KHR Au.fic [185980] ความหวังครั้งสุดท้าย : 06


: KHR Fanfiction Au
: 185980  1006927  XSD
: Drama
: NC-17


คำเตือน : เนื้อเรื่องต่อไปนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย หากไม่ต้องการรับรู้กรุณาปิดหน้านี้ไปนะคะ


ตอนคิดเรื่องนี้ขึ้นมาก็แค่อยากอ่านฟิคที่มีสองด้าน ก็แค่นั้นเองค่ะ เพราะงั้น....นี่คือ ฟิคคู่แฝดค่ะ.....เรื่องราวที่เกิดขึ้นเหมือนๆกัน แต่ความรู้สึกนั้นช่างต่าง......พบกับอีกด้านของเรื่องนี้ได้ที่......


[AuFic][805918] The Last SNOWDROP....



.
.
.
.
.


ปลายดาบตวัดผ่านร่างกายแข็งแกร่งที่กระโดดหลบด้วยสันชาติญาณ เส้นผมสีดำสนิทกลุ่มหนึ่งถูกตัดปลิวไปกับสายลม ดวงตาสีโลหิตมองอีกฝ่ายด้วยความตกตะลึง ถึงแม้ว่ารูปร่างหน้าตาจะถอดแบบกันมากับไอ้ฉลามสวะของเขา...แต่ทว่าอะไรบางอย่างก็ช่วยยืนยันได้อย่างดีว่า..คนตรงหน้านี้ไม่ใช่ไอ้ฉลามสวะคนเดิม...

.
.
.
.

ตราบใดที่ฉันยังมีลมหายใจ ดาบนี้ขอมอบมันให้แกแต่เพียงผู้เดียว และจะไม่มีวัน...ที่ฉันจะหันมันใส่แก...แซนซัส

.
.
.
.


คำสาบานในวันนั้นเขายังจำมันได้ดี ถึงแม้ว่าจะผ่านมากี่ปีแล้วก็ตาม...ครั้งสุดท้ายที่เห็นใบหน้าของเจ้านั่น....นานแค่ไหนกันแล้วนะ....



เคร้ง!!!



เพลงดาบที่สองฟาดฟันผ่านอากาศเข้ามาหยุดลงที่ปืนคู่ของเขาอีกครั้ง....เกิดอะไรขึ้นกับแก....แกคนที่มอบให้ฉันได้ทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ลมหายใจคนนั้น...



ฉันจะฆ่าแก!!!”    ใบหน้าสวยแต่ดุดันป่าวประกาศออกมาในขณะที่มือก็ฟาดดาบใส่ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าไม่ยั้ง



ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู    ใช่....คงต้องลองดู...ว่าคนตรงหน้าจะทำได้จริงหรือไม่!



ร่างสูงใหญ่กระโดดหลบวิถีดาบที่ฟาดฟันลงมา ปืนคู่ในมือยังคงทำเพียงแค่ตั้งรับ ความกระหายเลือดค่อยๆเลือนหายไปคงเหลืออยู่แต่ความสงสัยกับอีกความรู้สึกที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานาน...สนุก...กับการไล่ต้อนคนตรงหน้าให้โมโหจนใบหน้าสวยๆนั่นเริ่มจะหน้านิ่วคิ้วขมวด....ถ้าเป็นไอ้ฉลามสวะของเขาละก็...อีกไม่นานก็คงจะ.....



โว้ยยยย ไอ้บ้านี่...แกจะเอาแต่หลบไปถึงไหนวะ!!!”   ร่างโปร่งบางที่เริ่มหงุดหงิดกับการที่ร่างสูงนัยน์ตาสีโลหิตคนนี้เอาแต่หลบเพียงอย่างเดียวจึงโวยออกมา



......ไม่ใช่.......



ถ้าแกคิดที่จะดูถูกฉันละก็...ตายซะ!”   ดาบในมือยังคงฟาดฟันลงมาไม่ได้หยุดหย่อน ทุกเพลงดาบล้วนมุ่งเอาชีวิต จิตสังหารคมเข้มอัดแน่นออกมาจากคมดาบราวกับว่ามีความแค้นที่ไม่อาจหายไปได้ด้วยแค่ความตายของร่างสูงตรงหน้า



.......ไม่ใช่........



ตายไปซะ ตายไปให้สมกับสิ่งที่แกทำเอาไว้กับฉัน!”   จู่ๆร่างสูงใหญ่ก็หยุดชะงักลง แต่ดาบในมือก็ไม่คิดที่จะหยุด เพลงดาบสุดท้ายที่รวบรวมทั้งพลังและจิตสังหารเข้มข้นตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะปลิดชีพชายตรงหน้า มือวาดดาบออกไปก่อนที่จะพุ่งตรงไปที่ลำคอของร่างสูง



ฉึก!!!!



......ไม่ใช่.......จริงๆสินะ.....



หยาดโลหิตไหลรินลงมาตามคมดาบ นัยน์ตาสีขี้เถ้ามองร่างสูงใหญ่ด้วยดวงตาเบิกกว้าง........ทำไม....



ไม่ใช่จริงๆด้วยสินะ....ทีนี้...จะบอกฉันได้รึยัง ว่าแกเป็นใครกันแน่    นัยน์ตาสีโลหิตมองมายังใบหน้าสวยด้วยสายตาเหยียดหยาม มือใหญ่ยังกำคมดาบที่คิดจะปลิดชีพของตน โลหิตที่มิเคยหลั่งรินมานานยังคงไหลออกไปจากฝ่ามือเรื่อยๆโดยที่เจ้าของมันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแม้แต่น้อย ใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยรอยแผลยังคงนิ่งสนิท....แกไม่มีความลังเลที่จะหันดาบใส่ฉันเลย...เพราะฉะนั้น...แกจะไม่ใช่ไอ้ฉลามสวะของฉันอีกต่อไป!



