปเห็นกิโมโนตัวนอกสีเข้มซึ่งสองมือของคนที่เขารักแสนรักกอดเอาไว้แน่น...กิโมโนตัวใหญ่แบบนั้นไม่ใช่ของเจ้าแน่.....
แล้วยังร่องรอยสีกุหลาบที่ฝากเอาไว้ที่ซอกคอนี่อีก.....
ความอบอุ่นอ่อนโยนที่อบอวลอยู่โดยรอบจนถึงเมื่อครู่นี้หายไปทันที เมื่อเห็นและรับรู้ซึ่งทุกสิ่ง....
ทั้งๆที่ข้ารัก....ทั้งๆที่ข้าห่วง....ทั้งๆที่ข้าหวง....ทั้งๆที่ข้าแทบจะเป็นบ้าเพราะเจ้า...แต่เจ้ากลับ....เจ้ากับชายคนนั้น....
ความโกรธและรังสีอำมหิตกลับมาปกคลุมรอบกายของเจ้าของแผ่นดินสีดำอย่างที่เคยเป็นอยู่ตลอดเวลาอีกครั้ง ไม่มีเหลือแม้แต่ความอ่อนโยนเพียงเศษเสี้ยว ไม่มีเหลือความอบอุ่นที่ตั้งใจจะมอบให้แม้เพียงนิด
ถึงเจ้ากับมันจะรักกัน...หรือแม้แต่ร่างกายของเจ้าจะมอบให้มันไปแล้ว...แต่ข้าก็จะเอาเจ้ากลับไป...ไม่ว่าอย่างไรคนที่เจ้าจะต้องอยู่ด้วยชั่วชีวิตก็คือข้า...คือข้าคนเดียวเท่านั้น!
อะไรที่มันคิดจะฉุดรั้งเจ้าเอาไว้ อะไรที่มันคิดจะแย่งเจ้าไปจากข้า...ข้าจะทำลายมัน...ทำลายไม่ให้เหลือแม้แต่...วิญญาณ!
“ กลับไปกับข้า” มือใหญ่ของคนที่เข้ามาประชิดโดยไม่ทันตั้งตัวจับเข้าที่ข้อมือบาง แรงบีบทำให้สร้อยข้อมือหินสีดำกดลึกลงไปบนผิวเนื้อเนียนละเอียดจนรู้สึกเจ็บ กลิ่นไอและความรู้สึกคุ้นเคยเมื่อครู่จางหายไปเมื่อคนตรงหน้าปล่อยรังสีอำมหิตออกมารอบกาย ดวงตาสีดำสนิทที่จ้องมองลงมานั้นเย็นชาจนไม่กล้านึกว่าคนคนนี้คือชายผู้อบอุ่นอ่อนโยนที่คอยเฝ้ามองเขามาโดยตลอดคนนั้น....
“ ที่ที่เจ้าจะอยู่ได้...มีเพียงที่ที่มีแต่ข้าคนเดียวเท่านั้น” ฝ่ามือแข็งแกร่งออกแรงกระชากร่างบอบบางที่ยังอยู่ในอาการสับสน เรี่ยวแรงที่น้อยกว่าพยายามที่จะขัดขืน...เขากลัว...เขากลัวชายตรงหน้า....
ความหยิ่งทระนงที่มีทำให้จิตใจมิอาจยอมรับได้ซึ่งความกลัว ไม่ว่าจะเรื่องใดหรือใครก็ตาม....แต่ตอนนี้...เขากลัว...กลัว....
“ ปล่อยข้า!” พยายามที่จะขืนร่างของตัวเองออกมา พยายามที่จะสะบัดข้อมือให้หลุดจากการเกาะกุมที่แข็งแกร่งราวกับคีมเหล็ก ร่างทั้งร่างถูกเรี่ยวแรงมหาศาลฉุดกระชากให้ลุกขึ้นยืน...แต่กระนั้นสองมือก็ยังคงกอดกระชับกิโมโนสีเข้มของใครอีกคนเอาไว้แนบกาย
แต่นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ที่ครุกรุ่นอยู่แล้วของอีกฝ่ายยิ่งทวีความน่ากลัวเข้าไปมากว่าเดิม มือของฮิบาริ เคียวยะกระชากผืนผ้าสีเข้มนั้นออกจากร่างบอบบาง ก่อนจะเหวี่ยงร่างของนายน้อยแห่งโกคุเดระให้ลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง สองมือแข็งแกร่งฉีกกิโมโนตัวนอกสีเข้มตัวนั้นให้ขาดออกจากกันอย่างไม่ใยดี ท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างและตกตะลึงของร่างบาง น้ำตาไหลลงมาอาบแก้มเนียนใสโดยที่ไม่รู้ตัว...