ในเมื่อแกไม่ใช่....เพราะฉะนั้นฉันก็ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องไว้ชีวิตแก....คนที่กล้าเอาความรู้สึกของฉันมาล้อเล่น ด้วยใบหน้าของไอ้ฉลามสวะของฉันคนนั้น!



ปัง!!!!



เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วป่าสายหมอก หมู่นกโผบินออกจากรังด้วยความตกใจ สายลมพัดกรรโชกมาวูบหนึ่งราวกับว่ากำลังร่วมไว้อาลัยแด่ความรู้สึกของคนสองคนที่กำลังจะจากไป



หนึ่ง....สิ้นสุดการรอคอยที่แสนยาวนาน...เพราะคนคนนั้นจะไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว....

หนึ่ง....สิ้นสุดความแค้นที่ฝังรากลึกในจิตใจมานานนับปี...ฉันคงทำให้นายได้แค่นี้แหละ...พี่ชายของฉัน.....



มือหนากระชากเส้นไหมสีเงินยาวสลวยให้ใบหน้าสวยเงยขึ้นมามองตน เลือดสีแดงสดไหลออกมาที่มุมปาก ถึงแม้แผลที่เขาฝากไว้ที่หน้าท้องของคนตรงหน้าจะร้ายแรงถึงขั้นคร่าชีวิตได้ แต่นัยน์ตาสีขี้เถ้านั่นก็ยังคงมองมาด้วยความแข็งกร้าว



...แก...เป็นอะไรกับไอ้ฉลามสวะ....แล้วมันหายหัวไปอยู่ที่ไหน    



หึ......    ใบหน้าสวยที่ดูอ่อนแรงยิ้มเยาะมาให้



ขอถามอะไรอย่างสิ....แก...รักมันบ้างหรือเปล่า    ถึงแม้จะเจ็บจนชาที่แผล แต่สิ่งที่ค้างคาใจอยู่ตลอดเวลาก็ทำให้สติไม่ยอมขาดหายไป...



........    ถึงแม้ว่าจะไม่มีคำตอบใดๆหลุดออกมาจากริมฝีปากของร่างสูงใหญ่ แต่ดวงตาสีโลหิตที่ดูอ่อนโยนลงก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ถึงความรู้สึกของร่างสูงที่มีให้กับคนคนนั้น



แก....รักมันสินะ.....   เสียงเริ่มกระท่อนกระแท่นเพราะสติที่เริ่มจะเลือนหาย



มันจะไม่มีวันกลับมาหาแกได้อีกแล้ว....เพราะฉันเป็นคนฝังศพของมันมากับมือ....มันเลือก.....ที่จะกลับมาหาแก....มันยอม....ละทิ้งซึ่งทุกสิ่ง....หน้าที่ ครอบครัว ยอมทิ้งแม้แต่น้องชายฝาแฝดอย่างฉัน...ที่ขอร้องมันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมี....ยอมทิ้ง...แม้แต่ชีวิต...เพื่อที่จะได้กลับมาหาแก



ฉัน...เกลียดแก....เกลียดแกที่สุด....เพราะแกแย่งมันไปจากฉัน....แกแย่งมันไป...    น้ำสีใสค่อยๆไหลลงมาตามแก้มเนียน ยามเมื่อนึกถึงอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด...เราเหมือนกันมาก...เหมือนกันจนราวกับจะเป็นคนคนเดียวกัน...ไม่ว่าจะทำอะไรเราก็จะทำด้วยกัน เล่นด้วยกัน กินด้วยกัน นอนด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอด...จนกระทั่งวันหนึ่ง...แกก็เดินเข้ามาในชีวิต แล้วมาแย่งมันไปจากฉัน....



ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่....มือคู่นี้ของแกพรากอีกครึ่งหนึ่งของฉันไป ในเมื่อฉันเอาชนะแกไม่ได้ ก็ขอตายด้วยมือคู่นี้ของแกเช่นกัน...แซนซัส



นัยน์ตาสีขี้เถ้าหลับตาลงช้าๆ ความเจ็บปวดตามร่างกายและสติที่มีอยู่ค่อยๆเลือนหายไป...อีกไม่นานก็คงจะได้เจอกันแล้วสินะ...

.
.
.
.
.


อย่าได้คิด...ที่จะไปจากฉันอีก ไม่ว่าจะเป็นไอ้ฉลามสวะนั่นหรือว่าแก......สควอลโล่.....สินะ



มือหนากระชากร่างที่ไร้สติขึ้น ก่อนที่จะยกมันพาดบ่าแล้วออกเดินไปตามระเบียงทางเดินโดยไม่สนใจสภาพการต่อสู้ที่อยู่รอบกายอีกเลย....




............................................................................................................................................................................




อื้อ.....   ร่างกายที่เคยร้อนผ่าวและต้องทนทุกข์ทรมานด้วยพิษไข้มานานเป็นสัปดาห์ค่อยๆขยับกาย เหงื่อที่ไหลออกมาทั่วร่างทำให้รู้สึกดีขึ้นราวกับว่าได้เกิดใหม่ นัยน์ตาสีมรกตยังคงหลับพริ้ม ริมฝีปากสีแดงสดเม้มน้อยๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงความเย็นที่ข้อมือ



สัมผัสแข็งกระด้างของฝ่ามือใครบางคนลูบไล้อยู่ที่ใบหน้า ก่อนที่จะลูบเส้นผมที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่ออย่างอ่อนโยน มืออีกข้างกอบกุมมือเล็กของตนเอาไว้ ทั้งๆที่มือเย็นเฉียบขนาดนั้น แต่มันกลับรู้สึกอบอุ่นที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก



สร้อยข้อมือนี้จะช่วยเจ้าได้ มันคือหินปัดเป่าที่จะคุ้มครองเจ้าให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง...   เสียงทุ้มที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเอ่ยอยู่ที่ข้างใบหู ความอบอุ่นอ่อนโยนที่ได้รับราวกับว่าจะช่วยทำให้หายจากพิษไข้ได้ในทันที…..ใครกัน....



ข้า....เป็นห่วงเจ้ามากนะ....ฮายาโตะ



.......ใครกัน........



ทั้งสัมผัสและน้ำเสียง ช่างมั่นใจได้ว่าเป็นคนที่ไม่รู้จัก...แต่เหตุใดจึ่งคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด...ราวกับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเคยถูกจ้องมอง เคยถูกโอบกอดด้วยสัมผัสที่มองไม่เห็นเหล่านี้....ท่าน....คือใครกัน.....



นัยน์ตาสีเขียวมรกตพยายามที่จะลืมตา แสงสว่างที่ได้รับทำให้ดวงตาพร่ามัว เห็นเพียงเงารางเลือนของคนที่จับมือที่ชุ่มเหงื่อของตนอยู่.....ชายที่มีเส้นผมสีดำสนิทและนัยน์ตาคมกริบที่ดำสนิทเช่นกัน.....ท่าน....เป็นใครกัน....



สติที่พยายามฝืนเอาไว้ค่อยๆหายไปอีกครั้ง นัยน์ตาสีมรกตปิดลงพร้อมกับลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ.......




นั่นพบกัน หรือว่าความฝัน?




สิ่งที่จะยืนยันตัวตนของอีกฝ่ายได้ มีเพียงสร้อยข้อมือที่ทำจากหินสีดำสนิทที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลานี่เพียงเท่านั้น....



แต่ถึงแม้จะรางเลือน ข้าก็มั่นใจได้ว่า ใบหน้าที่ข้าเห็น...เป็นคนคนเดียวกับชายที่ชื่อ....ฮิบาริ  เคียวยะ นั่นแน่นอน....ทำไม...เพราะอะไรกัน....



โกคุเดระ....   คนที่นั่งอยู่ข้างกายเอ่ยเรียกเบาๆ มโนภาพในวันนั้นจึงเลือนหายไปจากในหัวของนายน้อยแห่งโกคุเดระ



มะ...มีอะไรรึ    ใบหน้าเนียนใสหันมามองอีกคนด้วยใบหน้าที่พยายามเก็บซ่อนสิ่งที่คิดอยู่เมื่อชั่วครู่



เจ้าเคยเห็นหิ่งห้อยหรือเปล่า   จู่ๆคำถามสบายๆก็ถูกส่งมา ทำให้ร่างบางรับไม่ทัน จึงได้แต่มองหน้าร่างสูงด้วยแววตาสงสัย



ตรงบริเวณนี้ของป่าสายหมอกน่ะ เป็นที่ที่มีหิ่งห้อยอยู่มากที่สุด...   



เอาไว้กลางปีหน้า...ข้าจะพาเจ้ามาดูนะ โกคุเดระ



.....ปีหน้า.....งั้นหรือ.....



อื้อ    ใบหน้าเนียนใสแย้มยิ้มให้อีกฝ่าย



ได้แต่หวัง...ว่าสัญญาในวันนี้จะเป็นจริง...ว่าปีหน้าเราจะยังคงได้อยู่ด้วยกัน



ปีหน้า...ข้าจะมาดูหิ่งห้อยกับเจ้า....ยามาโมโตะ




..................................................................................................................................................




ประตูเพียงบานเดียวของบ้านถูกพังเข้าไปอย่างไม่ใยดี กลิ่นดอกไม้ที่คุ้นเคยลอยอบอวลไปทั่วห้อง ภายในตัวบ้านมืดสนิท มีเพียงแสงสลัวๆจากตะเกียงเพียงใบเดียวที่วางอยู่บนโต๊ะกลางบ้าน แสงตะเกียงส่องสว่างไปทั่วโต๊ะราวกับจะบอกว่ามีของสำคัญวางอยู่บนนั้น ร่างเพรียวแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำเดินตรงไปยังต้นกำเนิดแสงทันที



สิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะทำเอาดวงตาเบิกกว้าง....สิ่งที่อยู่ในความทรงจำเมื่อวันวานไหลย้อนกลับมา...



สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆเรื่องราว สิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ทั้งหมดของเขา กับพี่ชาย และนาย...ซาวาดะ สึนะโยชิ



.........SNOWDROP........... 



ดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ดอกน้อยๆ ดอกไม้แห่งความหวัง ดอกไม้แห่งความรัก....



ดอกไม้ที่พวกเจ้าสองคนมอบมันให้แก่ข้า....



ดอกไม้ที่หมายถึง....ฮายาโตะ



ถ้าพวกเจ้าสองคนไม่พรากชีวิตท่านหญิงคนนั้นไป....ไม่ทรยศต่อข้า.....ฮายาโตะอาจจะไม่ใช่สิ่งเดียวที่ข้าเหลืออยู่....อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งเดียวที่ข้าทั้งรักทั้งหวงแบบนี้....เรื่องทุกอย่างมันเกิดจากน้ำมือของพวกเจ้าเอง มุคุโร่ สึนะโยชิ...