แต่หยาดน้ำตาก็มิอาจดับความโมโหและอารมณ์รุนแรงของเจ้าของแผ่นดินสีดำได้ มือใหญ่คว้าเศษกิโมโนที่ถูกฉีกขาดมาไว้ในมือ ก่อนที่จะรวบข้อมือบอบบางทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วมัดด้วยเศษกิโมโนของคนที่ทำให้ร่างบอบบางคนนี้ถึงกับหลั่งน้ำตา
ร่างแข็งแกร่งกระชากร่างบางให้ลุกขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะออกแรงลากให้เดินตามไปด้วยกัน
“ เจ้าต้องกลับไปกับข้า...ไม่ว่าจะด้วยสภาพใดก็ตาม”
แต่แรงกระชากก็ไม่อาจทำอะไรได้ในเมื่อมีมืออีกข้างของคนอีกคนที่ฉุดรั้งแขนบอบบางของนายน้อยแห่งโกคุเดระเอาไว้
“ ข้าไม่ให้ไป....”
“ และจะบอกให้เจ้ารู้เอาไว้...ว่าเจ้าไม่มีวันจะมาพรากเราออกจากกันได้ ฮิบาริ เคียวยะ” น้ำเสียงนิ่งสนิทเอ่ยออกมาจากอีกคนหนึ่งที่เพิ่งกลับมาถึง นัยน์ตาสองคู่ต่างจ้องเขม็งไปยังอีกฝ่ายราวกับจะส่งความเกลียดชังไปให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้...
.....เจ้าต้องกลับไปกับข้า.....
.....ข้าไม่ให้เจ้าไป.......
......แล้วทางใดกันเล่า ที่นายน้อยแห่งโกคุเดระจะได้พบ....
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป.....ไป.......
ในที่สุดเรื่องนี้ก็มีคำโปรยเป็นของตัวเองแล้วค่ะ...>////<…ขอบคุณนะคะคุณ K_Guardian_7
ครึ ครึ...ดอกไม้ปลิวกันให้ว่อนเลยนะตอนนี้...แอบขอยืมเซมบงซากุระของท่านพี่เบียคุยะมาใช้ปราบป๋าเบียคุรันด้วยแหละ
ว่าแต่....เมื่อไหร่อิหนูลูเคียของหม่ามี๊จะออกซักทีละค้า...>[]<..(โวยวายผิดเรื่องแล้วเอ็ง)
อย่า...อย่าเพิ่งคิด...ว่าเรื่องนี้จะจบลงที่ 6927 เพราะ...ป๋ายังไม่ตายนะ!!!
เพราะงั้นยังได้ซัดกันอีกแน่นอน ก็นี่มันมหากาพย์ ก้าบๆ(?) นี่นา
นะ...ขนาดสปอยด์ตอนล่าสุดยังซัดกันอยู่เล้ย...โฮกกก ทูน่าสู้เค้าลูก...>.<...
แล้วก็...ถึงแม้ว่าจะดูถึงเนื้อถึงตัว ถึงไหนต่อไหน(อะไรฟะ!) ไปแล้วก็ตาม แต่....หนูก๊กยังบริสุทธิ์อยู่นะ...>////<...
คุณฮิน่ะคิดไปเอ๊ง...ยามะยังไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่ากับหนูก๊กนะ!!!
แล้ว....เมื่อไหร่พ่อม้าจะมา...มา.....มา.....?
ฮึ...มีแต่คนบ่นว่าคู่หลักมันคือ 185980 ไม่ใช่เร๊อะ...ชิชะ...แล้วต่อไปนี้อย่ามาบ่นถึง 1006927 นะ!
เค้างอนแล้ว จะไม่ให้ออกอีก 5 ตอนเลยคอยดู ต่อจากนี้ไปมันจะเป็น 1859...80 ของแท้ คึหึหึ....
ว่าแต่...นี่มันเพิ่งจะตอนที่ 7 เองเร๊อะ โอย...นึกว่าแต่งมา10กว่าตอนแล้วนะเนี่ย...
คุณพระ คุณเคียวกับยามะจะจัดแล้ว
ตอบลบนี่เคัาควรเชียร์ใคร
ใจนึงก้สงสารยามะ ใจนึงก้สงสารคุณเคียว
ยังกับประกวดเดอรสตาร์ ประวัติแต่ละคนใช่เล่น
แต่ที่น่าสงสาร เค้าสงสารป๋าเบีย ทำไมทูน่ามันร้ายอย่างเน้!!!!
ฮือออออ กัดหมอน