มือทั้งคู่กำทอนฟาแน่น.....ภายในใจนั้นหงุดหงิดจนอยากจะระเบิดมันออกมา เรี่ยวแรงและพละกำลังที่กำลังพุ่งขึ้นเพราะความโกรธนั้นกำลังเรียกร้องหาทางระบายออก  สองแขนจึงฟาดฟันใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในบ้าน ให้ความโกรธาเหล่านี้มันมลายหายไปเสียที  ไม่ว่าจะขอร้องเช่นไร...ข้าก็ไม่มีวันอภัยให้พวกเจ้าได้จริงๆ  ทุกสิ่งทุกอย่างต้องถูกทำลายจนยับเยินเหมือนสิ่งของที่อยู่ตรงหน้าข้าพวกนี้!






นี่...เจ้ารู้รึเปล่า...ว่า SNOWDROP มีความหมายแฝงอีกอย่าง...มันคือดอกไม้ที่แสนสวยแต่อันตราย...เพราะมันคือดอกไม้แห่งความตาย....






เสียงดังโครมครามเงียบลงหลังจากที่ร่างเพรียวแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำ เดินออกมาจากภายในตัวบ้าน นัยน์ตาสีอเมทริสเหลือบมองเข้าไปยังภายใน มองเห็นเพียงซากสิ่งของที่ถูกทำลายจนกระจัดกระจายเต็มบ้าน แต่ทว่าสิ่งเดียวที่ยังคงตั้งอยู่โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน.......โต๊ะที่มีแสงตะเกียงตัวนั้น....



ร่างเพรียวแข็งแกร่งของเจ้าของแผ่นดินสีดำยังคงเดินต่อไปข้างหน้า รังสีอำมหิตเข้มข้นมากกว่าเก่ายังคงแผ่กระจายออกมาจากร่างกายไม่หยุดหย่อน  เรื่องของสิ่งที่ทิ้งไปแล้วเขาจะไม่คิดติดใจอีก แต่สิ่งเดียวที่จะไม่ยอมยกให้ใครและจะไม่ยอมสูญเสียมันไปจะต้องรีบเอากลับมาให้เร็วที่สุด!...ขาเรียวยังคงก้าวเดินอย่างมั่นคงและรวดเร็ว ถึงจะไม่รู้ว่าดอกไม้ของเขาจะอยู่กับพี่ชายและเจ้าของกลิ่นนี่หรือเปล่า แต่ทางเดียวที่ต้องทำก็มีเพียงทางนี้เท่านั้น



ฮิบาริ เคียวยะ กระโดดข้ามราวระเบียงลงไปยังพื้นที่ซึ่งมองเห็นว่าว่างเปล่า แต่ทว่ามันกลับไม่ทำให้ร่างกายในชุดดำนั้นร่วงหล่นลงไปยังก้นเหว ขาเรียวยังคงก้าวเดินต่อไปยังชายป่าที่อยู่อีกฟากของหุบเหว นัยน์ตาสีอเมทริสมองตามไปด้วยรอยยิ้มพราย...นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาต้องพึ่งพาเจ้าของแผ่นดินสีดำคนนั้น....ร่างสูงกระโดดแล้วเดินตามไปด้วยท่าทางสบายๆ....ถึงจะไม่ได้กลิ่น ถึงจะมองไม่เห็น...แต่เขาก็รับรู้ได้ว่า...อีกไม่นาน....เขาก็จะได้พบกับดอกไม้สีไพลินที่หายไป...



ใครจะว่าข้าเจ้าเล่ห์ข้าไม่สน ใครจะว่าข้าเลวร้ายข้าไม่ใส่ใจ....ข้าก็แค่ทำทุกอย่างให้ได้เจ้ามาไว้ในครอบครองก็เท่านั้นเอง...มุคุโร่คุง



ต้นไม้ใหญ่รายล้อมร่างกายสองคนที่ดูราวกับเป็นสีคู่ตรงข้าม สายหมอกบางเบาที่ดูน่าขนลุกและหนาวเย็นไม่อาจทำอะไรสองผู้มาเยือนได้...จู่ๆร่างกายในชุดสีดำสนิทก็หยุดเดินลงดื้อๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองไปทั่วบริเวณ....กลิ่นหอมที่รู้จักดี....กลิ่นที่อบอวลหนาแน่น....สึนะโยชิอยู่แถวๆนี้



จะหลบไปถึงไหน    น้ำเสียงนิ่งสนิทเอ่ยออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา ไม่มีแม้แต่การทักทายใดๆ ไม่ต้องเอ่ยบอกด้วยซ้ำว่าพูดกับใคร...



คึหึหึ....ยังเย็นชาไม่เปลี่ยนเลยนะครับ...เคียวยะ    ร่างสูงโปร่งค่อยๆปรากฏกายออกมาจากสายหมอกบางเบา นัยน์ตาสองสีจ้องมองมายังคนที่ได้ชื่อว่าเป็นน้องชายด้วยสายตาที่จับความรู้สึกไม่ได้...เด็กคนนี้...ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย....ไม่สิ....มีอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป....สิ่งที่เรียกว่า....หัวใจ



หึ....เจ้าเองก็เหมือนกันนี่   พูดยังไม่ทันจะจบร่างเพรียวในชุดสีดำสนิทก็หันตัวกลับไปอีกทางพร้อมกับทอนฟาในมือที่ฟาดเข้ากับอากาศที่ว่างเปล่าทันที.....พุ่งไปผิดทาง....ไม่ใช่....จากอากาศที่เคยว่างเปล่ากลับค่อยๆมีร่างๆหนึ่งทรุดลงคุกเข่าเพราะโดนเล่นงานเข้าเต็มๆ ร่างสูงโปร่งที่เคยยืนอยู่อีกด้านกลับค่อยๆเลือนหายไป...



เจ้าอยู่กับเจ้าสัตว์กินพืชตัวเล็กนั่นจนกลิ่นของมันติดตัวเจ้าไปด้วย คงไม่เคยรู้ตัวเลยสินะ....



ร่างโปร่งบางค่อยๆยืนขึ้น มือเรียวกุมท้องเพราะทอนฟาของผู้เป็นน้องชายไม่เคยปราณีใคร นัยน์ตาสองสีจับจ้องมองคนตรงหน้า ใจหนึ่งก็ยอมรับว่าคิดถึง แต่อีกใจหนึ่งก็ชิงชังจนอยากจะฆ่าให้ตายคามือ ใบหน้ายังคงส่งรอยยิ้มละไมไปให้ มืออีกข้างกระชับอาวุธของตนแน่น....ข้า....ไม่อยากจะทำแบบนี้เลย....



กับคนอื่นๆ ข้าฆ่าได้ด้วยรอยยิ้ม...แต่กับเจ้า.........เจ้ารู้บ้างหรือไม่...ว่าทำไม...ข้าจึงหนีมาตลอด....



สองพี่น้องต่างยืนเผชิญหน้ากันท่ามกลางบรรยากาศแห่งความแค้นอันแสนเศร้า ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมันกำลังจะจบลงแล้ว  ความสัมพันธ์ที่กว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้แต่ก็พังทลายลงไปเพราะความชิงชังชั่วข้ามคืน มันไม่อาจจะกลับมาเป็นแบบเดิมได้อีกแล้ว ทั้งคู่ต่างก็รู้ดี แต่กระนั้นก็ยังประวิงเวลา ยังคงยื้อมันเอาไว้...



คึหึหึ...ดูท่าทางว่าเด็กคนนั้น...จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าในตอนนี้ไปแล้วสินะครับ....ยังไม่เข็ดอีกหรือครับ...   คำพูดราวกับจะยั่วยวนของอีกฝ่ายทำให้ร่างที่อยู่ในชุดดำสนิทพุ่งตรงเข้าไปหาทันที ทอนฟาในสองมือแหวกอากาศฟาดลงไปโดยไร้ความลังเล...ถ้าพวกเจ้ารู้...ว่านั่นคือสิ่งที่สำคัญ แล้วยังให้ความร่วมมือกับคนที่คิดจะชิงมันไปจากข้า...พวกเจ้าก็สมควรตายสถานเดียว...



บางที...คนอย่างเจ้า...อาจจะเหมาะกับการอยู่คนเดียวมากกว่านะครับ...อย่าได้รัก....ใครอีกเลย....   คำพูดทุกคำล้วนเสียดแทงลึกเข้าไปในจิตใจ จนความโกรธาเข้าครอบงำจิตใจและการควบคุมตัวทั้งหมด เจ้าของแผ่นดินสีดำไล่ต้อนอีกฝ่ายด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม ร่างโปร่งบางทำเพียงแค่หลบไปมาราวกับกำลังยั่วโมโหให้อีกฝ่ายโกรธจนเส้นเลือดแตกตายไปเอง



เสียงต้นไม้หักล้มระเนระนาด ไอแห่งความโหดอำมหิตแผ่ซ่านไปรอบบริเวณ ตราบใดที่ชายตรงหน้ายังไม่ล้มลงไปกองกับพื้น ความเกรี้ยวกราดที่เกิดขึ้นนี้คงจะไม่สามารถหยุดลงได้ ร่างสองร่างยังคงพุ่งเข้าห้ำหั่นกันอย่างหนักหน่วง ฝ่ายคนพี่ยังคงยั่วยุให้น้องชายร่วมสายเลือดโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ



มนุษย์น่ะทำได้ทุกอย่างเพื่อตัวเอง...ข้าปกป้องสึนะโยชิคุงก็เพื่อตัวข้าเอง...ยามาโมโตะกักขังฮายาโตะคุงก็เพื่อตัวเขาเอง...เจ้าต้องการช่วงชิงฮายาโตะคืนก็เพื่อตัวเจ้าเอง....แล้วเจ้าไม่คิดหรือ...ว่าสักวันหนึ่ง....ฮายาโตะคุง....จะทำเพื่อตัวเขาเองบ้าง....   สิ่งที่ได้ยินทำให้คิ้วที่ขมวดอยู่แล้วเริ่มขมวดแน่นขึ้น...มือทั้งสองยังคงฟาดอาวุธลงไปที่คนตรงหน้าอย่างไม่คิดจะปราณี....ได้สิ....ถ้าดอกไม้ของข้าต้องการจะทำเพื่อตัวเองข้าก็ไม่คิดที่จะขัดขวาง...



เพราะข้าจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าเอง...ถ้าเพื่อข้าแล้ว...เจ้าจึงจะมีชีวิตอยู่ได้ อนาคตของเจ้า มีทางเลือกนี้ทางเดียวเท่านั้น ฮายาโตะ...



ข้าจะทำลายให้หมด...คนที่คิดจะมาแย่งคนของข้าไป   เรี่ยวแรงและความเร็วทั้งหมดถูกรวมไปอยู่ที่ทอนฟาข้างหนึ่ง ก่อนที่จะใช้มันเพื่อสกัดทางหลบหนีของคนที่ได้ชื่อว่าพี่ชาย มุคุโร่ชะงักไปเพียงเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทอนฟาอีกข้างจะเสยคางมนของร่างสูงโปร่งเข้าไปเต็มๆ เจ้าของเรือนผมสีไพลินถึงกับลงไปกองอยู่กับพื้น ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลของน้องชาย



ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้...ข้าจะไม่ให้เจ้ามาพรากคนของข้าไปอีกเป็นครั้งที่สอง....   ร่างสีดำย่างสามขุมเข้ามาใกล้ด้วยจิตสังหารเต็มเปี่ยม



เจ้าเป็นฝ่ายผิดสัญญากับข้าก่อนนะ เคียวยะ....ถ้าเจ้ายังจำได้....เจ้าเคยรับปากข้าว่าจะดูแลเขา...ดูแลสึนะโยชิ...แทนข้า...   นัยน์ตาสองสีจ้องมองมัจจุราชสีดำที่ยืนค้ำหัวของตนอยู่ ร่างกายที่เจ็บไม่เท่าจิตใจที่ช้ำในจนใกล้จะกระอักเลือดตาย...คำสัญญาที่ไม่เคยคิดเลยว่าอีกฝ่ายจะล้มเลิกที่จะทำตาม...ทั้งๆที่เขา...ทั้งๆที่เขา...ยอมทำให้ได้ทุกอย่างขนาดนั้น...



แต่แล้ว...เป็นเจ้าเองมิใช่หรือ...ที่สั่งให้เขาไปตาย....เป็นเจ้าเองมิใช่หรือ...ที่เลือกคนที่เจ้ารักมากกว่าการทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับข้า     ความเจ็บลึกที่แผลเป็นบนหัวใจแล่นลิ่วขึ้นมา  ความรู้สึกของคนที่โดนทรยศหักหลัง ใช่ว่าจะมีแต่เจ้าเท่านั้นที่รับรู้....ข้าเองก็แค้นเจ้าแทบบ้า...กับคำสั่งนั่น...คำสั่งที่เหมือนกับจะส่งคนที่ข้ารักขึ้นสู่แดนประหาร...



ร่างในชุดสีดำสนิทนิ่งไปเล็กน้อย....เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เพิ่งจะเคยได้ยินเป็นครั้งแรก...คำสั่ง?....คำสั่งเรื่องอะไรกัน....



ข้าไม่เคยสั่ง….”    แต่ก่อนที่ริมฝีปากจะได้พูดออกไป กลิ่นหอมที่คุ้นเคยก็ลอยละล่องเข้ามายังจมูก ร่างเพรียวในชุดดำกระโดดถอยหลังให้ออกห่างจากมุคุโร่ทันที...ความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่ดูเหมือนกำลังจะถูกปกปิดต่อไปอีกครั้ง



ดาบสีขาวสะอาดตาตัดฉับลงมาระหว่างฮิบาริและมุคุโร่ กลิ่นหอมกระจายหายไปอีกครั้ง...ปลายดาบตวัดง่ายๆไปจ่ออยู่ที่ลำคอระหงของร่างโปร่งบางเจ้าของนัยน์ตาสองสีทันที

.
.
.
.
จะให้เจ้ารู้ไม่ได้ว่าแท้ที่จริงแล้วข้า......
ใช่...จะให้เจ้ารู้ไม่ได้...ว่าแท้ที่จริงแล้วข้า......


ข้าบอกแล้ว...ว่าข้าทำได้ทุกอย่างเพื่อฉุดรั้งเจ้าเอาไว้....
ข้าบอกแล้ว...ว่าข้าทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เจ้ามาไว้ในครอบครอง....


ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน...
ใช่...ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบัน...


ข้าจะไม่ยอมให้ใครแย่งเจ้าไป มุคุโร่!
ข้าจะแย่งเจ้ามาให้ได้ มุคุโร่!
.
.
.
.

ใบหน้าที่จดจำได้ดีทุกรายละเอียดจนแม้แต่ต่อให้หลับตาคลำก็ยังรู้ว่าคนตรงหน้าคือเจ้าของแผ่นดินสีขาว...คือเจ้าชีวิต....ทำให้ร่างกายโปร่งบางแข็งนิ่ง...ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าคนที่ยืนมองอยู่ไกลๆตั้งแต่เมื่อครู่ คือชายคนนี้...แต่พอร่างกายได้เข้าใกล้ ไฟที่เคยคิดว่ามอดดับไปนานแล้ว กลับกำลังลุกติดขึ้นมาอีกครั้ง...ร่างกายที่ไม่รักดีของเขา...กำลังตอบสนองต่อเสียงเรียกของคนตรงหน้า...ชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเกลียดสุดขั้วหัวใจ...ชายที่ครั้งหนึ่งเขาเคยขาดไม่ได้....ชายที่ชื่อ...เบียคุรัน...



หว๋า...เล่นแบบนี้ก็แย่สิ...มุคุโร่คุง...   ใบหน้ายิ้มแย้มสบายๆที่ไม่ได้เห็นมานานถูกส่งมาให้ ทั้งๆที่ดาบในมือยังคงจ่ออยู่ที่ลำคอของเขาอยู่



กลิ่นของดอกไม้ประเภทนี่น่ะ...จะทำให้หัวใจสูบฉีดได้ดีกว่าปกตินี่นะ...ถ้าใช้กับคนที่หัวใจเต้นช้าหรือว่าคนที่กำลังจะตายก็คงดี แต่ถ้าเอามาใช้กับคนที่กำลังโมโหสุดขีดอย่างฮิบาริคุง...เจ้าว่า...มันจะเกิดอะไรขึ้นกันน้า....    จากดวงตาที่ยิ้มสดใสแปรเปลี่ยนเป็นนัยน์ตาเจ้าเล่ห์สีอเมทริส ที่ไม่ว่าจะได้มองกี่ครั้งก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธมันได้ มือที่ใหญ่กว่าอีกข้างกำรอบต้นแขนของร่างที่เสียเปรียบแน่น...ใบหน้าหล่อเหลายื่นเข้ามาแบบไม่ทันได้รู้ตัว ริมฝีปากที่ห่างหายกันไปนานบดเบียดลงมาอย่างหิวกระหาย...ทั้งๆที่รุนแรง แต่ร่างกายไม่รักดีกลับ...โหยหามันอย่างน่ารังเกียจที่สุด 



อื้อ!”   มือเรียวผลักไสร่างสูงกว่าตรงหน้า แต่ก็ออกแรงขยับตัวไม่ได้มาก เพราะปลายดาบคมกริบยังคงไม่ละออกไปจากลำคอ...ส่วนที่แหลมที่สุดกำลังลิ้มชิมรสเลือดของเขาเมื่อมันค่อยๆกรีดเป็นรอยเล็กๆบนลำคอขาว



แฮก...แฮก.......เจ้า!”  หลังจากที่ริมฝีปากละออกไป ร่างโปร่งถึงกับหอบเมื่อกอบโกยอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน



คิดถึงจังเลยน้า...มุคุโร่คุง...   เชือกอย่างดีที่ใช้มัดเส้นผมสีไพลินยาวสลวยถูกกระตุกออก ก่อนที่มันจะถูกยัดเยียดหน้าที่ใหม่ให้ โดยการมัดมือเรียวทั้งคู่ของเจ้าของมันแทน ทั้งๆที่ดิ้นรน แต่ทำไมชายคนนี้ถึงได้ทำเหมือนกับทุกอย่างมันง่ายดายไปเสียหมด...ร่างโปร่งบางที่เคยยิ้มละไมอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะมีความรู้สึกเช่นไรแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนคนนี้กลับยิ้มไม่ออก ร่างกายโปร่งบางที่ไม่เคยหวาดหวั่นต่อสิ่งใด กลับไม่อาจต่อต้านต่อคนคนนี้ได้ ทั้งๆที่ต่อสู้ ทั้งๆที่ไม่เคยคิดที่จะยอม...แต่ทว่า...อำนาจของท้องนภา...ก็ยังคงเป็นอะไรที่เขาไม่อาจจะขัดขืนได้อยู่วันยังค่ำ



เรื่องทางนี้เดี๋ยวข้าจัดการเองก็ได้ ฮิบาริคุง...เจ้าไปหาคนของเจ้า เถอะ...    เน้นย้ำที่คำสุดท้ายเป็นพิเศษ เพื่อเร่งให้เจ้าของแผ่นดินสีดำออกไปจากที่นี่ซะ...ความสัมพันธ์ทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างทั้งสามคน จะได้สิ้นสุดลงเสียที....



วัน เวลา ที่ข้ารอคอยมานานแสนนาน....กับแผนการทุกอย่างที่กำลังจะสำเร็จไปได้ด้วยดี....



นัยน์ตาคมกริบสีดำสนิทมองมาที่พี่ชายของตนเป็นครั้งสุดท้าย ในแววตามีร่องรอยวูบไหว ก่อนที่จะตัดสินใจหันหลังกลับไปอีกทาง ขาเรียวก้าวเดินออกไปอย่างสิ้นไร้ซึ่งความอาวรณ์ใดๆ ต่างจากดวงตาสองสีที่มองแผ่นหลังนั้นอย่างเจ็บลึกในจิตใจ....ต่อให้ข้าชิงชังเจ้าแค่ไหน...แต่ข้าก็ไม่อาจตัดขาดจากเจ้าได้....



ถึงแม้ข้าจะไม่หวัง ให้เจ้าช่วยข้าจากชายตรงหน้า...แต่อย่างน้อย...อย่าเพิ่งเดินหนีจากข้าไปได้ไหม...น้องชายคนเดียวของข้า....เคียวยะ



ริมฝีปากที่กำลังจะเอ่ยเรียกชื่อของคนที่เดินจากไปเป็นครั้งสุดท้าย ถูกปิดลงด้วยผ้าสีขาว เหลือเพียงสองตาเท่านั้นที่ร้องเรียกให้แผ่นหลังนั้นหันกลับมา.....ได้โปรด....เคียวยะ



ระหว่างข้ากับเจ้า...สายสัมพันธ์ที่กว่าจะสร้างมันขึ้นมาได้ของเรา...มันจบลงแล้วโดยสิ้นเชิง อย่างนั้นหรือ....หยาดน้ำสีใสไหลลงมาตามแก้มโดยที่ไม่รู้ตัว...มือใหญ่สีขาวเช็ดรอยน้ำตาให้หายไปจากใบหน้า...เสียงกระซิบแผ่วเบาลอยละล่องอยู่ที่ใบหู....ไม่นานสติทั้งหมดที่มีอยู่ก็ดับวูบลงไป.....



ไม่ว่าสิ่งที่ข้าทำ หรือสิ่งที่เจ้าทำ...จะเลวร้ายแค่ไหน....แต่ข้าก็ยัง...รักเจ้า น้องชายคนเดียวของข้า....รักเจ้า....เคียวยะ....




.............................................................................................................................................................




สองมือยังคงกำทอนฟาแน่น...ความรู้สึกเจ็บแปลบและความว่างเปล่าเหมือนอะไรบางอย่างมันหายไปแบบนี้ มันคืออะไรกัน...ข้าทิ้งเจ้าไปแล้ว...ข้าคิดว่าข้าเกลียดเจ้า ข้าไม่ใยดีเจ้า ข้าแค้นเคืองเจ้า โกรธเจ้า ....แต่ทำไม....เมื่อยามที่ต้องเดินหันหลังจากมากลับรู้สึกว่า...ข้าไม่อยากทิ้งเจ้าไป....



เรียกสิ....



เรียกข้าสิ.....



แม้เพียงนิดถ้าเจ้าเรียกข้า....



ข้าอาจจะหันกลับไป....



แล้วยื่นมือคู่นี้ให้เจ้าอีกครั้งก็ได้....มุคุโร่




..............................................................................................................................................................................




ร่างสูงในชุดสีขาวสะอาดตายืนมองร่างโปร่งบางที่สลบไสลอยู่ที่โคนต้นไม้อย่างยินดี...ในที่สุดดอกไม้สีไพลินดอกนี้ก็กำลังจะเป็นของเขาทั้งหมดเสียที....ไม่สิ....ยังเหลือสิ่งที่คอยกวนใจอยู่อีกอย่างหนึ่งสินะ....



ออกมาได้แล้วมั้ง...บุปผามรณะ...เจ้าคงไม่คิดหรอกนะว่าดอกไม้เล็กๆของเจ้าจะทำอะไรข้าได้....



.
.
.
.
.
.
.
.
.
.


โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป.....ไป.......





อย่า...อย่าเพิ่งด่าอิป๋าหล่อเลว(คนไหนวะ?) ของข้าพเจ้านะ!...
ถึงจะรู้สึกได้ว่า ป๋าเบียมันวางแผนอะไรไว้ แต่ความจริงแล้ว ทูน่าก็ไม่ได้เป็นคนดีนักหรอกน่า...
ทุกคนหลอกคุณมุเพื่อให้ได้มาเป็นของตัวเองทั้งนั้นแหละ...>.<...
เพราะงั้น...เปลี่ยนสมการเป็น 1869 ซะดีไหมน้า (โดนถีบซะดีมั๊ย เอ็งน่ะ!!!)
ตะ...แต่ทูน่าก็มีเหตุให้ต้องร้ายนะ....เพราะงั้น.....

คึหึหึ...ส่วนสมการใหม่ที่โผล่เข้ามา....ไม่ค่ะ...เรื่องนี้ป๋าแซนไม่ SM!!!
ป๋ากับน้องหลามคนนี้...ไม่รู้จักกันมาก่อนค่ะ คนที่ป๋ารักคือพี่ชายฝาแฝดของน้องหลามที่ซี้ม่องเท่งไปแล้วนั่นเอง 5555(หัวเราะอะไรฟะ!)
และขออภัยอีกนิด...ที่ข้าพเจ้ามิอาจใช้คำว่า ข้ากับเจ้า กับน้องหลามและป๋าแซนได้ มัน....เอิ่ม....?

และหลายๆท่านอาจจะงงๆ ว่าดอกสโนว์ดรอป เกี่ยวพันกับสามคนนี้ยังไง(คุณฮิ คุณมุ ทูน่า) แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหนูก๊ก อ่า...ตอนนี้บอกได้แค่ว่า...มันเป็นดอกไม้ที่ทำให้เรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นมา ความสัมพันธ์ของคุณฮิ คุณมุ ทูน่า...มันเกิดจากดอกไม้ดอกนี้แหละค่ะ...ถ้าอยากรู้....โปรดติดตามตอนต่อไป...ไป...ไป....

ว่าแต่...ทำไมตอนนี้พระเอกนางเอกชั้นออกน้อยอย่างงี้เนี่ย!!! (นางเอกน่ะใช่ แต่พระเอก?...คุณฮิก็ออกทั้งตอนมิใช่รึ?...คึหึหึ?)
โอกกกก...เห็นรูปของคุณน้องสโนว์แล้วทนสงสารยามะไม่ไหวแล้วค่ะ....T^T...
หน้าตาแกช่างชีช้ำกระหล่ำดอกได้ใจชั้นมากๆเลยยามะเอ๊ย...T^T...gyaaaa…หนีไปปั่นแฝดพี่เอาให้ยามะแฮปปี้แบบสุดๆเลยดีกว่า...>.<...

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 มกราคม 2558 เวลา 11:25

    คือตอนนี้หลังจากอ่านจบ
    เค้าน้ำตาจะไหล คือสงสารคุณฮิใจจะขาดค่ะ แบบแทบจะจับฮายาโตะใส่พานถวายท่านเลยค่ะ
    1869 คงจะชีำน้อยกว่านะคะ มุก้โดนหลอก คำสั่งอะไร เหมือนสองคนนั้นจะเล่ยแผนกันสุดยอดเลย
    คือคู่ทางป๋าเนีายคิดว่าคงสนุกแน่เลยค่ะ แต่ไอ้หกคนที่แย่งกันนี่มัน ใจจะขาดดด
    พี่ม้าออกมาอีกนี่จะสนุกไปละนะ55555

    ตอบลบ